สตช. เตือนห้ามโพสต์เท็จเกี่ยวกับโควิด ส่อรับโทษหนักทั้ง พ.ร.บ.คอมฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ

พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน ห้ามโพสต์ แชร์ ข้อมูลเท็จสร้างความตื่นตระหนกแก่สังคม เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยอ้างว่าเป็นวัน “April Fool’s Day” ส่อรับโทษหนัก ทั้งผิด พ.ร.บ.คอมฯ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว ยังจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ 2548 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี วันโกหกโลก April Fool’s Day ซึ่งตรงกับวันที่ 1 เมษายนของทุกปี โดยผู้คนมักจะพากันเล่นมุกตลกหลอกลวงกันเพื่อความสนุกสนานนั้น

พลตำรวจโท ปิยะ กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (COVID-19) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือในการงดการนำเสนอข่าว โพสต์ แชร์ ทำให้แพร่หลายทางสื่อต่างๆ หรือนำข้อมูลเท็จอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าวให้เกิดความเข้าใจผิด เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด 19 ซึ่งเป็นการสร้างความสับสนและตื่นตระหนกแก่ประชาชนและสังคม โดยอ้างเหตุว่าเป็นวันโกหกโลก หรือ April Fool’s Day ไม่ได้

โดยหากฝ่าฝืนนอกจากจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว ยังจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย”

นอกจากนี้ พลตำรวจโท ปิยะ ยังฝากเตือนไปยังผู้ที่ฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมในขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างมีภารกิจสำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เช่น ยังคงฝ่าฝืนประกาศตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ การลักลอบเปิดสถานบริการ การรวมกลุ่มเล่นการพนัน การรวมตัวแข่งรถในทาง หรือการขับขี่รถขณะเมาสุรา รวมไปถึงมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมเอารัดเอาเปรียบซ้ำเติมประชาชนในทุกรูปแบบ เช่น กักตุนสินค้าและบริการ การกู้ยืมเงินเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด การหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ หรือการหลอกลวงขายสินค้าทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ขอให้หยุดการกระทำในทันที

“เรื่องดังกล่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ โดยได้สั่งการมายัง พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อตัดช่องโอกาสในการกระทำความผิด รวมถึงบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนทุกท่าน โปรดให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลและคำแนะนำด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป”