Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

 

 

“คลัง” สั่งล่าสาวติดหรูโพสต์เย้ยรับ 5,000 บาทแค่เศษเงิน พร้อมยึดเงินคืนใน 90 วัน หากคุณสมบัติไม่ตรง แจงขั้นตอนการตรวจสอบเข้ม แต่มีคนลงทะเบียนกว่า 24.8 ล้านคน ต้องทำงานแข่งกับเวลา นักข่าวลงพื้นที่พบเป็นเจ้าของร้านขายเสื้อผ้า

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี สาวชาวภูเก็ตคนหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความภายหลังจากที่ได้รับเงิน 5,000 บาท ของรัฐบาล ที่เป็นมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเดือน โดยเธอโพสต์ข้อความว่า “5 พันเข้าบัญชีแล้วค่ะ ก็แค่เศษเงินหลังตู้เย็นเหอะ!” ซึ่งภายหลังจากที่โพสต์นี้เผยแพร่ออกไปในวงกว้าง ก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาถล่ม วิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากชาวเน็ตไม่เห็นด้วยกับข้อความที่เธอโพสต์ เพราะยังมีอีกหลายคนที่ลำบากกว่าเจ้าของโพสต์ยังไม่ได้เงินจำนวนนี้

โฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ทีมงานตรวจสอบแล้วฐานข้อมูลย้อนหลังซ้ำอีกรอบ ว่าสาวรายนี้ ได้รับเงินตรงตามคุณสมบัติ ตามเงื่อนไขก่อนการลงทะเบียนหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการจะแยกเป็น 2 กรณี

กรณีที่ 1 ถ้าไม่ได้รับเงิน แต่โพสต์ว่าได้รับเงิน เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง สร้างความสับสนในสังคม จะส่งข้อมูลให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ดำเนินการต่อ ว่าจะดำเนินการกับกรณีนี้อย่างไร

กรณีที่ 2 ได้รับเงินจริง และโพสต์ว่าลงฟลุ๊กๆ แล้วได้เงินมา จะตรวจสอบ หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น หรือ ไม่ตรงตามคุณสมบัติจะยึดเงินคืน ภายใน 90 วัน และระงับสิทธิ์ในเดือนถัดไป ถ้าไม่คืน ก็ต้องไปว่ากันตามกฎหมาย

 

และชี้แจงอีกว่า กระทรวงการคลังต้องทำงานแข่งกับเวลา มีคนลงทะเบียนกว่า 24.8 ล้านคน ข้อมูลใหญ่เราใช้เวลาประมวลผล 7 วันทำการ ขั้นตอนในการตรวจสอบก่อนคัดกรองมี แต่ถ้าคัดกรองเข้มข้นในขั้นตอนนี้ ผลจะออกช้า คนที่เดือดร้อนจะได้รับเงินช้า

 

ทำให้คนที่มาลงทะเบียนทั้งหมด จะมีคนไม่ได้รับเงินมากกว่าคนที่ได้รับเงิน โดยวันที่ 8-10 เม.ย. ระบบจะเริ่มส่ง sms ให้ผู้ได้รับเงินประมาณ 1.6 ล้านคน ซึ่ง sms เข้าวันไหนก็จะได้เงินวันนั้นเลย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น 1.ค้าขาย 2.แท็กซี่  3.วินมอเตอร์ไซค์ 4.มัคคุเทศก์ และ 5.ผู้ค้าสลากฯ

 

สาเหตุที่กระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะมีผู้ที่ควรได้รับเงิน 5,000 บาท ไม่เกิน 8 ล้านรายคือ พิจารณาจากกลุ่มอาชีพอิสระ รับจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว กิจการส่วนตัว ค้าขาย 3 ล้านราย และอาชีพอิสระที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 39-40 อีก 5 ล้านราย ที่อยู่ในข่ายจะได้รับเงินเท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่ประชากรทั้งประเทศกว่า 66 ล้านคน จะมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 24.5 ล้านคนตามข้อมูลที่ได้ลงทะเบียนไว้

ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ระบุว่า เรื่องนี้ถือเป็นคดีตัวอย่าง หากตรวจสอบพบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือขาดคุณสมบัติจริง ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 วงเล็บหนึ่ง นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

เนื่องจากผู้หญิงคนนี้รู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือขาดคุณสมบัติการที่จะขอรับเงิน 5,000 บาท แต่ยังกรอกข้อมูลลงในเว็บไซต์เพื่อขอรับเงินดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ทางราชการหลงเชื่อและส่งมอบเงินหรือโอนเงินให้

อีกทั้ง เงินจำนวนนี้ เป็นเงินภาษีของประชาชนควรต้องใช้อย่างคุ้มค่า ให้กับผู้ที่เดือดร้อนจริง ๆ เท่านั้น คนที่ไม่เดือดร้อนจึงเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิ์คุณสมบัติไม่ควรที่จะกรอกข้อมูลลงในเว็บไซต์

ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขในเว็บไซต์ต้องคืนเงิน 5,000 บาท ภายใน 90 วัน และต้องถูกดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่ง

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสงสัยสำหรับสาวเจ้าของเฟซบุ๊กรายนี้ ที่จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กเธอดูเหมือนเป็นแม่ค้าออนไลน์ มีการโพสต์ขายของในเฟซบุ๊กอยู่บ่อย ๆ แต่ทำไมเธอถึงได้เงินเยียวยา 5,000 บาท จากรัฐบาล เพราะอาจอยู่ในเกณฑ์คน 10 กลุ่ม ที่จะไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทนี้

ต่อมาผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังทราบว่า สาวรายนี้อาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต และมีการเปิดร้านเสื้อผ้า ชื่อ NaNa Store อยู่ภายในซอยไสน้ำเย็น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 เม.ย.63) พบว่า ร้านขายเสื้อผ้าดังกล่าวปิดให้บริการ แต่พบว่าภายในร้านยังเปิดไฟและมีคนอยู่ภายใน ซึ่งพยายามเรียกดูก็ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า