ตม.แจงทำไมไบโอแมทริกซ์ ไม่เตือนตอนเสี่ยท็อป ออกนอกประเทศ

วันที่ 20 ต.ค. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 แถลงข่าวจับผู้ต้องหาโดยใช้ระบบไบโอแมทริกซ์ 2 คดี คดีแรกจับกุม นายโรเบิร์ต อายุ 54 ปี สัญชาติแคนาดา ในข้อหาปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม จับกุมได้เมื่อวันที่ 22 ก.ย.เวลา 16.30 น. โดยนายโรเบิร์ต ได้แสดงหนังสือเดินทางต่อเจ้าหน้าที่ ตม. เพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักร แต่ปรากฎว่า ระบบไบโอแมทริกซ์แจ้งเตือนในระบบว่าหนังสือเดินทางดังกล่าวได้ถูกแจ้งหายและถูกโจรกรรม ตามข้อมูลของตำรวจสากล จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย ได้รับแจ้งว่าหนังสือเดินทางดังกล่าวมีการปลอมหน้าประวัติผู้ถือ ซึ่งเป็นของนางโจเซ่ ได้ถูกแจ้งหายไว้และไม่สามารถใช้เดินทางได้อีกต่อไป เจ้าหน้าที่ ตม. จึงควบคุมตัวนายโรเบิร์ต แจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 จับกุมนายเจมมี่ สัญชาติอังกฤษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.70/2555 ลงวันที่ 15 ก.พ. 2555 ในคดียาเสพติด โดยจับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.4 ได้รับการประสานจาก สภ.เมืองอุดรธานี ให้ติดตามจับกุมนายเจมมี่ ซึ่งมีหมายจับในคดีค้ายาเสพติด จึงออกสืบสวนหาข่าว โดยการตรวจสอบการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรา 38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และระบบไบโอแมทริกซ์ จนได้ตัว

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวถึงข้อสงสัยกรณีนายธณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือเสี่ยท็อป ซึ่งถูกจับกุมในคดีเช็คระหว่างเดินทางกลับจากฮ่องกงมายังประเทศไทย โดยมีข้อสงสัยว่าช่วงเดินทางขาออกระบบถึงไม่สามารถตรวจจับข้อมูลได้ว่า หมายจับคดีดังกล่าวออกเมื่อ 2559 ซึ่งเป็นช่วงที่ทางตำรวจยังไม่ได้เชื่อมโยงหมายจับกับสำนักงานศาลยุติธรรม จึงยังไม่มีข้อมูลขึ้นในระบบ

แต่หลังจากที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า นายธณัฏฐ์ เดินทางออกนอกประเทศ และมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ ตม. ระบุว่ามีหมายจับของศาล จึงได้ประสานกับศาลแขวงพระนครเหนือ และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบไบโอแมทริกซ์ไว้ ซึ่งแม้การแต่งกาย หน้าตาค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ใช้การตรวจสอบลายนิ้วมือจากระบบไบโอเมทริกซ์ ซึ่งก็ตรงกับบุคคลตามหมายจับ