หนุ่มนักสู้บนวีลแชร์ พลิกชีวิตผันตัวเป็นเกษตรกรปลูกเมลอน อุ่นไอรักฟาร์ม

กว่าที่หนุ่มนักสู้บนวีลแชร์ วัย 25 ปีจะตั้งหลักยึดอาชีพเกษตรกร ปลูกเมลอนออแกนิค หารายได้ด้วยตนเองและเลี้ยงครอบครัวได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องอาศัยมุมานะความอดทน และเจอคนดีสนับสนุน

นัท นราวุฒิ แก้วสะแสน ประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถสิบล้อรับจ้างขนข้าวสารจะไปส่งที่ จ.นครปฐม จนทำให้ขาทั้งสองข้างไม่สามารถใช้งานได้ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต ระหว่างที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล นัทได้เจอกับ ป้าสารภี พนักงานช่วยการพยาบาล โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่มาดูแล และได้กลายเป็นคนพลิกชีวิตของนัทจากหน้ามือเป็นหลังมือ…

หลังได้รู้เรื่องราวที่แท้จริงของครอบครัวนัท และทราบว่านัทอยากปลูกผักออแกนิคเพื่อเลี้ยงชีพและดูแลครอบครัว เพราะต้องกลายเป็นคนพิการที่โอกาสให้การทำมาหากินน้อยลง ป้าสารภีตัดสินใจเขียนขอทุนสนับสนุนจากมูลนิธินวัตกรรมสร้างอาชีพ ซึ่งทุนนี้มีโควต้าการเสนอขอทุนได้ปีละ 2 คน โดยป้าสารภีคือคนเดียวในประเทศไทยที่เป็นผู้เสนอขอทุนได้ ทำให้นัทได้รับเงินทุนก้อนแรก จำนวน 112,420 บาท

นัท บอกในรายการ ปัญญา ปันสุข ว่า ที่เลือกปลูกเมลอน เพราะเป็นผลไม้ที่สามารถปลูกในน้ำที่ทำเป็นรางยกพื้น ตนจะได้เคลื่อนตัวแม้นั่งอยู่บนวีลแชร์เข้าไปดูแลเมลอนได้เอง อีกทั้งเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม ราคาดี สามารถขายทางออนไลน์ นัทจึงนำเงินทุนไปซื้อโรงเรือนแบบปิดขนาด 8 คูณ 16 เมตร กันแมลง กันฝน เพื่อที่ใบจะไม่เป็นเชื้อรา ปรับระดับรางให้เตี้ยลงเพื่อที่จะได้นั่งรถวีลแชร์ปลูกเมลอนเองได้ไม่ต้องเป็นภาระกับพ่อแม่

โดยก่อนได้ทุนมาทำโรงเรือน นัทเคยทดลองปลูกเมลอนเอง ด้วยการปลูกให้ถังสี 1 ต้นต่อ 1 ถัง แต่ทว่าเกิดโรคขึ้นก่อนที่จะมีลูกเมลอน จึงลองเปลี่ยนมาปลูกในลังโฟม 2 ต้นต่อลัง และท่อพีวีซี 20 ต้น ก็เจอโรคอีกเช่นกัน และครั้งที่ 3 ลองปลูกในท่อพีวีซีจนมีผลลูกแรกออกมาให้กินได้ทำให้นัทมีความเข้าใจธรรมชาติของเมลอน และเมื่อได้เงินทุนมาจึงตัดสินใจทำโรงเรือนแบบปิด

การดูแลเมลอนต้องใกล้ชิด นัทบอกว่า ต้องเริ่มจากเพาะเมล็ดในก้อนโฟมก่อน เมลอนที่นัทเลือกปลูกมี 2 พันธุ์ คือ 1.พันธุ์หยกมงคล (เนื้อสีเขียว) และ 2.พันธุ์แสนหวาน (สีส้ม) ยอดนิยม โดย 1 โรงเรียนสามารถปลูกได้ 300 ต้น และน่าดีใจว่าผลผลิตล็อตแรกที่นัทดูแลก็ได้ 300 ลูก คือได้ผลทุกต้น

จุดสำคัญของการปลูกเมลอน คือระบบน้ำ นัทเริ่มปลูกเมลอนครั้งแรกในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นหน้าร้อน แต่เมลอนชอบน้ำเย็น ถ้าเจอน้ำร้อนรากจะเน่า นัทจึงค้นค้นระบบที่ทำให้น้ำเย็นลง โดยได้ไอเดียจาก ‘น้ำตก’ ที่เย็นตลอดเวลา ระบบน้ำตกที่ว่านั้น นัทใช้วิธีเจาะท่อพีวีซีเป็นรู ให้น้ำไหลผ่านลงมา เมื่อน้ำไหลผ่านอากาศ อุณหภูมิจะเย็นลงแล้วจึงปล่อยเข้ารางเมลอนโดยใช้พัดลมช่วยลดอุณหภูมิน้ำร่วมด้วย

สำหรับเมลอน จากไออุ่นรักฟาร์ม เป็นที่ต้องการของตลาด มีช่องทางการขายทั้งทางออนไลน์ และมีมารับซื้อหน้าฟาร์ม ขายในราคากิโลกรัมละ 100 บาท การปลูก 1 ครั้งต้องรอผลผลิต 3 เดือน ซึ่งล็อตต่อไปที่จะออกในเดือนพฤศจิกายนนี้ มียอดจองแล้ว 100 ลูก