Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปคำตอบ ‘เกรียงไกร เธียรนุกุล’ ประธานสภาอุตฯ หลัง ‘พิธา’ ยกทีมศก.ก้าวไกล เข้าพบ คุยประเด็นขึ้นค่าแรง 450 บาท และนโยบายทลายทุนผูกขาด

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้สัมภาษณ์กับรายการ TOMORROW สำนักข่าว TODAY หลังได้พบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจของพรรค โดยได้หารือถึงประเด็นนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ใน 100 วัน และประเด็นด้านการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม

นายเกรียงไกร กล่าวว่า พรรคก้าวไกลนำโดยนายพิธา ติดต่ออยากพบกับสภาอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆในอนาคต ซึ่งทาง ส.อ.ท. มีหลายเรื่องอยากสอบถามอยู่แล้ว โดยเฉพาะประเด็นสำคัญ คือ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวันใน 100 วันแรก หากกรณีที่ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นประเด็นที่กังวลค่อนข้างมาก

ประธานสภาอุตสาหกรรม ระบุต่อว่า ที่ผ่านมาการพิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใช้กลไกไตรภาคีที่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแต่ละจังหวัด ที่มีทั้งนายจ้าง ตัวแทนลูกจ้าง ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะมาตกลงอัตราค่าแรงขั้นต่ำจนได้ข้อสรุปที่จะเสนอส่วนกลางเพื่อประกาศใช้ ดังนั้นแต่ละจังหวัดจะมีค่าจ้างขั้นต่ำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลาย แต่การขึ้นเลย เป็น 450 บาท ถือว่ากระโดดทีเดียว 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ เป็นการขึ้นเร็วเกินไป กระชากมากเกินไป ทั้งนี้ เข้าใจถึงปัญหาทางฝั่งแรงงาน ที่มีเหตุผลเรื่องค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ รายรับไม่พอใช้ไม่พอกิน และไทยติดปัญหากับดักใหญ่ คือปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังสูงมาก ถือเป็นระเบิดเวลาในอนาคต จึงจำเป็นต้องปรับฐานรายได้ ให้เพียงพอจ่ายหนี้ได้ และสามารถมีพอกับค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นและเหลือเงินเก็บให้หลุดจากวงจรนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีปัญหาที่ต้องเข้าใจว่าผู้ประกอบการกำลังเผชิญปัญหาต้นทุนสูงทุกด้าน ทั้งวัตถุดิบ ค่าไฟฟ้าที่เป็นต้นทุนใหญ่และแพงมาก หากมาเจอค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นทันที คิดว่าจะกระทบหนัก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น อาทิ เกษตร อาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ใช้เครื่องจักร ซึ่งจะเป็นต้นทุนใหญ่ นอกจากนี้ที่ห่วงคือ กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งภาคผลิตและบริการ ท่องเที่ยว ที่เพิ่งฟื้นตัว และยังอ่อนแออยู่ผู้ประกอบการกลุ่มนี้จะลำบากมาก

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า มาตรการต้องบาลานซ์มองสองฝั่ง ไม่อยากใหเกิดปัญหาว่าผู้ประกอบการไปไม่ไหวและใช้วิธีเลิกจ้าง ก็จะเกิดวงจรปัญหากลับมาที่เดิม ทางส.อ.ท.ได้ฝากให้ทางพรรคก้าวไกลทบทวนหรือมีมาตรการชัดเจน เช่น การชดเชยช่วยเหลือ

“สภาอุตสาหกรรมเองใน 45 กลุ่มอุตสาหกรรมในปัจจุบันมีจำนวนมากเกือบครึ่งที่เป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงหรือไฮเทคโนโลยี ที่ต้องการแรงงานมีทักษะ ซึ่งกลุ่มแรงงานที่มีทักษะสูงทุกวันนี้จ่ายมากกว่า 350-360 บาทตามค่าจ้างขั้นต่ำ บางราย 400-800 บาทต่อวันมานานแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์​และไฮเทค รวมทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ แต่ด้วยส่วนใหญ่ยังเป็นอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นที่จะได้รับผลกระทบ เราจึงแนะนำว่า การจ่ายค่าแรงไม่ควรใช้มาตรการแรงงานขั้นต่ำ ควรใช้จ่ายตามทักษะ Pay by Skill ส่งเสริมให้แรงงานเพิ่มทักษะ ผ่านหลักสูตรอบรมให้มีทักษะ เมื่อทักษะเพิ่มขึ้นอาจจะได้ 500-600 บาทต่อวัน ดังนั้นในอุตสาหกรรมผู้ประกอบการจะยินยอมจ่าย เพราะคุ้มที่จะจ่าย win-win กัน และระยะยาวยังช่วยพัฒนาทักษะ ยกระดับแรงงานไทยให้มีคุณภาพ เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่าหากเทียบเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย ค่าแรงถูกกว่าเรา และมีแต้มต่อหลายอย่าง รวมทั้งประชากรเยอะกว่า ดังนั้นแรงงานไทยต้องพัฒนาไปยังอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่ม แต่ใช้ทักษะสูง”นายเกรียงไกรกล่าว

ส่วนประเด็นเรื่องนโยบายทลายทุนผูกขาดของพรรคก้าวไกลมีความกังวลหรือไม่ นายเกรียงไกร กล่าวว่า เป็นนโยบายที่สร้างความสั่นสะเทือนพอสมควร หลังเลือกตั้งจะเห็นว่าตลาดหุ้นติดลบแดง โดยกลุ่มที่มีมาร์เก็ตแคปสูง กลุ่มที่เข้าข่ายเป็นทุนผูกขาด กึ่งผูกขาดเหล่านี้ได้รับผลกระทบ ในแง่ตัวเลขทางจิตวิทยารับไปก่อน ดังนั้นแน่นอนกลุ่มทุนที่อาจอยู่ในข่ายดังกล่าวต้องลุ้นกันว่าจะเป็นอย่างไร เช่น กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อจะลดราคาค่าไฟ ย่อมส่งผลกระทบต่อกำไรแน่นอน และการปรับโครงสร้างก็ยังไม่รู้ว่าจะรื้อสัญญาหรือไม่ เพราะมีผกระทบหนักมาก เหล่านี้ยังไม่รู้ แต่ทางจิตวิทยาไปหมดแล้ว

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทยอยู่กับสภาพของการต้องเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมาตลอดทั้งความท้าทายจากนอกประเทศ Global Challenges ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ สงครามรัสเซีย-ยูเครน สิ่งเหล่านี้ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงเสมอ สำหรับการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าปรากฎการณ์การเมืองไม่เหมือนทุกครั้ง ไม่มีใครคิดถึงผลลัพธ์จะออกมาแบบนี้ บ้านใหญ่แต่ละจังหวัด ผู้ทรงอิทธิพล วันนี้แทบจะหายหมด ถือเป็นการดิสรัปต์อย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม เรามีสตาร์ทอัพที่มีไอเดียใหม่ คนรุ่นใหม่ มีวิธีคิดใหม่ วิธีสื่อสารใหม่ในการดิสรัปต์พวกของเดิม ซึ่งในภาคอุตสาหกรรมหรือในธุรกิจคนที่มาดิสรัปต์มักจะเป็นบริษัทเล็ก ๆ เด็กรุ่นใหม่ ความรู้ดี ใช้เทคโนโลยีเก่ง สามารถดิสรัปต์อุตสาหกรรมร้อยปีที่เคยทำกำไรต่อเนื่อง

ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงที่เร็วและแรงครั้งนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่คอยดูต่อไปอาจจะเป็นก้าวกระโดดหรืออะไรก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือ รัฐบาลผสมครั้งนี้จะต้องอยู่ในฝีมือการจัดตั้งให้มีส่วนผสมที่เหมาะสมเพื่อเสริมกัน เพื่อให้เอกชนคลายกังวลและทำให้เห็นภาพชัดเจนในการขับเคลื่อนต่อไป โดยเอกชนพร้อมทำงานกับทุกรัฐบาลรวมถึงพรรคก้าวไกล ยอมรับการเปลี่ยนแปลงตามผลเลือกตั้ง และความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง วันนี้อยากให้การเมืองนิ่ง มีเสถียรภาพ และเปลี่ยนผ่านได้ดี ความมั่นใจและนักลงทุนจะกลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งยังมีจุดแข็งและข้อดีที่จะดึงดูดนักลงทุนได้

ติดตามชมบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มทั้งหมด ที่มีการพูดคุยถึงแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมใหม่ และข้อเสนอต่าง ๆ ที่ส.อ.ท.ได้หารือกับพรรคก้าวไกลได้ที่นี่ 


 

My Country Talks ร่วมกับสำนักข่าว TODAY ขอเชิญผู้ที่มีความสนใจ เข้าร่วมกิจกรรม World Talks ที่จะชวนคนจากหลากหลายพื้นที่ของโลกมาแลกเปลี่ยนไอเดีย เรื่องราว มุมมอง ผ่านการสนทนาแบบ 1:1

ผู้เข้าร่วมจะได้รับโอกาสพูดคุยกับผู้ที่มาจากต่างวัฒนธรรม ต่างบริบท ต่างแนวคิด โดยคัดจากการตอบคำถามในแง่มุมต่างๆ

หากท่านสนใจเข้าร่วม สามารถเริ่มต้นจากการตอบคำถามด้านล่างนี้ หรือเข้าไปที่ https://www.theworldtalks.org/invite

*คำถามและบทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า