ช่างธี จากตัดผมฟรียังถูกปฏิเสธ สู่เงากัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ช่างตัดผมชื่อดังในภาคเหนือ

จากช่างตัดผมที่มีชื่อเสียง ด้วยเอกลักษณ์การแต่งกายชุดกัปตันโจรสลัด แจ็ค สแปร์โรว์ ในภาพยนตร์ดังไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน (Pirates of the Caribbean) พร้อมลีลาล่าสุดการโชว์ปิดตาตัดผมให้ลูกค้าในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สร้างกระแสอย่างต่อเนื่องให้นายธีระพัฒน์ โมกล้า หรือช่างธี วัย 41 ปี เจ้าของร้านแจ็ค สแปร์โร่ บาร์เบอร์ช็อป ในพื้นที่ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตรงสะพานป่าแดดข้ามน้ำแม่ปิง โดยมีลูกค้าวัยรุ่นหนุ่มสาวแวะเวียนมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

หลังเรียกกระแสได้ไม่กี่วัน ผลกระทบโควิด-19 ทำให้ร้านตัดผมของเขาต้องถูกปิดตามมาตรการของภาครัฐ เช่นเดียวกับร้านอื่นๆ ทั่วประเทศ แน่นอนว่ารายได้หลักต้องหายไป จากกำไรกว่า 50,000 บาทต่อเดือน เลี้ยงดูครอบครัวได้ไม่ลำบาก เหลือรายรับเฉลี่ย 500 บาทต่อสัปดาห์ จากลูกค้าที่จ้างให้ไปตัดผมที่บ้าน

เมื่อลูกค้าประจำอยู่บ้านเป็นหลักและจำได้ว่า ‘ช่างตัดผมแจ็ค’ มีฝีมือในการเพ้นท์รูปตามผนังที่ร้าน จึงว่าจ้างให้เพ้นท์ผนังที่บ้านให้จ่ายค่าจ้างรูปละ 2,000 บาท ให้พอมีรายได้เลี้ยงปากท้อง

“จุดเด่นอยู่ที่ตัวผมมากกว่าครับ แจ็ค เป็นนามที่คนรู้จักจดจำได้ง่ายมากกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของผมจะเป็นลูกค้าประจำตั้งแต่ยังไม่เป็นแจ็ค ผมช่างน้ำหนักเอาน่ะว่า ขอให้ผมอยู่เถอะไม่จำเป็นต้องใส่ชุดแจ็ค นั่นคือความต้องการของลูกค้าจริงๆ คือต้องการฝีมือ” ช่างธี เผยกับทีม workpointTODAY

ชีวิตช่างธี ที่รู้จักคำว่า ‘เจ๊ง’ มานับไม่ถ้วน วิกฤตโควิด-19 จึงไม่ได้ใหญ่เกินกว่าใจจะสู้ เมื่อเทียบกับมรสุมชีวิตที่เขาและครอบครัวเคยเผชิญมา จากอดีตนักดนตรีตามร้านอาหารในกรุงเทพฯ ค่าตัว 250-300 บาท ต่อชั่วโมง มีลูกตอนอายุ 26 ปี ไม่นานก็เลิกกับภรรยาคนแรก

จากนั้น 6 ปี เขามีแฟนคนใหม่ เขาจึงไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ จ.เชียงใหม่ เอาเงินเก็บเปิดร้านอาหารกึ่งผับเปิดได้ 9 เดือนก็เจ๊งไม่เป็นท่า เหลือเงินทุนอยู่นิดหน่อย ก็ไปเปิดร้านหมูกระทะ เปิดได้ 6 เดือน ก็เจ๊งอีกรอบ แฟนต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อหารายได้อีกทาง

จุดเริ่มต้นเป็นช่างตัดผม ‘แจ็ค สแปร์โรว์’ โด่งดังมากในภาคเหนือ มาจากจุดต่ำสุดแบบ “หลังชนฝา” ทำธุรกิจมาหลายอาชีพก็ไม่ประสบความสำเร็จ พอไม่เงินเจ้าของเช่าก็ล็อกไม่ให้เข้าบ้าน  เพราะค้างค่าเช่าหลายเดือน ช่างธี เล่าในรายการปัญญาปันสุขว่า เขาได้นำแค่มอเตอร์ไซค์ และเงินติดตัว 100 บาท พาลูกชาย 2 คน ไปหาห้องเช่าอยู่ วันต่อมาลูกทั้ง 2 คน ถูกครูที่โรงเรียนตัดผมแหว่ง เพราะผมยาว ค่าตัดผม 2 คน 80 บาท มีเงินอยู่ 100 เดียว แต่ก็ต้องตัดเพราะไม่อยากให้ลูกอายเพื่อน ต่อมาเขาตัดสินใจยืมเงินเพื่อนสนิท 500 บาท ไปเดินตลาดขายของเก่า เห็นปัตตาเลี่ยนมือสอง  ซื้อมาในราคา 300 บาท คิดแค่ว่าจะไม่ต้องเสียเงินค่าตัดผมลูกทุกเดือน เขาเริ่มฝึกตักผมให้ลูกชายหน้าห้องเช่า มีคลิปในยูทูบเป็นครู

นายธีระพัฒน์ โมกล้า หรือช่างธี เจ้าของร้านแจ็คสแปร์โร่ บาร์เบอร์ช็อป และแฟนสาว

เรื่องราวของเขาไม่ต่างจากละครก็ว่าได้ ลูกค้าคนแรก คือ ลุงขี้เมา มาขอให้ตัดผม เหตุผลเพราะร้านตัดผมปิดหมดแล้ว ได้เงินมา 100 บาท วันต่อมาลุงพาเพื่อนมาตัดอีกทำให้เขาคิดเอาดีในเส้นทางนี้  ช่างธี เอ่ยปากยืมเงินแฟนอีกครั้ง 4,000 ลงทุนซื้ออุปกรณ์ไปหาเช่าที่เปิดร้านตัดผมทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนมาก่อน เขาเริ่มตั้งราคาหัวละ 40 บาท ตัดผมลูกค้าแหว่ง โกนหนวดก็มีดบาด เปิดร้านอยู่ 2 เดือนลูกค้าหายและเจ๊งอีกครั้งในที่สุด เขาไม่ย่อท้อขับรถเข้าทางไปป่าช้า เช่าที่ใต้ร่มเงาต้นไม้วันละ 40 บาท คิดค่าตัดหัวละ 70 บาท  แต่ทำเลแถวป้าช้าแห่งนี้ กลับมีลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นเยอะ ชอบให้ไถและมีลายข้างๆ หู เขาเรียนรู้จากลูกค้า แล้วกลับบ้านมาฝึกกับหัวลูกชาย ไม่กี่เดือน เขามีเงินเก็บ 9,000 บาท

“ผมคิดว่าตอนนั้นลูกผม กับผมลำบากมาก ก็เลยคิดจะตัดผมก็เลยถ้าวิธี เพราะคิดว่ามันสามารถเลี้ยงตัวเราเองได้ ก็เลยเปิดจากที่ไม่มีความรู้ใดๆ ทั้งสิ้น” ช่างธี เล่าในรายการปัญญาปันสุข

เมื่อเริ่มมีเงินเก็บก้อนแรกจากอาชีพช่างตัดผม เขาจึงเสริมความรู้ไปเรียนโรงเรียนสารพัดช่าง ได้ 3 เดือน จนได้ใบประกอบวิชาชีพ ไม่ต้องเป็นช่างเถื่อนอีกต่อไป

ชื่อเสียงช่างตัดผมเงา แจ็ค สแปร์โรว์ โด่งมากในภาคเหนือ เขาเล่ากับทีม workpointTODAY ว่าจุดเริ่มต้นในการคิดแต่งตัวเป็นกัปตันโจรสลัด แจ็ค สแปร์โรว์ มาจากเรื่องราวในใจตอนเป็นจิตอาสาตัดผมฟรี แต่ถูกชาวบ้านปฏิเสธไม่มีใครยอมให้ตัดผม เพราะเขากลัวที่ไว้หนวดเคราและไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงเขียนป้ายว่า “ตัดผมฟรี เพื่อเป็นทุนอาหารเด็กบนดอย” และได้ยินคนพูดบ่อยๆ ว่า “หน้าตาเหมือนโจรแต่จิตใจดี” จากนั้นก็หันมาแต่งตัวเป็นโจรสลัด แจ็ค สแปร์โรว์ ในภาพยนตร์ดังไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน มาโดยตลอด

นอกจากจุดเด่นเรื่องจากแต่งตัวแล้ว เขายังรับจ้างโชว์ตัดผม สอนตัดผม แกะลาย ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายที่ต่างกันของทรงผม พร้อมกับพัฒนาลีลาปิดตาตัดผมให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีลูกศิษย์มาขอเรียนตัดผมด้วยถึง 400 คน