Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ทำงานแค่ปีละ 90 วัน แต่มีรายได้มโหฬารถึง 50 ล้านวอน (1.4 ล้านบาท) ต่อปี ฟังจากคำโฆษณาข้างต้น เป็นใครก็คงอยากลองสมัครงานตำแหน่งนี้ดูสักตั้ง เช่นกันกับ กูเซรา นางเอกสาวในซีรีส์เรื่อง Into The Ring (2020) ที่ถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้กลายเป็นคนตกงานกระทันหัน พร้อมหนี้สินของครอบครัวอีก 50 ล้านวอน

จนท้ายที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ ด้วยการลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งสมาชิกสภาเขต (สข.) “งานที่ทำเงินให้คุณ 50 ล้านวอน จากการทำงาน 90 วันต่อปี ก็คือสมาชิกสภาเขตไงล่ะ!”

นอกเหนือจากเรื่องหน้าที่การงานแล้ว กูเซรายังมีอีกบทบาทหนึ่งในชีวิตคือ “ผีเสื้อกลางคืนลายเสือ” Active Citizen อันดับหนึ่งของเขตมาวอน ผู้ทำหน้าที่ส่งเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ และคนที่ต้องรับมือกับคำร้องเรียนทั้งหมดนี้ก็คือ พนักงานน้องใหม่ในสำนักงานเขตมาวอนอย่าง ซอกงมยอง ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตตามกฎระเบียบอย่างเอาจริงเอาจังเป็นที่สุด

ว่ากันตามตรง เส้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกูเซราและซอกงมยองนั้น เป็นไปตามสูตรสำเร็จซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้ในยุค 2010s ตอนปลายอย่างครบถ้วน คือเริ่มต้นจากภูมิหลังความเป็นเพื่อนในวัยเด็กโดยที่ฝ่ายหนึ่งมีปมปัญหากับครอบครัว เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองจึงได้โคจรมาเจอกันอีกครั้ง แม้จะมีนิสัยต่างกันสุดขั้วแต่ก็เติมเต็มซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี

หากนั่นเป็นเพียงแค่น้ำตาลรสหวานที่ฉาบเคลือบเอาไว้ ภายใต้เส้นเรื่องโรแมนติกที่บรรยายมาทั้งหมด Into The Ring ตั้งใจเล่าประเด็นการเมืองระดับท้องถิ่น ทั้งเสียดสี ตีแผ่ และเชื่อมโยงเข้ากับชีวิตประจำวันของเราได้อย่างใกล้เคียงจนน่าตกใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นผลงานที่ชนะการประกวดเขียนบทละครครั้งที่ 10 ณ ประเทศเกาหลี

การเมืองแบบบ้านๆ

โจทย์แรกที่ซีรีส์เรื่องนี้ต้องผ่านไปให้ได้ก็คือ จะเล่าการเมืองอย่างไรให้ไม่น่าเบื่อ ไม่เกินจริง และไม่ได้มีแต่ภาพนักการเมืองทะเลาะกันในสภา หรือการล็อบบี้กันบนโต๊ะอาหารมื้อหรู ฉากหลังของเรื่องจึงอยู่ในสภาเขตขนาดเล็ก ไม่ใช่สภาผู้แทนราษฎรหรือทำเนียบประธานาธิบดี ตัวละครหลักก็เป็นแค่คนเดินถนนธรรมดา ที่บังเอิญจับพลัดจับผลูไปนั่งอยู่ในสภาเขต

และในขณะที่ปมการเมืองดำเนินไปอย่างหนักหน่วง แต่บรรยากาศของเรื่องก็ยังคงความรู้สึกของการเมืองท้องถิ่นในแบบบ้านๆ ที่จับต้องได้ และมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร อย่างการเลือกใช้ร้านเช่าหนังสือการ์ตูนเป็นฐานเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง หรือภาพการยืนหาเสียงตามหน้าโรงเรียนในชุมชนเพื่อดึงคะแนนเสียงจากบรรดาผู้ปกครอง ที่บางครั้งก็ได้เสียงเชียร์จากเด็กๆ ที่เดินผ่านมาเป็นของแถม

ภาพการเมืองในแบบที่ Into The Ring นำเสนอนั้นจึงเป็นมิตร และสอดคล้องไปกับภาพรวมของซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ได้อย่างกลมกล่องลงตัว

การเมืองเช้าชามเย็นชาม

ซอกงมยอง หรือพระเอกของเรื่องนั้น จัดว่าเป็นตัวละครที่ออกจะเถรตรงเกินกว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมไปไม่น้อย สาเหตุที่เขาถูกเด้งจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการวางแผนและกลยุทธ์ ให้กลายมาเป็นพนักงานรับเรื่องร้องเรียนในสำนักงานเขต ก็เป็นเพราะนิสัยตรงต่อเวลาเกินมนุษย์มนา

ตั้งแต่ 12.00 – 13.00 น. คือช่วงเวลาพักเที่ยงที่ซอกงมยองใช้อย่างไม่ขาดไม่เกินสักวินาที เช่นกันกับเวลาเลิกงานที่เขาจะต้องลุกออกจากโต๊ะตอน 16.00 น. ตามที่กำหนดไว้เป๊ะๆ ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่อยู่ในห้องประชุมแผนงานประจำปี

หากว่ากันตามหลักการแล้ว ซอกงมยองก็คือข้าราชการที่ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับแบบไม่ขาดไม่เกิน แต่เมื่ออาชีพข้าราชการของเขาตกไปอยู่ภายใต้ค่านิยมที่ว่า “ทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน” หรือ “กินเงินภาษีประชาชน” ซอกงมยองจึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวต่อหน้าที่การงานไปโดยปริยาย

แน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดแต่ในซีรีส์เท่านั้น ในชีวิตจริงพวกเราก็ยังคงพบเห็นข้าราชการที่ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแบบไม่ขาดไม่เกิน จนถูกเหน็บแนมเอาว่าเป็นพวก “เช้าชามเย็นชาม” แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่ประเด็นที่มีบทสรุปตายตัว แต่ซีรีส์ก็ได้นำเสนอมิติที่น่าสนใจของงานราชการ ผ่านมุมมองและพัฒนาการของตัวละครซอกงมยองที่เราจะได้เฝ้ามองตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย

การเมืองและเรื่องร้องเรียน

“ไดอารี่คำร้องเรียน” คือหมัดเด็ดที่พากูเซราเข้าสู่สภาเขตมาวอนได้อย่างเฉียดฉิวในนาทีสุดท้าย ย้อนกลับไปก่อนที่จะได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง งานอดิเรกของกูเซราคือการส่งเรื่องร้องเรียนไปที่เขต พร้อมทั้งจดบันทึกข้อร้องเรียนเหล่านั้นลงสมุดอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี

เนื้อหาในเล่มนั้นไล่มาตั้งแต่ ปัญหาการจัดงานเทศกาลเสียงดังจนสร้างมลภาวะทางเสียงในเขตชุมชน การขายกุ้งดองเค็มที่ไม่ได้มาตรฐานจนผู้บริโภคมีอาการป่วย นอกจากนั้นกูเซราก็ยังมีข้อเสนอแนะสำหรับหน่วยงานต่างๆ ที่ควรต่อยอดในอนาคต อย่างการเดินสายตรวจสุขภาพตามบ้าน หรือการเพิ่มลูกระนาดในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุจราจรบ่อย

และก็เป็นสมุดบันทึกเล่มนี้ ที่เปลี่ยนใจให้ซนอึนชิล ผู้สมัครตัวเต็งตัดสินใจหลีกทางและสนับสนุนจนกูเซราได้มีโอกาสเป็นสข.ตามที่ตั้งใจ

แม้ว่าการเป็น สข.ไร้สังกัด บวกกับนิสัยคนกล้าพูดกล้าถามอยู่เสมอนั้น จะทำให้กูเซราดูเหมือนเป็นพวกนอกคอกในสภา แต่ในอีกแง่หนึ่งเธอก็ช่วยแทนสายตาของผู้ชมอย่างเราๆ ที่ไม่คุ้นชินกับกลไกทางการเมืองต่างๆ อย่างการเสนอเทศบัญญัติ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือกระบวนการล่ารายชื่อ

ยิ่งไปกว่านั้น นิสัยช่างร้องเรียนที่กูเซรามีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ก็ช่วยกระตุ้นถามประเด็นที่น่าสงสัยในวาระการประชุมต่างๆ ซึ่งประชาชนคนเดินถนนทั่วไปอาจไม่เคยนึกสงสัยในชีวิตจริง อย่างความสำคัญของรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งมีผลกระทบมากจนถึงขั้นที่สามารถคร่าชีวิตคนได้เลยทีเดียว

ท้ายที่สุดแล้วหากเราจะรับเอาความเป็นกูเซรามาใส่ตัวเองสักนิด ตื่นตัวและกล้าวิพากษ์ประเด็นต่างๆ ในสังคมรอบตัวให้มากขึ้นอีกหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย

การเมืองที่ไม่ใช่เกม

“ฉันจะสู้เพื่อเงินภาษีของพวกคุณค่ะ” คือหนึ่งในคำสัญญาที่น่าจดจำของกูเซรา เพราะไม่ว่าผู้เสียภาษีคนไหนก็คงหวังจะให้เงินส่วนหนึ่งที่เจียดไปจากรายได้ของตน ถูกนำไปใช้อย่างฉลาด คุ้มค่า และสามารถย้อนกลับมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้บ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แต่ก็น่าตกใจที่นักการเมืองผู้มีจุดยืนในอุดมคติอย่างกูเซรา กลับถูกสบประมาท และถูกกันออกจากการเมืองในสภาเขตอยู่บ่อยๆ ด้วยคำพูดทำนองว่า

“เธอนี่มันโลกสวยจริงๆ เลยนะ”

“ทำตัวให้มันง่ายๆ หน่อยไม่ได้หรือไง หัดประนีประนอมซะบ้างสิ”

ประโยคลักษณะนี้ช่วยสะท้อนให้เราเห็นแนวคิดทางการเมืองของผู้กล่าว ที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมองการเมืองเป็นเรื่องของการช่วงชิงอำนาจ การเอาชนะคะคาน การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือที่สรุปได้ว่าเป็น “เกมการเมือง” จึงไม่แปลกที่เขาจะมองข้ามคำร้องเรียนที่ดูเป็นเรื่องหยุมหยิม และให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาพื้นที่ชนิดเมกะโปรเจกต์อย่าง มาวอนสมาร์ตซิตี้ ในอนาคตแทน

เมื่อกูเซราต้องตกมาอยู่ในสภาที่คนส่วนใหญ่ยังมีทัศนคติเช่นนั้นอยู่ เธอจึงต้องใช้ทั้งแรงและความพยายามอย่างมากเพื่อคัดง้าง และพิสูจน์ให้เห็นว่า บรรดาคำร้องเรียนที่ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยนั้นต่างก็เป็นคำร้องเรียนที่มีความหมาย และเชื่อมโยงกับปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือแผนงานพัฒนาเมืองที่บรรดานักการเมืองคนอื่นๆ แอบซุกซ่อนเอาไว้แทบทั้งสิ้น

อย่างเทศบัญญัติเปลี่ยนชื่อย่านต่างๆ ในเขตมาวอน ที่ดูเหมือนว่าความเห็นของคนในพื้นที่ จะขัดแย้งกับปริมาณผู้ลงชื่อสนับสนุนเทศบัญญัติ เมื่อกูเซราตัดสินใจลงมือสืบด้วยตนเองจึงได้รู้ว่า สาเหตุนั้นมาจากการซื้อรายชื่อ และเข้าชื่อโดยคนจากนอกเขตพื้นที่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลบประวัติศาสตร์อันผิดพลาดของอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในอดีต

ด้วยทั้งหมดทั้งมวลในความเป็นกูเซรา เธอได้ทำหน้าที่ในการกะเทาะแก่นแท้ของการเมือง ที่ไม่ใช่เกมแห่งอำนาจและผลประโยชน์ แต่เป็นหน้าที่ในการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนในเมืองต่างหาก เพราะท้ายที่สุดแล้วชีวิตเราก็เชื่อมโยงกับการเมืองอยู่ในทุกลมหายใจเข้าออกนั่นแหละ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า