จ.เลย ยกระดับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่ผ่านการรับรองคุณภาพ ก้าวสู่ธุรกิจระดับเติบโต

เซ็นทรัลแล็บไทย ตรวจสอบ “กาแฟชื่นเลย” ผลิตภัณฑ์กลุ่มวิสาหกิจชุมชน จ.เลย ไม่พบสารตกค้าง ปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมจัดเสวนาเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องการรับรองผลิตภัณฑ์ ยกระดับสู่มาตรฐานสากล

นายชนาส ชัชวาลวงส์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และนางเกศษิณ ลำมะยศ เกษตรจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายนราวิทย์ เปาอินทร์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือเซ็นทรัลแล็บไทย ลงพื้นที่เยี่ยมชมแปลงเกษตรอินทรีย์ ออร์แกนิค 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ปลูกกาแฟปลอดสารพิษ บนเนื้อที่ 20 ไร่

นางสุปรานี มืดทับไทย เกษตรกรเจ้าของกาแฟชื่นเลย กล่าวว่า หันมาปลูกกาแฟออร์แกนิค โดยไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี แต่ใช้ปุ๋ยคอกแทน และจากประสบการณ์ที่เคยปลูกแบบอินทรีย์ พบว่า ผลผลิตดีแต่กลับขายได้ราคาถูก แต่การปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี อาจจะทำให้ผลผลิตลดลงแต่ก็ทำให้ผู้บริโภคมีสุขภาพดี ซึ่งการปลูกกาแฟออร์แกนิคนี้ ได้ความรู้มาจากการอบรมทางด้านการเกษตร

เจ้าของไร่กาแฟชื่นเลย ยังระบุว่า เมล็ดกาแฟจากไร่นี้ ปลอดสารพิษทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมดิน ต้นกาแฟ การใช้ปุ๋ย ไปจนถึงการคั่วเมล็ดกาแฟ จึงถือได้ว่าปลอดสารพิษทุกกระบวนการผลิต ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการให้ผู้บริโภคได้ดื่มกาแฟที่ปลอดสารพิษ แม้ผลผลิตจะน้อย แต่กลับทองว่าคุ้มค่ากับราคาขายที่มากขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว

โดยภายในงานเสวนาพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ที่จัดโดยจังหวัดเลย และเซ็นทรัลแล็บไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานเกษตรกรในจังหวัดเลย มีการนำเมล็ดกาแฟจากไร่ชื่นเลยมาตรวจสอบสารเคมี เพื่อยืนยันความเป็นออร์แกนิคแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ จากการทดสอบจากเครื่องทดสอบเบื้องต้น ให้ผลว่ากาแฟจากที่นี้ ไม่มีสารเคมีตกค้าง

นายนราวิทย์ กล่าวว่า เซ็นทรัลแล็บไทย มีภารกิจ ในการทดสอบสินค้าเกษตร ด้านอาหารและความปลอดภัย ตามข้อกำหนดว่าด้วยความถูกต้องและความแม่นยำ เพื่อตอบสนองความปลอดภัยสินค้าไทยจำหน่ายไปทั่วโลก หรือ ครัวไทย สู่ครัวโลก การลงพื้นที่ให้ความรู้กับเกษตรกรครั้งนี้ ภายในจังหวัดเลย เชื่อว่าจะสามารถช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า และการทำเกษตรอินทรีย์ให้ได้มาตรฐาน เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยอนาคตเตรียมทำความร่วมมือกับกลุ่มเกษตรจังหวัดเลย ที่รวมกลุ่มเกษตรอินทรีย์กว่า 200 คน เพื่อยกระดับผลผลิตให้มีมาตรฐานตามหลักสากล