ร้านค้ากระบี่ระแวงถูกคนร้ายหลอกเงิน เชื่อเป็นแก๊งป้ายยา

จากกรณีที่เจ้าของร้านขายชุดกีฬา ใน จ.กระบี่ โพสต์เตือนเหตุมิจฉาชีพชาวต่างชาติออกอาละวาดใช้ยาป้ายหลอกเอาเงินเหยื่อหลายราย โดยตนเองตกเป็นเหยื่อเมื่อ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา

วันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านสปอร์ตแมน ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ พบกับนายรณยุทธและนางสุณีย์ พรศิริ 2 สามีภรรยาเจ้าของร้าน โดยนายรณยุทธ เป็นผู้นำภาพชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายกลุ่มแขกขาว โพสต์เตือนภัยในโซเชียลมีเดียว่า ชายคนดังกล่าวมาหลอกเอาเงินและเสื้อกีฬาจากภรรยา

นางสุณีย์ ที่ตกเป็นเหยื่อเล่าว่า วันเกิดเหตุช่วงเย็น มีชายชาวต่างชาติขับรถยนต์สีขาวเข้ามาที่ร้าน ทำทีเป็นมาขอดูเสื้อกีฬาและบอกว่าจะขอซื้อ 1 ตัว ราคา 200 บาทเศษ พร้อมส่งโทรศัพท์มาให้ตนถือให้เพื่อจะลองเสื้อ จากนั้นชักเงินเป็นธนบัตร 1,000 บาท มาให้ตน ตนก็ไปเอาเงินทอนให้ไป ประมาณ 700 บาทเศษ แต่ชายคนดังกล่าว กลับชวนพูดคุยต่อรองราคาบอกขอ 100 บาท ตนบอกไม่ได้ ชายคนดังกล่าวก็แสดงท่าทีไม่พอใจและจะไม่ซื้อ บอกขอเงินคืน ตนก็ไปหยิบเงินมาคืนให้ 1,000 บาท ชายคนดังกล่าวก็ชวนคุยต่อ บอกขอซื้อเสื้อ 2 ตัว พร้อมกับหยิบเสื้อไปถือไว้และชวนตนคุย ก่อนจะบอกว่าขอเงินทอน ตอนนั้นตนเริ่มสับสน ลืมคิดว่ายังไม่ได้รับเงินมา แต่ก็เดินไปเอาเงินมาทอนไปให้อีก 800 บาทเศษ แล้วชายคนนั้นก็รีบเดินออกจากร้านไปขึ้นรถขับออกไป

นางสุณีย์ เล่าอีกว่า พอชายคนดังกล่าวออกไป ตนก็นึกขึ้นได้ว่า หยิบเงินทอนไปให้ 2 รอบ เป็นเงินรวมกว่า 1,500 บาท โดยไม่ได้รับเงินจากชายคนดังกล่าวมา กลายเป็นชายคนดังกล่าวได้เงินทอนไป พร้อมเสื้อ 2 ตัว ต่อมาตนเริ่มมีอาการตัวสั่น เหงื่อออกทั่วตัวคล้ายคนจะเป็นลม จึงเล่าให้สามีฟัง สามีก็เชื่อว่าน่าจะถูกคนร้ายใช้ยาป้าย เพื่อให้เกิดอาการเคลิ้ม จนหลงหยิบเงินให้คนร้ายไป

ต่อมาสามีนำเรื่องดังกล่าวโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ปรากฎว่ามีเพื่อนที่เป็นร้านค้าใน อ.ลำทับ อ.คลองท่อม และใน อ.เมือง อีก 3 ร้าน ถูกคนร้ายคนเดียวกัน เข้าไปหลอกเอาเงินในลักษณะคล้ายกันตนคิดว่าคนร้ายอาจจะใช้ยาป้ายให้เกิดอาการมึนงง โดยอาจจะป้ายยาไว้ที่โทรศัพท์มือถือและหลอกให้ตนถือให้ จากนั้นชวนพูดคุยจนสับสน ก่อนจะหลอกเอาเงินไป จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เหนือคลอง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบไปตามร้านค้าที่นางสุณีย์ให้ข้อมูล ก็ทราบว่า ร้านค้า 7 ร้าน ใน 4 อำเภอ เจอพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน ในวันเดียวกัน โดยคนร้ายเป็นคนเดียวกัน และอาจจะมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1-2 คน ใช้รถยนต์เบนซ์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ออกตระเวนหลอกเหยื่อหลายราย นอกจากนี้ยังพบออกอาละวาดในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง ซึ่งเป็นย่านการค้าชื่อดังของ จ.กระบี่ ด้วย ทำให้มีเหยื่อได้รับความเดือดร้อนแล้วหลายราย จึงมีการโพสต์เตือนภัยให้ระวัง

อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องยาป้าย รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยให้ข้อมูลไว้ว่า ยาที่ป้ายแล้วทืให้เกิดมึนงงไม่มี เพราะการที่ยาจะซึมจากผิวหนังสู่กระแสเลือดตั้งใช้เวลาและใช้ปริมาณยาจำนวนมาก ในทางการแพทย์จึงทำไม่ได้จริง ผู้ที่เป็นเหยื่อในลักษณะดังกล่าว อาจจะเกิดจากการพูดบ่ายเบี่ยงให้มึนงง