SHARE

คัดลอกแล้ว

ถ้าพูดถึงชายที่ชื่ออีลอน มัสก์ จะนึกถึงอะไร? Ironman ในโลกความเป็นจริง มหาเศรษฐี นักปั่นในตำนาน หรือชายผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ให้โลก

อีลอน มัสก์ ถูกขนานนามในฐานะหนึ่งในอัจฉริยะแห่งยุค เขาได้รับการยกให้เป็น ‘บุคคลแห่งปี ประจำปี 2564’ จากนิตยสาร Times หลังจากที่เขาพามูลค่าบริษัท Tesla พุ่งทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของนิตยสาร Fobes ประจำปี 2022 อีลอน มัสก์ มีทรัพย์สินมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ 

นอกจากจะเป็นชายผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนนึงของโลก เขายังเป็นต้นแบบการใช้ชีวิต ยังเป็นไอดอลของใครอีกมากมาย ทุกถ้อยคำที่เขาพูดมักจะถูกจับจ้องอยู่เสมอ ไม่ว่ามันจะสร้างแรงบันดาลใจ หรือสร้างความพังทลายก็ตาม 

แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงกรณีแรก และแปลส่วนหนึ่งในสุนทรพจน์ที่ดีที่สุดตลอดกาลที่อีลอน มัสก์ที่กล่าวในพิธีรับปริญญา สถาบันเทคโนโลยีแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2012 สุนทรพจน์ที่มีชื่อว่า ‘Magicians of the 21st Century’ 

[จุดเริ่มต้นของเวทมนตร์แห่งนวัตกรรม]

“ตอนที่ผมยังอายุน้อย ผมไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองจะทำอะไรเมื่อโตขึ้น ผู้คนถามคำถามนี้กับผมเสมอ สุดท้าย ผมก็นึกถึงไอเดียหนึ่งขึ้นมาได้ ซึ่งมันก็คือ ไอเดียเกี่ยวกับการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ แล้วผมก็คิดว่า มันเข้าท่าอยู่นะ

ที่คิดอย่างนี้ เพราะผมเคยอ่านเจอคำพูดของ Arthur C. Clarke เขาบอกว่า เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากพอ ไม่ได้แตกต่างอะไรกับเวทมนตร์ ซึ่งมันเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ อะไรก็ตามที่คุณมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่แสนปกติในวันนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อ 300 ปีก่อน 

ความคิดบ้าๆ ที่ว่าวันหนึ่งพวกเราจะบินได้ จะยังเห็นหน้ากัน แม้ตัวของเราจะห่างไกลเป็นพันๆ ไมล์ จะพูดคุยกันได้อย่างลื่นไหล เพราะสิ่งที่เรียกว่า ‘อินเทอร์เน็ต’ สิ่งเหล่านี้ มองยังไง ก็คงไม่ต่างกับความเชื่อในลัทธิแปลกๆ แล้วยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้ทันที ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของโลก สิ่งเหล่านี้คือเวทมนตร์ 

พูดตามความจริง ผมคิดว่าเราไปไกลกว่านั้น มีหลายสิ่งที่เรามองว่ามันเป็นเรื่องแสนธรรมดาในปัจจุบัน แต่มนุษย์ไม่เคยแม้แต่จะกล้าจินตนาการถึงมันในอดีต ไม่เคยแม้แต่จะกล้าคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของเวทมนตร์เลยด้วยซ้ำ 

ผมเลยคิดว่าเรามาไกลมาก แล้วคิดต่อว่า ถ้าผมทำอะไรบางอย่างได้ ถ้าผมพาเทคโนโลยีไปไกลกว่าที่มันเคยเป็น มันก็ไม่ต่างอะไรกับเวทมนตร์เลยสิ ฟังดูดีนะ”

[ช่วงเวลาแห่งการค้นหาตัวเอง]

“ในช่วงชีวิตหนึ่ง ผมเคยเผชิญกับปัญหาวิกฤตการมีชีวิต (existential crisis) หดหู่ ซึมเศร้า พยายามหาเหตุผลของการใช้ชีวิตต่อไป ผมพยายามอย่างหนักเพื่อตอบตัวเองว่า ชีวิตคืออะไร สิ่งไหนคือจุดมุ่งหมายของมัน 

สุดท้าย ผมสรุปกับตัวเองว่า ถ้าสามารถขยายขอบเขตความรู้ของโลกให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ผลักขอบข่ายของสติปัญญามนุษย์ให้ไกลยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เราจะพบ ‘คำถาม’ ที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำมาสู่คำตอบที่กระจ่างชัด และนั่นเป็นหนทางเดียวที่จะพาเราไปต่อ

ผมคิดต่อไปว่า ปัญหาใหญ่ที่จะกระทบอนาคตของมนุษยชาติคืออะไร พูดกันอย่างไม่อ้อมค้อม ความคิดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแค่ความต้องการหาวิธีทำเงินให้ได้เยอะๆ แต่ผมคิดถึงความสำคัญของอนาคตมนุษยชาติจริงๆ”

[จุดเริ่มต้น SpaceX ]

“ผมตัดสินใจเดินทางไปรัสเซีย 3 ครั้ง เพื่อขอซื้อจรวดขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missile/ICBM) เพียงเพราะมันเป็นดีลที่ดีที่สุดที่คิดได้ ผมบอกคุณได้เลยว่ามันแปลกมาก ที่ต้องเดินเข้าไปในกองกำลังจรวดของรัสเซียในปี 2001-2002 และบอกกับพวกเขาว่า  ผมอยากจะซื้อจรวดที่ใหญ่ที่สุดของคุณ 2 ลำ แต่คุณไม่ต้องขายนิวเคลียร์ให้ผมได้นะ

หลังจากไปรัสเซียมาหลายครั้ง ผมก็สรุปกับตัวเองว่า สิ่งที่ผมคิดยังไม่ถูกต้อง การซื้อจรวดที่รัสเซียยังไม่ใช่คำตอบของภารกิจสำรวจดาวอังคาร และความต้องการขยายอาณานิคมมนุษยชาติไปนอกโลก 

ดังนั้น หลังจากการเดินทางครั้งที่ 3 ผมพูดว่า โอเค สิ่งที่เราต้องทำจริงๆ คือพยายามแก้ปัญหาการขนส่งทางอวกาศ และเริ่มทำ SpaceX ซึ่งทุกคนที่ผมคุยด้วยไม่มีใครเห็นด้วยกับไอเดียนี้เลย

หลังจากที่บอกเพื่อนคนหนึ่งว่าจะทำอะไร เขาบอกให้ผมนั่งลง และเปิดวิดีโอจรวดระเบิดให้ดู ซึ่งเขาไม่ได้พูดผิดซักนิด การจะประสบความสำเร็จตั้งแต่ก้าวแรกนั้นยากมาก ผมไม่เคยสร้างอะไรในลักษณะนี้มากก่อน 

ตอนปล่อยตัวจรวดครั้งแรก แล้วมันระเบิด ผมเดินไปหยิบเศษจรวดตรงฐานปล่อยตัว มันน่าเศร้าอยู่นะ… แต่เราพยายามศึกษาต่อในทุกๆ ครั้งที่มันล้มเหลว จนในที่สุดมันก็สำเร็จในครั้งที่ 4 

ในปี 2008 จรวดของเราเดินทางไปถึงวงโคจร การเดินทางที่เกิดขึ้นพร้อมกับเงินก้อนสุดท้ายของเรา ต้องขอบคุณพระเจ้าที่มันสำเร็จ ตอนนั้นผมพูดออกมาว่า “มันต้องครั้งที่ 4 สินะ” (ล้อมาจาก Third time’s the charm)

สรุปคือจรวด  Falcon 1 ของเราไปถึงวงโคจร จากนั้นเราพัฒนาต่อ จนมาเป็น Falcon 9 ที่มีแรงขับเต็มกำลัง เราทำให้มันขึ้นไปถึงวงโคจรได้ 

จากนั้นเราก็พัฒนายานอวกาศ Dragon ต่อ และไม่นานมานี้ก็เพิ่งเดินทางไปสถานีอวกาศ ISS แล้วกลับมาโลกอย่างปลอดภัย นั่นเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก ผมโล่งใจที่สุด แล้วจนถึงตอนนี้ยังแทบไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

[โลกในอนาคต]

แต่มันจะไม่หยุดแค่นี้ ผมคิดว่ามันยังมีอะไรอีกมากให้พวกเราทำ และเราไปได้ไกลมากกว่าแค่เปลี่ยนอารยธรรมโลกเป็นอารยธรรมแห่งอวกาศ ทำให้มนุษย์กลายเป็นสปีชีส์แห่งจักรวาล นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ผมหวังว่าพวกคุณบางคนจะเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจนี้ไม่ว่าจะที่ SpaceX หรือที่บริษัทไหนก็ตาม เพราะมันสำคัญที่สุดที่จะอนุรักษ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ และขยายขีดจำกัดสติปัญญาของมนุษย์

ที่พูดแบบนั้น เพราะผมมองว่าเรื่องนี้มีค่ามากพอที่จะทุ่มเทให้กับมัน ทุกคนรู้ดีว่าโลกของเรามีอายุ 4,000 ล้านปีแล้ว ส่วนอารยธรรมมนุษย์ก็ดำเนินมาอย่างน้อยที่สุดราวๆ 10,000 ปี แล้วนั่นมากพอแล้ว อารยธรรมหรือสติปัญญาของมนุษย์เป็นการดำรงอยู่ที่รอวันดับสูญ 

ผมคิดว่าผมค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต ผมไม่อยากให้เพื่อนมนุษย์ต้องจบลงด้วยความคิดทำนองว่ายังไงพวกเราก็ต้องตายเร็วๆ นี้ เพราะทุกอย่างบนโลกจะปกติสุขแบบนี้ไปอีกนาน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ว่านาน

แต่ถึงแม้ว่า 99% จะบอกว่าพวกเราจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้ายังเหลือความเป็นไปได้แม้เพียง 1% มันก็คุ้มค่าพอที่จะพยายามทำให้แน่ใจ ว่าเรายังมีดาวเคราะห์สำรองเอาไว้ ซึ่งผมคิดว่ามันสำคัญมากๆ 

จากทั้งหมดที่เล่ามา ผมหวังว่าจะมีบทเรียนซ่อนอยู่ในนั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมอยากให้พวกคุณเป็นคือ จอมเวทย์แห่งศตวรรษที่ 21 อย่าให้อะไรมาฉุดรั้งคุณ จำไว้ว่าจินตนาการคือข้อจำกัด ออกไปจากมันซะ และสร้างพลังของคุณเอง

อ้างอิงจาก

https://www.youtube.com/watch?v=ur9zIimJzaw

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า