รวบยกแก๊ง 4 คนร้ายอินโดฯ ก่อเหตุตัดนิ้วเหยื่อเรียกค่าไถ่ หนีกบดานในไทย

แก๊งมาเฟียชาวอินโดนีเซียอุ้มนักธุรกิจร่วมชาติในกัมพูชา และตัดนิ้วส่งให้ญาติ ก่อนหนีกบดานในไทย ล่าสุด สามารถจับตัวผู้ต้องสงสัยได้ทั้ง 4 รายแล้ว

จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กแฟนเพจหนึ่งได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศกัมพูชา เมื่อนักธุรกิจชาวอินโดนีเซีย ได้เดินทางไปทำธุรกิจยังประเทศกัมพูชา แต่กลับถูกแก๊งมาเฟียร่วมชาติอุ้มในกัมพูชา ก่อนจะตัดนิ้วส่งให้ญาติเอาไว้ดูต่างหน้า

ทางการกัมพูชาได้บุกทลายแก๊งมาเฟียดังกล่าว พร้อมทั้งช่วยเหยื่อเอาไว้ได้ ส่วนคนร้ายไหวตัวทันหลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทย ก่อนที่ทางการกัมพูชาจะประสานมายังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ของไทยได้รับไม้ต่อ เร่งไล่ล่ามาเฟียแก๊งนี้แล้ว

วันที่ 8 ส.ค. 2562 เวลา10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แถลงข่าวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรณีคนร้ายข้ามชาติก่อเหตุเรียกค่าไถ่ตัดนิ้วเหยื่อในกัมพูชา หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย หลังจากนั้นได้ตรวจสอบและควบคุมติดตามตัวคนร้าย​ จึงสั่งการ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3 กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตม.3 และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ให้เร่งรัดสืบสวนติดตามคนต่างด้าวจำนวน 4 รายเป็นกรณีเร่งด่วน

โดยในจำนวนนี้มีชาวอินโดนีเซีย 2 รายซึ่งถูกทางการกัมพูชากล่าวหาว่าได้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมแล้ว ลักพาตัวผู้เสียหายชาวอินโดนีเซียไปเรียกค่าไถ่ พร้อมกับใช้อาวุธมีดตัดนิ้วผู้เสียหาย จากนั้นได้ส่งคลิปวีดีโอไปให้ญาติผู้เสียหายในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเรียกทรัพย์สินเป็นมูลค่าเงินไทยกว่า 3 แสนบาท

จากการตรวจสอบข้อมูลเดินทางเข้า–ออกผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เวลา 08.14 น.และกล้องวงจรปิดระหว่างเส้นทางหลบหนี พบว่าทั้ง 4 รายร่วมกันหลบหนีด้วยรถยนต์ตู้สาธารณะแบบเหมา มุ่งหน้า กทม. ทั้งหมดมีลักษณะพิรุธ ลุกลี้ลุกลน ได้เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ตู้โดยสารอีกคันหนึ่งระหว่างทาง

ในการติดตามครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานงานกับหน่วยงานประเทศกัมพูชาและอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด บูรณาการการทำงานระหว่างตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรในพื้นที่เส้นทางหลบหนี ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจทางหลวง เพื่อเร่งสกัดตรวจสอบตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี ใช้ระบบ Biometrics ในการติดตาม จนตรวจพบบุคคลต่างด้าวทั้ง 4 รายในโรงแรมย่านประตูน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เข้าทำการควบคุมตัว เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และได้ประสานงานกับทางการกัมพูชาและอินโดนีเซีย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป