“อนาคตใหม่” ยืมเงิน “ธนาธร” อาจผิดถึงขั้นถูกยุบพรรคได้

ภาพ : YOUTUBE FCCT Events

จากกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยว่า ได้นำเงินส่วนตัวให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 110 ล้านบาท เพื่อในกิจการของพรรค โดยต่อมาโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงว่า เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองใหม่ไม่สามารถจัดระดมทุนได้ทันเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยฝ่ายกฎหมายของพรรคได้ศึกษาข้อกฎหมายแล้ว พร้อมทั้งเทียบกับคำพิพากษาศาลฎีกาพบว่า ทำได้และไม่ผิดกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น

เสรี สุวรรณภานนท์

วันที่ 21 พ.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อดีตประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง (สปท.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง “การกู้ยืมเงิน” ของพรรคการเมือง กับการถูกยุบพรรคการเมือง สรุปใจความสำคัญว่า รัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนุญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้กำหนดแนวทางของการได้เงินมาของพรรคการเมือง และวางวงเงินที่ใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครไว้ ไม่ให้มีการใช้เงินมากเกินไป เพื่อป้องกันการลงทุนในพรรคการเมือง

ส่วนการที่พรรคการเมือง กู้ยืมเงินจากหัวหน้าพรรคการเมืองนำไปใช้จ่ายในการเลือกตั้งจะเป็น”รายได้”ของพรรคการเมืองที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นายเสรี ระบุว่า แม้การกู้ยืมเงินจะเป็นไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 แต่รายได้ของพรรคการเมืองต้องเป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 62 ดังนั้น การกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่อยู่ในแนวทางที่พรรคการเมืองจะทำได้

พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 62

“ต้องเข้าใจคำว่า “เงินบริจาค” ตาม พรป.พรรคการเมือง นั้น ก็คงมีความหมายว่า การสละ การให้ การแจก นักการเมืองเหล่านี้ ไปตีความเพื่อเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ว่าการกู้ยืมเงินสามารถทำได้ เพื่อให้พรรคมีเงินมาใช้จ่ายจำนวนมาก แล้วตีความเองว่า “การกู้เงิน” ไม่ใช่การบริจาคเงิน จึงเป็นการเข้าใจผิดอย่างยิ่ง”

นายเสรี ระบุด้วยว่า หากพิจารณาพรรคการเมืองได้รับเงินนับร้อยล้านบาทที่ไม่เป็นไปตามที่ พรป.พรรคการเมือง บัญญัติไว้ จึงถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย คณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงมีอำนาจและหน้าที่ในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นได้ ตาม พ.ร.ป. มาตรา 92 (3) ซึ่งจะทำให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสุดลง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวนั้นได้ ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 90