SHARE

คัดลอกแล้ว

น.ส.พรพรรณ ค่ำคูณ ผู้บาดเจ็บ

ผัวหึงโหด บุกบ้านเอามีดจี้คอเมีย-เผารถ หลังตามง้อไม่สำเร็จ ด้านตร.แจ้ง 3 ข้อหา ยังไม่เข้าข่ายพยายามฆ่า ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 รอใบรับรองแพทย์เหยื่อประกอบสำนวนคดี

จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก Red Skull Endgame ได้เผยแพร่เรื่องราวและแชร์ภาพของหญิงสาว 2 พี่น้อง ที่ถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมกับข้อความว่า ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย เอามีดมาฟันที่หัว นอกจากนี้ ยังข่มขู่และเผารถยนต์ได้รับความเสียหาย จนน้องสาวทนไม่ได้ หนีมาอยู่บ้านพี่ และแฟนน้องก็ตามมาขอคืนดี ซึ่งน้องไม่ยอม ก่อนไปแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย ตำรวจบอกว่าเป็นแค่เรื่องทะเลาะวิวาท ก็เลยแจ้งว่าพยายามฆ่า ตำรวจก็บอกว่าพยายามฆ่าไม่ได้ เพราะใช้มีดฟันแต่ไม่ได้แทง ไม่ทำให้ถึงชีวิตนั้น

https://youtube.com/watch?v=GnTBJdvVx24

ล่าสุด วันนี้ (22 ส.ค.62) น.ส.พรพรรณ ค่ำคูณ อายุ 33 ปี ภรรยาและผู้บาดเจ็บ เผยว่า ได้อยู่กินกับนายวินัย ไพรสิงห์ อายุ 45 ปี สามี (ผู้ต้องหา) มา 12 ปี ที่ผ่านมาก็ปกติดีแต่เมื่อ 4-5 ปี หลังนายวินัยเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่สนใจครอบครัว และได้แยกกันอยู่หลายปีทำให้ความผูกพันธ์แบบสามีภรรยาค่อยๆ หายไป

จนเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เธอถูกนายวินัยทำร้ายร่างกาย ตอนนั้นนายวินัยมีอารมณ์ฉุนเฉียว เกรงว่าถ้าอยู่ต่อจะถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจึงได้พาลูกๆ สองคนหนีมาอยู่บ้านพี่สาวย่านเพชรเกษม 81 และนายวินัยขู่ฆ่ามาตลอดและกล่าวหาเธอว่า เป็นคนที่ทำให้ชีวิตนายวินัยพัง เพราะฉะนั้นชีวิตของเธอต้องพังด้วย

น.ส.พรพรรณ กล่าวต่อว่า หลังจากมาอยู่บ้านพี่สาวได้ 2 เดือนล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ส.ค.นายวินัยติดต่อมาบอกจะมาหาลูกที่บ้าน เธอก็ไม่ได้กีดกัน แต่พอมาถึง ก็ได้เข้ามาถามคาดคั้นเธอว่าจะกลับไปคืนดีกับเขาไหม เธอก็บอกว่า หากยังไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ เธอก็ไม่คืนดี จากนั้นนายวินัยก็ควักมีดออกมาจี้คอเธอ ซึ่งตอนนั้นลูกทั้งสองคนก็เห็นเหตุการณ์ เขาก็ร้องไห้ แต่นายวินัยไม่ยอมหยุด จนพี่สาวเธอมาเห็น เลยรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน นายวินัยวิ่งตามพี่สาวไป ทำให้พี่สาวโดนมีดเจาะเข้าที่หัว พอเหตุการณ์มันบานปลาย นายวินัยจึงรีบหนีไป ส่วนเรื่องคดีเธอเองติดใจที่ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดีได้เนื่องจากหลักฐานมีไม่เพียงพอ แม้ว่าผลตรวจของพี่สาวแพทย์ลงความเห็นว่าไม่สาหัสแต่ถ้าหากช่วยไม่ทันอะไรจะเกิดขึ้น

ด้านพี่สาวผู้บาดเจ็บ นางพรมรินทร์ ค่ำคูณ บอกว่า หลังจากที่น้องสาวหนีมาอยู่กับเธอ และเวลานายวินัยจะมาเยี่ยมลูกหรือน้องสาวนั้น เธอไม่เคยห้ามหรือกีดกันเลย และคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาทำแบบนี้กับน้องสาว และตอนเกิดเหตุเธอเห็นว่าน้องสาวถูกมีดจี้คออยู่แล้วกำลังจะลากเข้าห้องครัวเพื่อทำร้ายร่างกาย น้องได้ตะโกนบอกให้เธอไปหาคนมาช่วย เธอก็รีบไปหน้าบ้าน แต่เห็นว่าประตูล็อก จึงได้พยายามแย่งมีดกัน ทำให้เธอโดนลูกหลง มีดเจาะเข้าที่หัว เป็นแผลยาว 1 เซนติเมตร และมองว่าเหตุการณ์นี้ นายวินัยวางแผนมาแล้ว เพราะมีการล็อกประตูบ้านด้วย นึกไม่ถึงว่านายวินัยจะทำร้ายร่างกายภรรยาของตัวเองได้ลงคอ

ทั้งนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียหาย ย่านเพชรเกษม 81 พบหลานผู้บาดเจ็บ นายศรชัย บุญนาค อายุ 33 ปี เล่าว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 14 ส.ค. พี่สาวมาปลุกว่านายวินัยเผารถที่จอดอยู่หน้าบ้าน แต่ตอนเผาไม่เห็นตัวนายวินัย โดยเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากที่นางสาวพรพรรณ และพี่สาวถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ตอนนี้คนในครอบครัวนอนไม่เต็มอิ่ม อยู่ไม่เป็นสุข อยู่อย่างผวา ส่วนสาเหตุคาดว่ามาตามง้อ น.ส.พรพรรณ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมคืนดีด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร ผกก.สน.หนองแขม เปิดเผยผ่านโทรศัพท์กับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า คดีนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน คือทำร้ายร่างกาย ซึ่งขณะนี้ต้องรอผลตรวจจากทางแพทย์อีกหนึ่งคน คือวันที่ 23 นี้ ถึงจะได้ผลตรวจ ส่วนอีกรายหนึ่งแพทย์ที่ได้ผลตรวจแล้ว มีความเห็นว่าถูกทำร้ายแต่ไม่สาหัส ส่วนตัวนายวินัยขณะนี้ได้หลบหนีไปแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามอยู่ ส่วนอีกคดีคือเผารถ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานคิดว่าอีกประมาณสองวันจะได้หมายจับ คดีทำร้ายร่างกายคือที่ศาลแขวงบางบอน ออกหมายจับเลยไม่ได้ต้องออกหมายเรียกก่อน และไม่ได้นิ่งนอนใจ

ส่วนที่ผู้เสียหายร้องว่าตำรวจไม่ได้เร่งดำเนินการให้ ทางพ.ต.อ.ณรัช กล่าวว่า  เรื่องนี้ได้อธิบายกับผู้เสียหายไปแล้วว่าขั้นตอนของกฏหมายต้องทำอย่างไรบ้าง แต่เขาอาจจะไม่เข้าใจ ยืนยันว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำครบถ้วนแล้ว ในด้านของการแจ้งข้อกล่าวหานั้น พ.ต.ท.วิชิต สวัสดี รองผกก.(สส.) สน.หนองแขมระบุว่าเบื้องต้นได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายแต่จะสาหัสหรือไม่ต้องรอผลตรวจจากแพทย์อีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว, พกพาอาวุธ และทำลายทรัพย์สินผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย

 

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า