แปลคำต่อคำ จาก Dispatch กอบกู้ศักดิ์ศรี คิม ซอน-โฮ ฟังอีกด้านของเหตุดราม่า

#explainer คิม ซอน-โฮ นักแสดงคนดังจาก Start-Up โดนแฟนเก่า ชเว ยอง-อา ออกมาแฉยับ ว่าเป็นคนเกลี้ยกล่อมให้ไปทำแท้ง สร้างความผิดหวังให้แฟนคลับละครที่ชื่นชมผลงานของเขาเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่ ชเว ยอง-อา กล่าวไว้ทั้งหมด หลังจาก Dispatch สำนักข่าวสายปาปารัสซี่ ที่ได้รับการยกย่องว่ามีข้อมูล Exclusive มากที่สุดในวงการบันเทิงเกาหลี ออกมาเปิดเผยอีกหนึ่งสตอรี่ ที่เจาะลึกมากยิ่งกว่าสื่อไหนๆ เคยเสนอมา

เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร workpointTODAY จะแปลทุกสิ่งทุกอย่าง จาก Dispatch เอาไว้หลังจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป

————————–

“ยิ่งเรา Dispatch สืบค้นเรื่องนี้ลงไปลึกเท่าไหร่ ก็ค้นพบคำถามที่ไม่มีคำตอบมากขึ้นเท่านั้น

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ชเว ยอง-อา อดีตผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศช่อง KBS รู้จักกับคิม ซอน-โฮ ในช่วงปลายปี 2019 ผ่านเพื่อนของเธอ และในเดือนมีนาคม 2020 ทั้งคู่เริ่มคบหากันเป็นแฟน หลังคบกันได้เล็กน้อย ชเว ยอง-อา บอกกับ คิม ซอน-โฮ ตามตรงว่า เธอเคยแต่งงานมาก่อน และหย่าร้างเรียบร้อยแล้ว

เมื่อรู้เรื่องนี้ คิม ซอน-โฮ สับสนเล็กน้อย แต่หลังจากปรึกษากับเพื่อน เขาตัดสินใจว่า อยากจะลองคบเธอต่ออยู่ดี

“ผมจะเดทกับเธอต่อไป ที่ผมเริ่มคบหากับเธอ เพราะผมชอบเธอ จริงอยู่ พ่อแม่ของผมไม่ค่อยสบายใจนัก แต่สำหรับผม ไม่เห็นเป็นปัญหาตรงไหน ที่เธอเคยแต่งงานมาแล้ว” คิม ซอน-โฮ กล่าว

คิม ซอน-โฮ ต้องการใช้เวลาร่วมกับเธอ ดังนั้นเขาจึงเดินทางตลอดเวลา จากปูซาน ไปเมืองกัปพยอง เพื่อจะได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน ทั้งสองคนไปเที่ยวสวนสัตว์ สวนสนุก รวมถึงไปเที่ยวตามชานเมืองโซลด้วยกันอย่างต่อเนื่อง

ในโพสต์ที่ชเว ยอง-อา แฉคิม ซอน-โฮ เธอบอกว่าทั้งสองคนต้องเก็บความสัมพันธ์เป็นความลับ และไม่สามารถจับมือกันได้ต่อหน้าสาธารณชน Dispatch มีความสงสัยว่า ทำไมเธอต้องหลบซ่อนด้วย ในโพสต์ดังกล่าว ชเว ยอง-อา บอกว่าพอเธอทำแท้งแล้ว คิม ซอน-โฮ มีนิสัยเปลี่ยนไป แต่เรามีหลักฐานว่า ในเดือนตุลาคม 2020 หลังจากทำแท้งสักพักแล้ว ทั้งคู่ยังไปออกเดทกันที่ Pet Cafe อยู่เลย

ทั้งสองคนเคยเลิกรากันครั้งแรกในวันที่ 7 กรกฎาคม 2020 ซึ่งทันทีที่เลิกกัน คิม ซอน-โฮ ได้แชทไปปรึกษาเพื่อนสนิท A ทันที โดยมีเนื้อความว่า

คิม ซอน-โฮ : ฉันเพิ่งเลิกกับเธอ เรื่องทั้งหมดมันบ้าชัดๆ

เพื่อนสนิท A : ตอนเช้านี้หรอ?

คิม ซอน-โฮ : ฉันจับได้ว่าเธอโกหกเมื่อวานนี้ ฉันเคยยกโทษให้เธอไปแล้ว แต่เธอก็ยังโกหกฉันอีกรอบ เธอบอกว่าเธอไม่ได้ไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น ทั้งๆที่เธอไปจริงๆ และที่แย่ที่สุดก็คือ พอฉันถามเธอ เธอกลับคิดว่าฉันถามถึงผู้ชายอีกคนนึง ซึ่งเป็นคนละคนกันกับที่ฉันรู้

เพื่อนสนิท A : งั้นแปลว่าเธอก็เที่ยวกับผู้ชายคนอื่นไปทั่วเลยนี่หว่า

คิม ซอน-โฮ : เธอบอกว่ารู้จักกับผู้ชายพวกนั้นที่ทำงาน แต่ไม่อยากบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันบอกชเว ยอง-อานะ ว่าเธอจะไปเที่ยวคลับและเจอเพื่อนๆ ผู้ชายก็ได้ ฉันจะไม่โกรธเลย ตราบใดที่เธอบอกฉันหน่อยว่าไปร้านไหน และส่งข้อความมาบอกหน่อยตอนที่เธอถึงบ้านแล้ว แต่แค่นั้นเธอก็ยังไม่ยอมทำให้ฉันเลย

เพื่อนสนิท A : ขอแค่นี้ ยังทำให้กันไม่ได้อีกหรอวะ

คิม ซอน-โฮ : ครั้งหนึ่งฉันถ่ายละครเสร็จเร็ว ฉันถามเธอว่าทำอะไรอยู่ เธอบอกว่ากำลังหลับ ฉันเลยไปบ้านเธอพร้อมของขวัญกะจะเซอร์ไพรส์ แต่เธอไม่ได้อยู่บ้าน รถของเธอก็ไม่อยู่ ฉันโมโหมาก แต่เธอก็อ้างว่าจะไม่โกหกฉันอีกแล้ว

เพื่อนสนิท A : ฉันว่านายต้องไปคบคนอื่นแล้วว่ะ อย่าอยู่กับคนที่ทำให้สุขภาพจิตเสียแบบนี้เลยดีกว่า

หลังจากซอน-โฮ ปรึกษากับเพื่อนสนิท วันรุ่งขึ้น 8 กรกฎาคม 2020 ฝั่งชเว ยอง-อา ก็แสดงความเสียใจ และส่งข้อความขนาดยาว มาเพื่อขอโทษคิม ซอน-โฮ โดยมีเนื้อความว่า

‘ฉันขอโทษที่ทำแบบนี้ตอนที่เธอถ่ายละครอยู่นะ  ซอน-โฮ ฉันรักเธอจริงๆ และอยากให้เธอได้เจอสิ่งดีๆ ฉันรู้ว่าที่พูดไป ก็ไม่สามารถละเลยความจริงที่ว่า ฉันโกหกเธอไปแล้ว ฉันรู้ว่าที่ฉันทำมาทั้งหมด มันผิดต่อเธอ”

“ฉันอยากให้ความรักของเรามันมีความสุข ฉันจึงคิดว่า บางเรื่องที่จำเป็นต้องบอกเธอ ก็ไม่บอกดีกว่า แต่ฉันรู้แล้วว่าการทำแบบนั้น ทำให้เธอเสียใจ ซึ่งเมื่อเห็นเธอเสียใจฉันเองก็ใจสลายด้วย แน่นอน ฉันรู้ว่าทั้งหมดฉันเป็นคนผิด เอาเป็นว่า ฉันจะเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้นะ”

“ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากได้ยินอะไรที่ฉันพูดตอนนี้ และคงไม่เชื่ออะไรที่ฉันบอกด้วย แต่ฉันยืนยันนะ ว่าเธอคือโลกทั้งใบของฉัน ฉันอยากขอโทษเธอจากก้นบึ้งของหัวใจฉัน และขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียใจหลายๆ ครั้งก่อนหน้านี้ด้วย”

“ตั้งแต่เมื่อคืนที่เราเลิกกัน ฉันอยู่แต่ในบ้าน และคิดว่า จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง ฉันพยายามคิดในมุมของเธอว่ารู้สึกอย่างไร และฉันตัดสินใจว่าจากนี้ไปจะเปลี่ยนตัวเอง ให้มีความโปร่งใส และจริงใจกับเธอมากขึ้น ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนซับซ้อน และไม่ค่อยมีคนรู้จักนิสัยจริงๆของฉันหรอก”

“แต่ฉันรู้แล้วตอนนี้ ว่าจากนี้ไปฉันจะเปิดใจกับเธอ จริงๆ แล้ว เธอเคยขอให้ฉันเปิดใจกับเธอไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ ณ เวลานั้นฉันยังไม่เข้าใจความหมายของมัน”

“ที่ฉันเคยโกหกเธอไป ฉันทำเพราะรักเธอมากนะ ที่ฉันรู้สึกกับเธอไม่ใช่แค่รัก แต่ยังหวง และอยากปกป้องดูแลเธอด้วย ซึ่งพอคิดแบบนั้น มันเลยทำให้ฉันตัดสินใจพลาดอะไรหลายอย่างลงไป”

“เมื่อวานนี้ที่เราเลิกกัน เธอพยายามจะให้โอกาสที่ 2 กับฉัน ใช่ ฉันรู้ว่าเธอคงผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเธอยังคงมีฉันในใจ และพร้อมให้โอกาสฉันแก้ตัวอีกครั้ง ฉันสัญญาว่าจะใช้โอกาสนั้นให้ดีที่สุด”

“ฉันไม่ใช่คนที่โกหกเป็นนิสัย แต่ที่ทำลงไปเพราะช่วงหลังเราทะเลาะกันบ่อย ฉันไม่อยากให้เราอึดอัดแบบนั้นอีก ก็เลยตัดปัญหาด้วยการโกหก ฉันโง่เองที่เลือกทำแบบนั้น ฉันแค่อยากให้เราอยู่กันอย่างสงบสุขแค่นั้น ฉันไม่ได้คิดจะแก้ตัวอะไรนะ แต่แค่เลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราแค่นั้น ซึ่งฉันก็เสียใจมาจนถึงวันนี้”

“ฉันรู้ว่าสุดท้ายเธอคงต้องบอกฉันว่า ‘ทุกอย่างไม่เป็นไร’ แต่ลึกลงไปในใจเธออาจจะยังกลัวว่าจะมีการโกหกเกิดขึ้นอีก คือฉันอยากให้เธอรู้สึกปลอดภัยเต็มที่ตอนอยู่กับฉันนะ”

“ที่พูดมาทั้งหมด อาจจะดูเป็นคำพูดที่ดูเห็นแก่ตัวมากจริงๆ แต่การได้คบกันมาหลายเดือน ทำให้ฉันรู้สึกว่า เราสองคนมีอนาคตที่ดีรออยู่ข้างหน้า ถึงอย่างนั้นฉันก็มีความกังวลใจ เพราะเธอเริ่มจะมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ เธอมีละคร มีภาพยนตร์ มีผลงานมากมาย มันทำให้ฉันเองเริ่มกดดันเหมือนกัน ว่าฉันเองก็ควรเป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อจะได้อยู่คู่ควรกับการเป็นแฟนของเธอ”

“นี่คือเหตุผลที่ฉันถึงเร่งมือทำอะไรหลายๆ อย่าง เช่นทำช่อง YouTube เป็นต้น คือทั้งหมด ฉันไม่ได้อยากได้เงิน หรืออยากจะประสบความสำเร็จอะไรหรอกนะ ฉันตั้งใจทำมัน เพราะจะได้กลายเป็นคนที่คู่ควรกับการได้เคียงข้างเธอต่างหากล่ะ”

“ฉันรู้ว่าเธออาจจะโกรธ และรู้สึกโดนหักหลัง แต่ฉันยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะหลอก ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุข ฉันน่าจะคิดให้ดีๆ กว่านี้ก่อน ดังนั้นเธอจะให้โอกาสฉันแก้ไขเรื่องนี้ได้ไหม ฉันสัญญานะ ว่าถ้าฉันได้ความเชื่อใจกลับคืนมา เธอจะไม่ผิดหวังอีกแน่นอน ถ้าฉันทำผิดเรื่องเดิมซ้ำอีก เธอไม่ต้องเชื่อใจฉันอีกเลยก็ได้”

“ฉันรู้ว่าเธออาจจะไม่อยากข้องเกี่ยวกับฉันอีก แต่ขอร้องนะ ให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม ให้ฉันได้โอกาสแก้ตัวกับเธอ ฉันอยากให้เราสองคนได้ลองกันดูอีกครั้ง”

“ซอน-โฮ เธอคือหนึ่งเดียวที่ฉันมี แต่ถ้าสุดท้ายเธอเลือกจะเลิกกับฉันจริงๆ ฉันก็จะยอมรับการตัดสินใจนั้น เพราะฉันรักเธอจริงๆ”

“ที่กล่าวมาทั้งหมด อยากให้เธอเห็นถึงความรักและความจริงจังที่ฉันคิดเกี่ยวกับเราสองคน ถ้าเธอจะให้โอกาสฉันแก้ผิดให้เป็นถูก ฉันจะไม่ใช้โอกาสให้สูญเปล่า อยากให้เธอจำสิ่งดีๆ ที่เราสองคนมีร่วมกัน แล้วลองเริ่มต้นกันดูอีกครั้งนะ ฉันจะไม่มีวันปิดบังอะไรกับเธออีกต่อไปแล้ว”

หลังจากได้รับแมสเซจขอโทษ จากชเว ยอง-อา ทางคิม ซอน-โฮ ได้แชทไปปรึกษากับเพื่อนสนิท A ต่อ

คิม ซอน-โฮ : [ แคปภาพคำขอโทษให้เพื่อนสนิทอ่าน ]

เพื่อนสนิท A : นายรู้สึกยังไงบ้าง?

คิม ซอน-โฮ : ฉันยังชอบเธออยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน และฉันรู้ว่า เดี๋ยวเธอก็จะกลับมาโกหกอีก

เพื่อนสนิท A : ฉันว่ามีโอกาสสูงมากว่ะ เอาจริงๆ นายเห็นอนาคตกับเธอมั้ย?

คิม ซอน-โฮ : ยังไม่เห็นว่ะ คือเธอก็แสดงความจริงใจลงในข้อความนี้นะ แต่ … เฮ้อ

เพื่อนสนิท A : ตลกดีเนอะ ที่ชีวิตคนอื่นเขาเรียบง่ายดี ตกหลุมรัก คบกัน แต่งานกัน แต่มันช่างยากเหลือเกินสำหรับพวกเรา ส่วนเรื่องนี้เชื่อฉันไหม สุดท้ายเธอจะทำผิดซ้ำแบบเดิมอีก

คิม ซอน-โฮ : ฉันปวดหัวว่ะ ฉันไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนนิสัยได้หรอก

เพื่อนสนิท A : เรื่องราวคนรักโกหกกันเหมือนที่พวกเราเคยดูในละครเรื่อง The World of the Married หรือ Love & War แม่งเป็นเรื่องจริงด้วยว่ะ

คิม ซอน-โฮ : เวลาฉันดูคู่อื่น เห็นแฟนโกหกกัน บางทีมองในมุมคนนอกก็เข้าใจนะ แต่พอเรื่องนี้มาเกิดกับตัวเอง ฉันรู้สึกแย่เหมือนจะหายใจไม่ออก ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไง มันน่าหงุดหงิดมากเลย

เพื่อนสนิท A: นายก็รู้ว่าเธอปั่นหัว แต่นายก็ยอมให้เธอทำ

แม้เพื่อนสนิท A จะแนะนำให้เลิก แต่ในวันรุ่งขึ้น 9 กรกฎาคม 2020 คิม ซอน-โฮ ไปปรึกษากับเพื่อนสนิท B ซึ่งเป็นนักแสดงรุ่นน้องรายหนึ่ง และเขาให้คำแนะนำว่า ชเว ยอง-อา คงไม่ทำความผิดเดิมซ้ำอีกแล้ว นั่นทำให้สุดท้ายเขายกโทษให้แฟนสาว

เพื่อนสนิท B กล่าวว่า “ชเว ยอง-อา สัญญากับนายแล้วไม่ใช่หรอ ว่าเธอจะไม่ทำผิดซ้ำอีก นายก็ลองดูความจริงใจในคำขอโทษของเธอสักครั้งสิ”

Dispatch ยืนยันได้ว่า เพื่อนสนิท B คือนักแสดงละครเวที ที่ชเว ยอง-อา กล่าวถึงในโพสต์ของเธอ ที่บอกว่าเป็นคนพาเธอไปทำแท้งที่โรงพยาบาล โดยเพื่อนสนิท B เป็นคนที่ คิม ซอน-โฮ ไว้ใจมากที่สุดด้วย

หลังจากกลับมาคบกัน ชเว ยอง-อา คอนเฟิร์มกับ คิม ซอน-โฮ ว่าเธอตั้งครรภ์ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2020 เธออ้างในโพสต์ตัวเองว่า ตอนบอกคิม ซอน-โฮว่าท้อง ฝ่ายชายตอบโต้กลับมาอย่างเลวร้ายมาก แต่เพื่อนสนิท B ได้เปิดเผยกับ Dispatch ว่า เรื่องทั้งหมดตรงกันข้าม และคิม ซอน-โฮ เป็นคนบอกว่าการมีลูกเปรียบเสมือนของขวัญจากสวรรค์ และปลอบประโลมฝ่ายหญิงว่าอย่าร้องไห้

เพื่อนสนิท B กล่าวว่า “ในตอนแรก เขาร่วมยินดีกับเธอ และบอกว่านี่เป็นเรื่องสวยงามที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่ แต่แม้จะปากบอกไปอย่างนั้น ใจจริงเขาก็กลัวนั่นแหละ เขาคิดเรื่องนี้เยอะมาก แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็ตกลงร่วมกันได้ ว่าจะยุติการตั้งครรภ์ ตอนเขาบอกผมเรื่องนี้ เขาระมัดระวังมากจริงๆ”

หลังจากปรึกษากัน 1 สัปดาห์ วันที่ 27 กรกฎาคม 2020 วันที่ไปเอาเด็กออกที่โรงพยาบาล เพื่อนสนิท B รออยู่ที่ลานจอดรถ โดยเพื่อนสนิท B กล่าวว่า ตอนแรกเหมือนชเว ยอง-อา จะเปลี่ยนใจเก็บเด็กไว้ แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ตกลงใจได้ และตัดสินใจทำแท้งต่อตามที่วางแผนกันไว้ โดยคนที่เข้าโรงพยาบาลไปพร้อมกับ ชเว ยอง-อา คือเพื่อนสนิท B

“พวกเขาทั้งคู่เดินมาหาผม ด้วยสายตาที่บวมช้ำ คงผ่านการร้องไห้มากันเยอะแล้ว การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ ตอนผมไปโรงพยาบาลกับ ชเว ยอง-อา ตัวคิม ซอน-โฮ ไม่ได้เข้าไปด้วย แต่เขาไปร้านค้าใกล้ๆ เพื่อซื้อซุปสาหร่ายเตรียมไว้ คือเขาไม่ใช่คนที่ทำอาหารเก่งหรอก แต่เขาก็คิดพยายามจะทำ” เพื่อนสนิท B กล่าว

หลังจากการทำแท้งเสร็จสิ้น คิม ซอน-โฮ เป็นคนทำซุปสาหร่ายให้ ชเว ยอง-อา กิน 2 สัปดาห์ โดยที่เกาหลีมีความเชื่อว่า ผู้หญิงที่อ่อนแอจากการคลอด หรือการเสียลูก ซุปสาหร่ายเป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุด โดยคิม ซอน-โฮ ทำเมนูซุปสาหร่ายเป็น ตอนเขาออกรายการวาไรตี้ 2 Days 1 Night เขาก็เคยพูดมาแล้วว่า “ผมรู้วิธีทำซุปสาหร่าย”

แม้จะได้รับการดูแลแล้วจากแฟนหนุ่ม แต่ชเว ยอง-อา ยังรู้สึกได้ว่า คิม ซอน-โฮ ยังคงเปลี่ยนแปลงไปหลังจากการทำแท้งอยู่ดี

ประเด็นที่ต่อเนื่องกัน ที่ทาง Dispatch มีข้อสงสัย คือชเว ยอง-อา กล่าวว่า คิม ซอน-โฮ แอบซ่อนเธอจากพ่อแม่ของเขา แต่จากการไปสอบถาม เพื่อนสนิท C ที่มีความสนิทกับฝั่ง ชเว ยอง-อา ระบุว่า คิม ซอน-โฮ แนะนำพ่อแม่ของเขาให้รู้จักแฟนสาวแล้ว แต่ยังจงใจปิดบังเรื่อง ชเว ยอง-อา เคยแต่งงานและหย่าร้างมาก่อนแล้ว เพราะกลัวพ่อแม่จะรับไม่ได้

“หลังการทำแท้ง ยอง-อา เริ่มสนิทกับพ่อแม่ของซอน-โฮ มากขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายชายพยายามอย่างมาก ที่จะทำให้ความรู้สึกของฝ่ายหญิงกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หลังจากเอาเด็กออก ดังนั้นเขาจึงไปรับเลี้ยงลูกหมาพันธุ์ชิบะ หนึ่งตัวโดยตั้งชื่อว่า “โฮอา” เป็นการเอาชื่อของทั้งคู่มารวมกัน การมีลูกหมาตัวเล็กๆ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องเหงา เวลาอยู่คนเดียว” เพื่อนสนิท C กล่าว

สำหรับประเด็นต่อไป ชเว ยอง-อา กล่าวว่า คิม ซอน-โฮ เป็นผู้ชายหิวเงิน เพราะมีชีวิตวัยเด็กที่ลำบาก และเขาจ่ายเงินเธอ 2 ล้านวอน เป็นค่าโรงพยาบาลสำหรับการทำแท้ง แต่เพื่อนสนิทของชเว ยอง-อา ที่เราจะเรียกว่า เพื่อนสนิท D กล่าวกับ Dispatch เป็นคนละเรื่อง

“ไลฟ์สไตล์ของ ชเว ยอง-อา ที่ชอบใช้ของหรู มันทำให้คิม ซอน-โฮ ลำบาก ระหว่างช่วงคริสต์มาส เธอเคยซื้อกระเป๋าใบหนึ่งราคา 7 ล้านวอน (198,000 บาท) แต่ตอนนั้นบัตรเครดิตเธอเงินไม่พอ เธอก็ได้เงินจาก คิม ซอน-โฮ นี่ล่ะ เอาไปซื้อ เธอเคยอวดเรื่องนี้อยู่ เพื่อนๆ ทุกคนของเธอเคยได้ยินทั้งนั้น

ตอนฉันได้ยินเรื่อง ค่าทำแท้ง 2 ล้านวอน ฉันแปลกใจเลยนะ เพราะที่ผ่านมา ฉันไม่เคยเห็น ชเว ยอง-อา ต้องจ่ายเงินด้วยตัวเองเลย ค่าใช้จ่ายแทบทุกอย่าง คิม ซอน-โฮ จ่ายเองหมด ส่วนเรื่องว่า คิม ซอน-โฮ ชอบใช้ของหรูจริงไหม? ฉันว่าคนที่อยู่ใกล้ชิดคู่รักคู่นี้จะรู้นะ ว่าใครกันแน่ที่ชอบของหรูๆ มากกว่ากัน”

น่าสนใจตรงที่เพื่อนสนิท C กับ เพื่อนสนิท D เป็นเพื่อนของชเว ยอง-อา แท้ๆ แต่พวกเขาเลือกจะยืนอยู่เคียงข้าง คิม ซอน-โฮ ในครั้งนี้

“เรื่องการทำแท้งเป็นเรื่องใหญ่ แต่มันน่าแปลกที่เธอเลือกจะโยนความผิดให้ คิม ซอน-โฮ หลังจากเธอโยนความผิดให้เขาแล้ว สิ่งที่เพื่อนๆ เห็นคือเธอพยายามเปิดโทรศัพท์ตลอด เพื่อเช็กไดเร็กต์ แมสเซจ ว่าคิม ซอน-โฮ แชทมาหาเธอไหม เธออาจจะแค่อยากให้คิม ซอน-โฮ ล้มละลาย หมดหนทางทำกิน และเมื่อไม่มีทางไป ก็จะกลับมาหาเธออีกครั้ง” เพื่อนสนิท C กล่าว

สำหรับอีกเรื่องที่เป็นประเด็นน่าสนใจ คือความรักครั้งก่อนของชเว ยอง-อา กล่าวคืออดีตสามีของเธอ เป็นนักธุรกิจใหญ่แห่งตระกูลแชโบล ที่กลุ่มอำนาจเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อยู่ การที่คิม ซอน-โฮ เสียบเข้ามาเป็นคนรักคนต่อไป ทำให้เขาเจอปัญหาตามมาไม่น้อย

เพื่อนสนิท E ของซอน-โฮ เล่าว่า “คิม ซอน-โฮ เคยสารภาพกับผมว่าเขาเจอสถานการณ์ลำบาก เพราะตั้งแต่เริ่มคบกับ ชเว ยอง-อา เขาเคยเจอคำขู่ และการก่อกวนจากแก๊งอันธพาล ที่เป็นลูกน้องของอดีตสามี แถมขู่ว่าจะมีการฟ้องร้องซอน-โฮ มีเรื่องราวเยอะมากจริงๆ ที่เขาต้องรับมือ”

นอกจากนั้นเพื่อนสนิท E ยังกล่าวว่า ชเว ยอง-อา มีนิสัยชอบเก็บหลักฐานของคนรักไว้ทุกเม็ด ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่แปลกๆ สำหรับคู่รัก “ครั้งหนึ่ง คิม ซอน-โฮ กับ ชเว ยอง-อา เคยเช็กโทรศัพท์ของอีกฝ่าย เพื่อดูแชทใน Kakao Talk แล้วสิ่งที่เขาเจอ คือชเว ยอง-อา เก็บบันทึกสายโทรศัพท์ และถ่ายวีดีโอเขาในมุมต่างๆ บันทึกไว้หมด ถ้าเราเป็น คิม ซอน-โฮ บอกตรงๆ เจอแบบนี้ก็แอบน่ากลัวอยู่เหมือนกันนะ”

คิม ซอน-โฮ กับ ชเว ยอง-อา คบกันมาเรื่อยๆ จนถึงเดือนเมษายน 2021 ทั้งสองคนได้เจอตัวกันครั้งสุดท้าย ก่อนจะเลิกรากันอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2021 หลังจากชเว ยอง-อา ทำแท้งในเดือนกรกฎาคม 2020 ทั้งคู่ยังคบกันต่ออีก 10 เดือนเต็ม และ Dispatch ขอสรุปเรื่องราวจาก เพื่อนสนิท B ของคิม ซอน-โฮ ที่กล่าวว่า

“หลังเกิดเรื่อง คิม ซอน-โฮ เคยบอกกับผมว่า เรื่องการทำแท้งเป็นเรื่องจริง แต่ที่ไม่อยากจะตอบโต้ฝ่ายหญิง นั่นเพราะครั้งหนึ่งเธอเป็นคนที่เขาเคยรัก เขาพยายามจะเข้าใจ และไม่อยากหยิบเรื่องนี้เอามาตอบโต้กันต่อหน้าคนทั้งประเทศ แทนที่เขาจะตอบสนองเธออย่างก้าวร้าว เขาเลือกที่จะขอโทษ คนอย่างคิม ซอน-โฮ เป็นคนนิสัยแบบนี้ เขาเป็นคนเรียบง่าย เหมือนกับคนทั่วๆไป และไม่เคยแอบซ่อนเธอ”

————————–

บทความทั้งหมดของ Dispatch จบตรงนี้ ด้วยความฮือฮาที่เกาหลีอย่างมาก เพราะเป็นหนังคนละม้วนกับที่ฝ่ายหญิงโพสต์ไว้ตอนแรก

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด เมื่อ Dispatch เปิดเผยรายงานออกไปแล้ว ต้นสังกัดของ คิม ซอน-โฮ Salt Entertainment ยังไม่แสดงความเห็นแต่อย่างใด ขณะที่ ชเว ยอง-อา ก็ยังเก็บตัวเงียบและตั้งไพรเวทในอินสตาแกรมเอาไว้

ในโลกออนไลน์ที่เกาหลี ก็มีการดีเบทกันว่า ข่าว Exclusive ของ Dispatch จะมีมูลความจริงแค่ไหน เชื่อได้หรือไม่ เช่นเดียวกับการแฉของ ชเว ยอง-อา ในรอบแรก มีอะไรที่จริงบ้าง ก็ยังไม่ทราบได้

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องติดตามเรื่องนี้ต่อ ว่าเรื่องจะจบอย่างไร และบทสรุปทั้งหมดคงยังไม่ชัดเจนในเวลานี้ แต่ในอนาคต ถ้าตัวคิม ซอน-โฮ ออกมาแถลงการณ์กล่าวถึงอะไรบางอย่าง อาจทำให้ปริศนาทั้งหมดคลี่คลายลงก็เป็นได้