Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ความคืบหน้ากรณีล่อซื้อจับกระทงลิขสิทธิ์ น้องอ้อม เยาวชนวัย 15 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งต้องเสียเงินให้กับผู้อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ไป 5,000 บาทแทนการถูกดำเนินคดี ต่อมาพบว่าผู้อ้างเป็นตัวแทน คือ นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ “นัน กิ่งเพชร” ถูกตำรวจภูธรภาค 3 จับกุมตัวคดีกรรโชกทรัพย์ตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม แต่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า คดีของน้องอ้อม ต่างออกไปและต้องใช้เวลา เพราะคดีที่ จ.มหาสารคามนั้น เป็นคดีที่ผู้อ้างเป็นตัวแทนไปหลอกให้ผู้เสียหายทำสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งปกติผู้เสียหายไม่มีสินค้าชนิดนี้ในร้าน แล้วไปล่อซื้อเพื่อจับกุมเรียกค่าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างชัดเจน ซึ่งต่างกับคดีการล่อซื้อกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีการโพสต์ขายอยู่ก่อนแล้ว

วันที่ 26 พ.ย. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำสั่ง จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เดินทางไปที่ สภ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อ ลุยกวาดล้างแก๊ง Bravo หรือแก๊งนายประจักษ์ โพธิผล ที่ล่อซื้อกระทงเด็กอายุ 15 ปี โดย พล.ต.อ.วิระชัย ไปที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแถลงต่อศาลขออำนาจศาลออกหมายจับด้วยตัวเอง

ต่อมา พล.ต.อ.วิระชัย ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ช่วงนี้ช่วงค่ำตนได้เชิญผู้บริหารบริษัทเวอริเซ็ค ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายประจักษ์ 11 คนมาซักถามพร้อมกันทั้งหมด จนได้ความว่า นายประจักษ์ ปลอมแปลงเอกสารใบมอบอำนาจ ด้วยการปลอมลายเซ็น เป็นการเขียนหมึกทับลายเซ็นเดิม และเลขใบมอบอำนาจเป็นเลขที่ที่ใช้กับกรณีอื่น ขณะที่ใบมอบอำนาจฉบับที่ใช้ดำเนินคดีกรณี แมวกาฟิวส์และหมีริลัคคุมะ ปรากกฏว่าไม่ได้ออกจากบริษัท ดัวนั้น การแจ้งความจับกุมจึงเป็นการใช้เอกสารปลอม ซึ่งทางผู้บริหารบริษัท เวอริเซ็ค ก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายประจักษ์ต่อไป

นอกจากนายประจักษ์ ยังมีผู้ร่วมขบวนการ คือ นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร ซึ่งถูกจับดำเนินคดีในกรณีที่มหาสารคามในขณะนี้ และ น.ส.วนิสา ถินสุวรรณ์ ลูกสาวนายนัน ที่เป็นผู้ล่อซื้อ โดยแบ่งบทให้นายนัน เล่นบทโหดในการเจรจา ส่วนนายประจักษ์ จะรับบทพ่อพระ เจรจาให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน

ศาลได้ออกหมายจับทั้ง 3 คน โดยมีความผิดประกอบด้วย ข้อหา

1.ร่วมกันปลอมเอกสาร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ใช้เอกสารปลอมทำให้เกิดความเสียหาย ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

3. แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

4. แจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญาแก่พนักงานอัยการฯ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

5. กรรโชกทรัพย์ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า คดีนี้ไม่ได้ทำเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา แต่ให้ตรวจสอบทั่วประเทศ คดีนี้เป็นแค่การเริ่มต้น จากนี้จะมีการขุดรากถอนโคนขบวนการนี้ทั้งหมด สำหรับความผิดของแก๊งนี้ “เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ เมื่อกระทำกี่ครั้งก็ต้องถูกดำเนินคดีตามนั้น นับครั้งเอามาคูณครับ”

สำหรับกลุ่มของนายประจักษ์ พบแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 2562 รวมแล้ว 90 คดี ซึ่งได้สอบสวนบริษัทผู้มอบอำนาจเบื้องต้นทราบว่า ได้มอบอำนาจให้นายประจักษ์เพียง 35 คดี ในคดีอีก 55 คดีที่ไม่ปรากฎการยืนยันของบริษัทผู้มอบอำนาจจะได้ตรวจสอบต่อไป หากพบการกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน สภ.เมืองนครราชสีมา ก็จะดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำวจภูธรภาค 3 สามารถติดตามจับกุมตัวนายประจักษ์ โพธิผล ได้ที่เขตจังหวัดขอนแก่น อยู่ระหว่างนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า