Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สภาองค์กรของผู้บริโภค – ส.ส.ศิริกัญญา พรรคก้าวไกล ตั้งโต๊ะแถลงยืนยัน จะฟ้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน มติกสทช. ไฟเขียวควบรวม TRUE-DTAC

สภาองค์กรของผู้บริโภค แถลงท่าทีต่อมติเสียงข้างมากของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติรับทราบการควบรวมกิจการ ระหว่างบริษัท ทรู คอร์เปอร์เรชั่น (จำกัด) มหาชน และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมิวนิเคชั่น (จำกัด) มหาชน เตรียมฟ้องศาลปกครอง ขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้คำสั่งคุ้มครองก่อนมีคำพิพากษา และเตรียมส่งเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช. เหตุ กสทช. เสียงข้างมาก ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากการลงมติเสียงข้างมากของกรรมการ กสทช.

โดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ กสทช. ไม่ใช่อำนาจอย่างเต็มที่ ทำได้เพียงรับทราบข้อเสนอของสำนักงานภาคเอกชน ทั้งศาลปกครองและสำนักงานกฤษฎีกา ได้วินิจฉัยว่ากรณีนี้อยู่ในอำนาจของ กสทช. แต่มติเสียงข้างมาก ยังเลือกลงมติดังที่ปรากฏ สะท้อนว่าเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ สภาองค์กรจะเร่งดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ให้ไต่สวนเป็นการฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวก่อนที่จะมีคำพิพากษา และจะยื่นฟ้อง ป.ป.ช. อีกทางหนึ่ง เพื่อช่วยตรวจสอบ

สำหรับความเห็นต่อการที่ กสทช. ได้กำหนดเงื่อนไขและมาตรการก่อนการควบรวมนั้น แต่ในด้านโครงสร้างจะเห็นได้ว่า มีการเสนอให้คืนคลื่นบางส่วน เนื่องจากการควบรวมนี้อาจส่งผลให้คลื่นของกลุ่มกิจการที่ควบรวมมีมากกว่ากิจการอื่น แต่ตนเห็นว่าแทนที่จะออกมาตรการแก้ไขปัญหา กสทช. ควรออกมาตรการเพื่อป้องกันปัญหามากกว่า คือไม่ควรพิจารณาให้ควบรวมตั้งแต่แรก

เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุด้วยว่า “กสทช. อย่างน้อย 2 ท่าน ที่ลงมติเพียงรับทราบ ถือว่าเข้าข่ายการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ไม่ใช่เพียงสภาองค์กรของผู้บริโภค หรือพรรคก้าวไกล ผู้เสียหายทั้งหลายสามารถมาร่วมได้ ใครที่เป็นลูกค้าของทั้งทรูหรือดีแทค เพียงมีใบเสร็จก็สามารถมาร่วมฟ้องคดีได้ สามารถติดต่อมาได้เลย เพราะมติของ กสทช. เป็นที่สุด อุทธรณ์ไม่ได้ จึงจะตรงไปที่ศาลปกครองเลย”

ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมฯ สภาผู้แทนราษฎร ชี้ว่า กสทช. ปฏิเสธอำนาจของตัวเองตามรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียง และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่จะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้บริโภค และป้องกันการผูกขาด

ทั้งนี้ ยังมองว่ากระบวนการลงมติมีความแปลกประหลาด เพราะเป็นมติแบบ 2 ต่อ 2 ต่อ งดออกเสียง 1 เสียง แต่ท้ายสุดประธาน กสทช. ได้สิทธิออกเสียงชี้ขาดจนเป็นมติรับทราบการควบรวม ทั้งที่ประธานได้ใช้สิทธิออกเสียงไปแล้วตั้งแต่ต้นในฝั่งเสียงข้างมาก  ซึ่งตั้งข้อสังเกตุว่า ประเด็นที่มาของที่ปรึกษาอิสระมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับหรือไม่ เพราะบริษัทที่ปรึกษามีผู้ถือหุ้นซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทผู้เสนอขอควบรวม เช่นเดียวกับการตีความกฎหมายเพราะเห็นว่า ทรู-ดีแทค เป็นกิจการคนละประเภทกัน ซึ่งตนจะยังไม่ด่วนตัดสินจนกว่าจะได้ทราบความเห็นของ กสทช. เสียงข้างมากอยู่

น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวว่า แม้ในช่วงนี้รัฐบาลจะสงวนท่าทีเป็นพิเศษ แต่ก่อนหน้านี้รัฐบาลก็เคยแสดงความเห็นต่อกรณีควบรวมมาแล้ว ในการตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แสดงความเห็นการควบรวมจะไม่ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ ซึ่งตนมองว่าความเห็นของนายชัยวุฒิ สะท้อนความเห็นของทั้ง ครม. ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรแสดงท่าทีอย่างชัดเจนให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น

ด้าน  น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ อนุกรรมการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาองค์กรของผู้บริโภค และอดีต กสทช. ระบุว่า มติกสทช.ครั้งนี้ คือมติสีเทา ไม่ใช่ ไฟเขียว แต่เป็นไฟดับ การรับทราบแบบมีเงื่อนไข โดยไม่ใช่การอนุญาต สร้างความคลุมเครือ ส่งผลให้ กสทช. ได้กลายเป็นแดนสนธยาในที่สุด เพราะดูเหมือนจะเอื้อประโยชน์เอกชนมากกว่าประโยชน์ของผู้บริโภค ทั้งกระบวนการที่สื่อมวลชนเข้าไม่ถึง และมติที่ไม่ชัดเจน ทำให้ขาดความสง่างาม การลงมติขัดสามัญสำนึกและข้อเท็จจริง สวนความรู้สึกประชาชน และเกินกว่าเหตุ เพราะจะส่งผลต่อกรณีอื่นๆ ต่อจากนี้ไป หากในอนาคตเกิดการควบรวมอีก กสทช. อาจได้แต่รับทราบไปตลอด เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เท่ากับลดอำนาจขององค์กรอิสระไปโดยปริยาย ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของการก่อตั้ง หลังจากนี้ผู้บริโภคจะไปหวังพึ่งใคร เพราะในทางการเมืองประชาชนจะเหลือทางเลือกน้อยลง เรียกร้องให้รัฐบาล และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทรู-ดีแทค แถลงท่าทีและความชัดเจน และแสดงความรับผิดชอบต่อการสูญเสียของประชาชน

สำหรับกรณีประธานที่ประชุมเมื่อวานนี้ได้ใช้อำนาจตามระเบียบออกเสียงชี้ขาด เพราะมติช่วงแรก 2 : 2 และงด 1 เสียง นั้นทำได้หรือไม่ น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. ในอดีตเคยเกิดเหตุเช่นนี้แต่น้อยครั้ง แม้ประธานฯ มีสิทธิออกเสียงชี้ขาดได้ แต่มติจะอ่อน และอาจมีปัญหาในอนาคต หาก 1 เสียงไม่ยอมลงมติ ความจริงควรเลื่อนการประชุมออกไปก่อนจนตัดสินใจได้แล้วค่อยลงมติทีหลัง เพราะหากศาลปกครองวินิจฉัยว่ากระบวนการลงมติไม่ถูกต้อง กลายเป็นโมฆะ กลายเป็นว่าทุกฝ่ายเสียเวลา

ส่วนวันเวลาในการยื่นฟ้องคดีนั้น เบื้องต้นสภาองค์กรของผู้บริโภค จะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคดี ในวันที่ 26 ต.ค. ที่จะถึงนี้ และมีสิทธิฟ้องคดีอยู่ 2 โอกาส คือเมื่อผู้บริโภคร้องขอเข้ามา ในกรณีนั้นก็สามารถดำเนินการได้เลย แต่ในการฟ้องคดีเพื่อประโยชน์สาธารณะ จะอยู่ที่มติของคณะกรรมการพิจารณาคดี ดังนั้น การยื่นฟ้องอย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นภายในเดือนหน้า ขณะที่ พรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ต้องรอคำวินิจฉัยฉบับเต็ม และบันทึกความคิดเห็นของกรรมการ กสทช. ทุกท่านให้ครบก่อน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพียงพอยื่นเอาผิดต่อ ป.ป.ช. ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว ผู้แถลงได้ยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยต่อมติกสทช. ในกรณีนี้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

กสทช.มีมติเสียงข้างมาก ‘รับทราบ’ ควบรวม TRUE-DTAC อย่างเป็นทางการ พร้อมกำหนดเงื่อนไข

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า