Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นับตั้งแต่ปี 2560 ที่ประเทศไทยได้ประกาศนโยบาย Thailand 4.0 หรือยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ซึ่งภาครัฐเองได้ผลักดันนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยในภาคอุตสาหกรรม เช่น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G และระบบควบคุมอัตโนมัติในโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับภาคการผลิตของประเทศให้ไปสู่อุตสาหกรรม 4.0

ขณะที่ไต้หวันติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศ/เขตการปกครองที่มีการส่งออกเครื่องมือเครื่องจักรกลสูงสุดในโลก โดยในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ไต้หวันส่งออกเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องไปถึง 2.634 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 28.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ดังนั้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและไต้หวันในการขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) จึงจัดงานสัมมนาออนไลน์ Taiwan Excellence Webinar – เริ่มต้นยุคใหม่แห่งระบบการผลิตอัจฉริยะด้วยอุตสาหกรรม 4.0 โดยดึง 5 บริษัทนวัตกรรมจากไต้หวันร่วมพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการผลิตในอุตสาหกรรม

สำหรับ Taiwan Excellence คือตราสัญลักษณ์ที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน มอบให้กับสินค้าที่ผ่านการคัดเลือกว่าเป็นตัวอย่างให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ และได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลในตลาดนานาชาติ เพื่อกระตุ้นภาพลักษณ์ของธุรกิจในไต้หวัน โดยสินค้าเหล่านั้นจะถูกพิจารณาจากความเป็นเลิศด้านการค้นคว้าและวิจัย การออกแบบ คุณภาพ และการตลาด ดังนั้น สินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Taiwan Excellence จึงเรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากไต้หวันที่มีภาครัฐการันตี พร้อมที่จะก้าวสู่ตลาดโลก

สแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chamber of Commerce in Thailand – JFCCT) กล่าวว่า จากที่ประเทศไทยมีนโยบาย Thailand 4.0 และไต้หวันเองก็มุ่งนำเสนอนวัตกรรมการผลิตในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์, ปัญญาประดิษฐ์, ดิจิทัล, บิ๊กดาต้า เป็นต้น ดังนั้น จึงเชื่อว่าความร่วมมือและแชร์ประสบการณ์ร่วมกันระหว่างไทยและไต้หวัน จะช่วยให้เศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างสองประเทศพัฒนาขึ้นได้ และหนุนให้ไทยเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในอาเซียนได้ในที่สุด

ซือกั๋ว อี นายกสมาคม Taiwan Automation Intelligence and Robotics Association (TAIROA) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตทั่วโลก ทำให้นานาประเทศปรับวิสัยทัศน์และมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในการผลิตอย่างจริงจัง สมาคมจึงร่วมกับรัฐบาลไต้หวัน ในการที่จะนำพาบริษัทไต้หวันไปสู่การเติบโตในระดับสากล รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศอาเซียน ยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง

สำหรับ 5 บริษัท ที่มานำเสนอนวัตกรรมในประเทศไทยในครั้งนี้ ล้วนเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลจาก Taiwan Excellence Award ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีนวัตกรรมน่าสนใจอย่างไร ลองไปดูรายละเอียดกัน

[นวัตกรรมกระบอกสูบไฟฟ้าจากโตโย]

เริ่มต้นด้วย บริษัท โตโย ออโตเมชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่โปรดักต์สำคัญคือเทคโนโลยีที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง ‘กระบอกสูบไฟฟ้า’ โดยที่ผ่านมาก็ผลิตสินค้าเหล่านี้ให้กับลูกค้าหลายราย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ รวมไปในถึงใช้ในขั้นตอนการเคลื่อนย้ายตรวจสอบชิ้นงานในโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยปัจจุบันบริษัทส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนเป็นหลัก และยังรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับบริษัทในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย

ความแตกต่างระหว่างกระบอกสูบลมและกระบอกสูบไฟฟ้าของโตโย คือ กระบอกสูบลมต้องใช้ลมในการทำงาน ซึ่งต้องใช้เวลา 15-20 นาที เพื่อปรับแรงดันอากาศให้เครื่องทำงาน ขณะที่กระบอกสูบไฟฟ้านอกจากไม่ต้องเสียเวลาปรับแรงดันอากาศแล้ว ตัวเครื่องยังมีขนาดเล็กกว่า ช่วยประหยัดพื้นที่ ทั้งยังมีความแม่นยำที่ระดับ 0.001-0.002 มิลลิเมตรลงไป, เสถียรมากกว่า, สามารถปรับความเร็วได้ และกำหนดจุดได้หลายตำแหน่งอีกด้วย

ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ การที่ลูกค้านำกระบอกสูบไฟฟ้าของโตโยไปใช้ในกระบวนการตรวจสอบสินค้าขณะลำเลียงบนสายพาน โดยกระบอกสูบไฟฟ้าจะเป็นอุปกรณ์ที่มาช่วยดันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกไป ซึ่งจากคุณสมบัติอันโดดเด่นหลายประการ ทำให้ช่วยลดเวลาในการผลิตสินค้าไปได้ถึง 60% และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ 2.5 เท่า นอกจากนี้ยังไม่พบปัญหาดังเช่นในกระบอกลมที่อาจเกิดเหตุลมรั่วขณะทำงาน จนส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตได้นั่นเอง

ที่สำคัญคือ แม้กระบอกสูบไฟฟ้าของโตโยจะมีราคาสูงกว่ากระบอกสูบลมทั่วไป แต่ด้วยอายุการใช้งานที่มากกว่าถึง 5 เท่า (กระบอกสูบลมมีอายุการใช้งาน 4 ปี) ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 1 ใน 6 ทั้งยังมีค่าบำรุงรักษาที่น้อยกว่า จึงช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้ในระยะยาว

[โซโลมอนอวดโฉมการเชื่อม AI เข้ากับ Robotic Vision]

ถัดมาคือบริษัท โซโลมอน เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยี AI Machine Vision ที่สามารถนำไปใช้กับระบบต่างๆ ได้ ทั้งนี้ จุดเด่นของเทคโนโลยีดังกล่าวคือการนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้กับหุ่นยนต์ หุ่นยนต์แขนกล และกล้อง 3D Vision โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย

โซโลมอนยังประสบความสำเร็จในการเปิดตัวระบบหุ่นยนต์นำทาง 3D Vision ที่มาพร้อมกับ AI ซึ่งนำไปใช้ในขั้นตอนการจ่ายกาวประกอบรถยนต์ของโรงงานโตโยต้าในไต้หวัน ซึ่งความท้าทายของการกำหนดเส้นทางการเดินกาว เกิดจากแนวเส้นของโครงสร้างรถยนต์มีความแตกต่างกัน

แต่ด้วยเทคโนโลยีของโซโลมอนที่เปรียบเสมือนการใส่สมองกลให้หุ่นยนต์เรียนรู้จากกล้อง 3 มิติ ทำให้หุ่นยนต์แขนกลดังกล่าวสามารถปรับแก้ไขเส้นทางเดินกาวของรถแต่ละรุ่นได้อย่างอัตโนมัติ โดยกล้อง 3 มิติจะเห็นทิศทางการเดินกาวที่แตกต่างกันของรถแต่ละรุ่น ก่อนที่หุ่นยนต์แก้ไขเส้นทางได้อย่างอัตโนมัติ ส่วนสมองของ AI ก็สามารถระบุรถยนต์ 4 รุ่นที่แตกต่างกันได้ ทำให้สามารถทำเส้นทางเดินกาวได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ นวัตกรรมของโซโลมอนยังถูกนำมาใช้ตรวจสอบตำหนิที่สังเกตได้ยากของนักเก็ตไก่ทอด รวมไปถึงการตรวจสอบรอยเชื่อมโลหะว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งตรงนี้สามารถฝึกเครื่องจักรให้รู้จักสถานการณ์ต่างๆ ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนของ AI

นวัตกรรม AI Vision ของโซโลมอนยังถูกแปลงเป็นหุ่นยนต์แขนกลอย่าง JustPick ที่สามารถหยิบและคัดแยกวัตถุได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบันมีการนำไปใช้ในคลังสินค้าของธุรกิจโลจิสติกส์ หรืออีกนวัตกรรมอย่าง Solvision หรือคอนแทคเลนส์ที่ผสานเทคโนโลยี AI มาช่วยในการคัดแยกและตรวจสอบความผิดพลาด ซึ่งช่วยมีอัตราความถูกต้องสูงถึง 99% ขณะที่การตรวจสอบแบบเดิมอย่างวิธี AOI มีความถูกต้องราว 95% เท่านั้น

[แขนหุ่นยนต์เชื่อมระบบวิชั่นของเทคแมน โรบอท]

บริษัท เทคแมน โรบอท คือบริษัทที่ออกแบบและผลิตหุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะที่มาพร้อมระบบการมองเห็นเป็นแห่งแรกของโลก โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 บริษัทส่งมอบหุ่นยนต์ไปแล้วกว่า 10,000 เครื่อง มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของโลก คือ 15%

แขนหุ่นยนต์ของเทคแมน โรบอท มีจุดเด่นพิเศษอยู่ที่การติดตั้งระบบการมองเห็นมาในตัว ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างกลมกลืน ต่างจากการเสริมระบบการมองเห็นเข้าไปกับหุ่นยนต์ในภายหลัง ซึ่งค่อนข้างซับซ้อนกว่า ใช้เวลานาน และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าอีกด้วย

หุ่นยนต์ของเทคแมน โรบอท ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการมองเห็นดังที่พบในหุ่นยนต์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น การจับคู่, การแปลวัตถุ, การเพิ่มประสิทธิภาพของภาพ, การอ่านบาร์โค้ด, การจดจำสี ทั้งยังมีระบบการจดจำภาพได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น แต่แขนหุ่นยนต์ของเทคแมน โรบอท ยังมาพร้อมกับความชาญฉลาด สามารถควบคุมด้วยมือได้อย่างง่ายดายแม้จะเป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์ใช้โปรแกรมหุ่นยนต์ก็ตาม คือใช้เวลาเรียนรู้เพียงแค่ 5 นาทีก็สามารถใช้งานเป็น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมรถยนต์ รวมถึงนำไปใช้กับระบบรถนำร่องอัตโนมัติ หรือ AGVs เนื่องจากสามารถกำหนดตำแหน่งเป้าหมายได้อย่างไม่คลาดเคลื่อน

นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา เนื่องจากระบบสมาร์ทวิชั่นในตัวสามารถปรับแต่งได้โดยตรงทั้งการตรวจจับภาพ, การจดจำ, การจัดตำแหน่งแอปพลิเคชั่น แบบที่ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการผสานระบบการมองเห็นเข้ากับระบบหุ่นยนต์

หุ่นยนต์ของเทคแมน โรบอท ยังมีต้นทุนและค่าอุปกรณ์ที่ต่ำกว่า เนื่องจากหุ่นยนต์ติดตั้งระบบการมองเห็นมาในตัว ทำให้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินติดตั้งระบบการมองเห็นเพิ่มเติมซึ่งมีราคาแพงกว่า รวมถึงยังช่วยลดจำนวนวิศวกรในการทำงาน ประหยัดพลังงานได้มากกว่า ทั้งยังมีความปลอดภัยต่อมนุษย์ สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมีรั้วนิรภัย รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อเพื่อทำงานร่วมกับเครื่องจักรอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

[โซลูชั่นจาก เอออน เทคโนโลยี ยกระดับอุตสาหกรรม 4.0]

อีกหนึ่งบริษัทที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ โซลูชั่นจากบริษัท เอออน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ระดับอุตสาหกรรม และปัจจุบันมีเจ้าของเป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์ที่หลายคนรู้จักอย่าง Asus โดยโปรดักต์ของเอออนยังรวมไปถึงเมนบอร์ดที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ, มอนิเตอร์เกรดอุตสาหกรรม, อุปกรณ์ในโครงข่ายสื่อสาร และในปัจจุบันก็ยังรวมไปถึงอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี AI ด้วย

หนึ่งในเคสที่ประสบความสำเร็จของบริษัท คือการให้บริการ Computing Edge Server ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI ในสายการผลิต PCBA ซึ่งลูกค้าสามารถประสานแมชชีนวิชั่นเข้ากับเทคโนโลยี AI เพื่อขับเคลื่อน AOI ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยลูกค้าสามารถฝึกซอฟต์แวร์ของ AI ให้เรียนรู้และตรวจจับความผิดพลาดบน PCBA เพื่อปรับปรุงการตรวจสอบคุณภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะที่แอปพลิเคชัน AOI ไม่ได้ต้องการเพียงซอฟต์แวร์ประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่ระบบที่ใช้ก็ควรมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันด้วย ซึ่งเอออนได้ทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้าง Edge Server ประสิทธิภาพสูงอย่าง BOXER-6862M พร้อม Nvidia Tesla T4 จำนวน 2 ตัว เพื่อขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน AOI+AI และด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้นวัตกรรมของเอออนช่วยแก้ปัญหาการกระจายความร้อนของเซิร์ฟเวอร์ ทั้งยังมอบระบบที่เสถียร เชื่อถือได้ และเป็นระบบที่ทรงพลังให้กับโซลูชั่นของลูกค้า

ทั้งนี้ จากการใช้ AI Server ควบคู่กับ Tesla T4 เพื่อรันโปรแกรมการตรวจสอบในกระบวนการผลิตดังกล่าว ซึ่งเป็นการทดแทนการตรวจสอบด้วยสายตาที่ต้องใช้มนุษย์ซึ่งอาจทำให้เกิดการผิดพลาดได้ โดยนวัตกรรมของเอออนสามารถลดต้นทุนแรงงานให้กับบริษัทลูกค้าไปได้ 50% และเพิ่มความเร็วในการผลิตได้ถึง 200%

คอมพิวเตอร์อุตสาหกรรมของเอออนยังถูกนำไปใช้ในระบบเก็บค่าทางด่วน ที่สามารถเชื่อมต่อฟังก์ชั่นการทำงานของระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่กั้นประตู, หน้าจอ, ใช้ AI ตรวจจับข้อมูลผ่านกล้องเพื่อเชื่อมกับเครื่องอ่านบัตรระยะไกล (eTag Reader) รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้ทำงานสอดคล้องกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล หรือสามารถทำงานที่ต้องใช้ความหลากหลายและความแม่นยำสูงได้นั่นเอง

[แพลเน็ต เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น และโซลูชั่นโครงสร้างเครือข่าย]

ปิดท้ายด้วยบริษัท แพลเน็ต เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น ที่นำเสนอโซลูชั่นโครงสร้างเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์มเครือข่ายอัจฉริยะ, อุปกรณ์การสื่อสารในระดับอุตสาหกรรม,อุปกรณ์เครือข่ายใยแก้วนำแสง, LAN Switches รวมไปถึงอุปกรณ์เครือข่ายรักษาความปลอดภัย, IoT, IIoT และระบบโรงงานอัตโนมัติด้วย

จุดเด่นของโซลูชั่นแพลเน็ต คือ สามารถส่งข้อมูลได้อย่างเสถียร, ป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลได้ในระดับสูง, มีการออกแบบการจัดการมาอย่างเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน และง่ายต่อการเชื่อมต่อเข้ากับระบบอัตโนมัติของโรงงาน

โปรดักต์ไฮไลต์จากแพลเน็ต เช่น Industrial 4G LTE IoT Gateway Series หรือเป็นเกตเวย์ IoT สำหรับอุตสาหกรรมชนิดแรกที่ผสมผสานฟังก์ชั่น PoE และ Dual SIM 4G LTE สำหรับเฟลโอเวอร์และโรมมิ่ง เพื่อให้การเชื่อมต่อของเครือข่ายไม่ขาดตอน สามารถใช้ได้กับ VPN และฟังก์ชั่นเพื่อความปลอดภัยหลายแบบ เพื่อตอบสนองการใช้งาน IIoT ที่หลากหลาย

ตัวอย่างผลงานของแพลเน็ตที่ลูกค้านำไปใช้ ได้แก่ โซลูชั่นระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยตั้งค่าเครือข่าย IP ในพื้นที่อุตสาหกรรม 4.0 และ IoT โดยใช้การเชื่อมต่อแบบพอร์ตอนุกรม ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติของแพลเน็ต ประกอบด้วย RS232/RS422/RS485 Serial Device Servers, Modbus Gateways, EtherCAT Slave I/O Modules และ Serial over Cellular Gateways ซึ่งแต่ละส่วนช่วยให้สามารถแปลงข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการโรงงานได้

นอกจากนี้ สวิตช์ Industrial Ethernet ของแพลเน็ต ยังสอดคล้องกับโปรโตคอล Modbus และการมีฟีเจอร์ PoE เพื่อส่งข้อมูลและพลังงานไปยังอุปกรณ์การผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการผลิตแบบดั้งเดิม

และนี่ก็คือนวัตกรรมการผลิตอัจฉริยะจากไต้หวัน ที่ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยจะนำมาใช้ในการยกระดับการผลิตเพื่อเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างแท้จริง

สำหรับผู้สนใจเรื่องราวนวัตกรรมจากไต้หวัน หรือดูผลิตภัณฑ์เจ๋งๆ สามารถติดตามอัพเดตข่าวสารเพิ่มเติมผ่านทาง https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/ หรือทำความรู้จักกับ Taiwan Excellence เพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/2V74o6G สำรวจผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลในหมวดอื่นๆ : https://bit.ly/3yBEpTt  หรือทำความรู้จักกับ Taiwan Excellence เพิ่มเติมได้ที่  http://bit.ly/30C0kcz

#TaiwanExcellenceTH #EverydayExcellence #Taiwan #SmartMachinery

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า