รถถังเลพเพิร์ด 2 อาวุธทรงพลังสัญชาติเยอรมัน ที่จะมาพลิกเกมสงครามยูเครน

สงครามรัสเซีย-ยูเครนลากยาวมานานเกือบ 1 ปี สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้รัสเซียจะเดินหน้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานและเป้าหมายพลเรือนในยูเครนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถยึดพื้นที่เพิ่มได้ ในขณะที่ยูเครนก็ไม่สามารถยึดคืนพื้นที่กลับมาได้มากขึ้น

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ยูเครนพยายามเรียกให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปช่วยให้มากขึ้น และหลายชาติก็ได้ตอบรับที่จะมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ยูเครนเพิ่มเติม 

โดยอาวุธที่ยูเครนออกมาประกาศชัดเจนว่า ต้องการให้ชาติตะวันตกส่งมาให้เพื่อมาช่วยต่อกรกับกองทัพรัสเซีย คือรถถังสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะเชื่อว่ารถถังเหล่านี้จะมาช่วยพลิกเกมสงครามให้ยูเครนชิงได้เปรียบมากขึ้นในสมรภูมิ และขับไล่ศัตรูออกจากดินแดนในประเทศได้ 

แม้ที่ผ่านมา ชาติตะวันตกจะสงวนท่าที โดยเลือกใช้วิธีการส่งขีปนาวุธต่อต้านรถถังให้กับยูเครนแทน เพราะเกรงว่าการส่งอาวุธหนักอย่างรถถังไปช่วยยูเครน จะถูกมองว่าเป็นการยั่วยุรัสเซียจนสถานการณ์บานปลาย จึงมีเพียงพันธมิตรใกล้ชิดกับยูเครนเพียงไม่กี่ประเทศที่ส่งรถถังไปให้ยูเครนใช้ต้านทานกองทัพรัสเซีย

แต่ในวันนี้ที่สถานการณ์สงครามยังไม่พบสัญญาณที่เป็นทางออก ซึ่งหมายความว่าความสูญเสียจะยังคงยืดเยื้อต่อไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด ขณะที่ชาติตะวันตกเองก็เริ่มประเมินกันแล้วว่า การที่รัสเซียยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ อาจทำให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตัดสินใจดับเครื่องชน รวบรวมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ มาเผด็จศึกให้เร็วที่สุด  

ทางออกเดียวที่ดูเหมือนจะทำได้ในเวลานี้ จึงเป็นการสร้างความได้เปรียบมากที่สุดในสมรภูมิ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจาหาทางยุติสงคราม และกลยุทธ์ที่ชาติตะวันตกคิดว่าจะช่วยให้ยูเครนเป็นฝ่ายได้เปรียบก็คือ การส่งอาวุธที่ทันสมัยไปให้กองทัพยูเครน และรถถังเลพเพิร์ด 2 (Leopard 2 ) ก็ถูกมองว่าเป็นยุทโธปกรณ์ที่เหมาะกับยูเครนที่สุดในเวลานี้ ด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่มีอยู่ 

รถถังเลพเพิร์ด 2 ถือเป็นหนึ่งในรถถังที่ดีที่สุดในโลก แม้จะมีน้ำหนักมากถึง 62 ตัน แต่ก็สามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว และมีความคล่องตัวสูง โดยตัวรถถังติดตั้งอาวุธหลักเป็นปืนใหญ่ลำกล้องเรียบ Rheinmetall ขนาด 120 มม. 1 กระบอก ยิงได้ราว 42 นัด และอาวุธรองเป็นปืนกลหนัก MG3A1 ขนาด 7.62 มม. 2 กระบอก ยิงได้ 4,750 นัด สามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ แม้ขณะเคลื่อนที่อยู่บนภูมิประเทศที่ไม่ใช่พื้นเรียบ 

ที่สำคัญไปกว่านั้น รถถังเลพเพิร์ด 2 ยังมีความเหมาะสมมากกว่าชาเลนเจอร์ 2 (Challenger 2) ที่อังกฤษประกาศจะมอบให้กับยูเครนก่อนหน้านี้ เนื่องจากรถถังของอังกฤษจำเป็นต้องใช้กระสุนเฉพาะ ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดแคลนกระสุนในอนาคต หรือแม้แต่รถถังเอ็มวัน เอบรามส์ (M1 Abrams) ของสหรัฐฯ ซึ่งแม้จะเป็นรถถังที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องความซับซ้อนของกลไก ทำให้ยากต่อการใช้งานและซ่อมบำรุง

อีกทั้ง รถถังเลพเพิร์ด 2 ยังมีประจำการอยู่ในกองทัพของหลายชาติยุโรป ทำให้มีโอกาสที่ยูเครนจะได้รับการส่งมอบรถถังรุ่นนี้จากหลายประเทศ ทั้งยังมีความสะดวกในเรื่องของอะไหล่และการซ่อมบำรุง ในกรณีที่รถถังเกิดความเสียหาย โดยโปแลนด์ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับยูเครนได้แสดงความจำนงที่จะส่งมอบรถถังเลพเพิร์ด 2 ที่มีอยู่ให้กับยูเครนแล้ว 

แต่ปัญหาติดอยู่ตรงที่ เยอรมนีซึ่งเป็นเจ้าของรถถังเลพเพิร์ด 2 ยังไม่รับปากว่าจะส่งรถถังรุ่นดังกล่าวไปให้กับยูเครน หรือแม้แต่ยินยอมให้ประเทศที่รถถังเลพเพิร์ด 2 ในครอบครองส่งต่อให้กับยูเครนได้ แม้จะถูกกดดันจากบรรดาพันธมิตรในยุโรปหลายชาติ ในการประชุมที่ฐานทัพอากาศแรมสไตน์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยสาเหตุที่เยอรมนียังคงลังเลในเรื่องการมอบรถถังเลพเพิร์ด 2 ให้กับยูเครนนั้น เป็นเพราะหลักการที่ยึดถือมายาวนานว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการส่งยุทโธปกรณ์เข้าไปยังพื้นที่ขัดแย้ง จากประสบการณ์ที่เจ็บปวดในประวัติศาสตร์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เยอรมนีพยายามหลีกเลี่ยงการถูกครหาว่ามีส่วนร่วม หากสงครามยูเครนบานปลายกลายเป็นสงครามโลกอีกครั้ง

ขณะที่เดียวกัน เยอรมนียังมีข้อกำหนดด้วยว่า ชาติพันธมิตรที่มียุทโธปกรณ์ของเยอรมนีอยู่ในครอบครอง หากต้องการเคลื่อนย้ายอาวุธดังกล่าวออกนอกประเทศหรือดินแดนอธิปไตยของตนจะต้องขออนุญาตจากทางการเยอรมนีก่อน ซึ่งหากเยอรมนีปฏิเสธ เท่ากับว่าเป็นการดับความหวังที่ยูเครนจะได้รับรถถังเลพเพิร์ด 2 จากพันธมิตรในยุโรปชาติอื่นๆ 

ท่าทีที่ลังเลเยอรมนีได้สร้างความผิดหวังให้กับพันธมิตรหลายชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปแลนด์ซึ่งแสดงความจำนงที่จะช่วยเหลือยูเครนอย่างชัดเจน โดยนายกรัฐมนตรีมาแตอุช มอราวีแยตสกี ของโปแลนด์ ถึงกับออกมาประกาศว่า จะรวบรวมพันธมิตรที่มีส่งรถถังเลพเพิร์ด 2 และพร้อมส่งให้กับยูเครนด้วยตัวเอง โดยไม่รอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากเยอรมนี

และล่าสุด ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ก็เพิ่งออกมาประกาศว่า กำลังหารือกับรัฐบาลถึงความเป็นไปได้ที่จะส่งมอบรถถังเลอแคลร์ (Leclerc) ซึ่งเป็นรถถังหลักของกองทัพฝรั่งเศสให้กับยูเครน โดยความเคลื่อนไหวนี้ได้ถูกมองว่า เป็นการแสดงจุดยืนเชิงสัญลักษณ์ร่วมกับพันธมิตรในการร่วมกดดันเยอรมนี 

จนถึงตอนนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเยอรมนีจะตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องการส่องมอบรถถังเลพเพิร์ด 2 เพื่อช่วยเหลือยูเครน แม้อันนาเลนา แบร์บอก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี จะออกมาแสดงจุดยืนว่าจะไม่ขัดขวางหากโปแลนด์ยื่นคำร้องเรื่องนี้เข้ามา 

แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ซึ่งยังคงยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด เพราะเสี่ยงที่รถถังเลพเพิร์ด 2 จะถูกนำไปใช้ในการโจมตี ซึ่งเกินกว่าวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และอาจทำให้สงครามบานปลายจนไม่สามารถควบคุมได้ 

ที่มา : https://www.aljazeera.com/news/2023/1/22/germany-would-not-block-poland-sending-tanks-to-ukraine

https://www.aljazeera.com/news/2023/1/21/what-is-stopping-the-supply-of-german-made-leopard-2-tanks

https://edition.cnn.com/europe/live-news/russia-ukraine-war-news-1-23-23/index.html

https://www.reuters.com/world/europe/germany-signals-shift-veto-leopard-tanks-ukraine-2023-01-23/