พบศพชายตายกว่า 10 วัน โรยปูนขาวนอนกลางบ้าน หญิง 3 คนเฝ้า เชื่อตายแล้วฟื้น

เพื่อนบ้านสุดทนกลิ่นเหม็นเน่านานนับสัปดาห์ แจ้งเจ้าของบ้านเช่าให้เข้าตรวจสอบบ้านเช่าในเขตเทศบาลเมืองนครนายก ผงะเจอศพนอนกลางบ้าน สุดแปลกศพถูกจัดวางให้ท่านอนอย่างดี ปูผ้า ห่มผ้า โรยปูนขาวทั่วตัวศพ โดยภายในบ้านถูกเก็บกวาดทำความสะอาดเป็นอย่างดี มีผู้หญิง 3 คน อาศัยอยู่ในบ้านกับศพ อ้างเป็นความเชื่อส่วนตัวว่าผู้ตายจะมีชีวิตฟื้นกลับมา  

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาสากู้ภัยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก ว่าให้เข้าตรวจสอบบ้านเช่าหลังหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครนายก หลังมีเพื่อนบ้านร้องเรียนว่าได้กลิ่นเหม็นเน่ามาจากบ้านหลักดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานนับสัปดาห์ จนกระทั่งสองวันก่อนจนถึงวันนี้มีกลิ่นเหม็นเน่ามากกว่าเดิมจนทนไม่ได้ จึงขอให้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นกลิ่นอะไร

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นทาวส์เฮ้าท์สองชั้นให้เช่า เลขที่ ข/1 332/32  หน้าบ้านพบชาวบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ จึงประสานเจ้าของบ้านเช่าหลังดังกล่าวให้มาเปิด แต่เมื่อเปิดเข้าไปต้องผงะทั้งกลิ่นและเจอซากศพที่นอนอยู่กลางบ้านชั้นหนึ่ง โดยสภาพศพถูกจัดวางบนที่นอน มีผ้าห่มคลุม และถูกโรยแป้งทั่วร่างและรอบ ๆ จากนั้นได้เข้าตรวจสอบภายในบ้าน เป็นที่ผิดสังเหตุเนื่องจากภายในบ้านข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดเป็นระเบียบและสะอาด คล้ายมีคนอาศัยอยู่ตลอด จากนั้นได้ขึ้นไปบนชั้นสองก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินออกมาข้างนอก เหลือแต่ผู้สื่อข่าวที่ยังอยู่จึงได้เข้าไปยังด้านหลังบ้านที่เป็นห้องครัว ถึงกับผงะและตกใจสุดขีดรีบวิ่งหนีออกมา เนื่องจากเจอผู้หญิงอยู่ 3 คนนั่งรวมกันอยู่ จากนั้นจึงได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้าไปตรวจสอบ พร้อมเชิญตัวออกมาทำการสอบสวนที่ด้านนอกบ้าน

นางสาวประวรวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุ 2 หลัง บอกว่า ตนอยู่บ้านถัดจากบ้านที่พบศพ 2 หลัง ได้กลิ่นเหม็นมานานนับสัปดาห์ จนกระทั่งสองวันก่อนกลิ่นแรงมาก ที่ผ่านมาตนทราบว่าบ้านหลังที่พบศพมีคนอาศัยอยู่ตี่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เห็นแต่เพียงมีคนเข้าออก 2-3 คน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามหญิงคนหนึ่งที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ที่นอนอยู่ใต้บันไดข้างห้องน้ำที่อยู่ห่างจากศพประมาณ 5 เมตร  ได้บอกว่าศพที่อยู่ในบ้านนั้นตอนเมื่อยังมีชีวิตอยู่นั้นเป็นคนดูแลรักษาตนเอง และมีจิตใจดี แต่ตนจำไม่ได้ว่าตายเมื่อไหร่ คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งล่าสุดคนตายได้บอกกับตนว่าเขาจะนอนซักพัก  ทั้งนี้ หญิงคนดังกล่าวอยู่ในอาการพูดจากไม่ค่อยรู้เรื่อง และมีอาการไม่ปกติเหมือนคนปกติทั่วไป

เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสรวุฒิ เดชทวี อายุ 62 ปี เป็นชาว ตำบลหนองน้ำส้ม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวผู้หญิงทั้ง 3 คน ที่พบอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวไปทำการสอบสวนอีกครั้ง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองนครนายกและกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายสรวุฒิ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมผู้หญิงทั้ง 3 คนถึงอยู่ในบ้านกับศพและไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีคนตายภายในบ้านหลังนี้

ด้าน พ.ต.อ.กล้าหาญ โชคพิพัฒน์ไพบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครนายก เปิดเผยว่าจากการสอบถามผู้หญิงที่อยู่ในบ้านทั้ง 3 คน ให้การว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการเป็นลม แต่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่เนื่องจากมีความเชื่อทางศาสนา จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็น และได้มีการมาเปิดประตู ซึ่งตอนนั้นก็มีผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านแต่ก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ จึงแจ้งเจ้าของบ้านและเจ้าหน้าที่ให้มาทำการเปิดประตู ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ทั้งนี้ สภาพศพเริ่มแห้งและได้มีการโรยปูนขาว ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าผู้อาศัยภายในบ้านนับถือศาสนาคริสต์

นางพุธนันท์ สดมณี หนึ่งใน 3 ที่อยู่ในบ้าน ให้การว่า นายสรวุฒิเสียชีวิตมา 10 กว่าวันแล้ว ( 4 ธ.ค.62 ) ส่วนสาเหตุที่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่เพราะเชื่อเรื่องพระเจ้า ว่านายสรวุฒิจะฟื้นขึ้นมา โดยได้บอกว่าก่อนนายสรวุฒิเสียชีวิตนั้นได้เป็นลมในห้องน้ำ ซึ่งตนเองอยู่ในเหตุการณ์ จากนั้นก็ได้นำศพนายสรวุฒิมานอนตรงจุดที่พบศพภายในบ้าน  ซึ่งนายสรวุฒิ เดชทวี ผู้เสียชีวิตภายในบ้านเป็นผู้ป่วยที่ถูกนำตัวมารักษาที่บ้านหลังนี้ โดยมีคำสอบที่ถูกเขียนเอาไว้ ที่จะต้องสวดท่องทุกวัน โดยไม่ต้องกินยา โดยในความเชื่อผู้ป่วยจะหายจากอาการเจ็บป่วยตามความเชื่อ ขณะที่ผู้หญิงอีกคน ก็เป็นผู้ป่วยอีกคนที่มาเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับเส้นเอ็น โดยใช้พลังของพระเจ้า และการนวด อีกทั้งมีอาการทางสมอง โดยมีญาตินำมาส่งที่นี่

ทั้งนี้ หลังจากนายสรวุฒิได้เสียชีวิต นางพุธนันท์ ไม่ได้แจ้งญาติผู้เสียชีวิต และญาติก็ไม่ได้มีการติดต่อกลับมา โดยการรักษาที่เกิดขึ้นเป็นการรักษาครั้งแรกตามความเชื่อส่วนตัวของตนเอง ส่วนที่มีผู้ป่วยมารักษาในบ้านนั้นมาจากการโทรศัพท์ติดต่อกันจากคนรู้จักกับตนโดยนางพุธนันท์ ได้บอกอีกว่า ตลอด10 กว่าวันที่อยู่กับศพนั้นทุกคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครได้กลิ่นเหม็นจากศพเลย

นางพุธนันท์ ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุว่า ตนรู้ว่านายสรวุฒิเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา และไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้าน เนื่องจากมีความเชื่อส่วนตัวว่านายสรวุฒิจะมีชีวิตฟื้นกลับมา เพื่อมารักษากับตนเองอีกครั้ง แม้ว่าร่างของนายวรวุฒิจะเปลี่ยนสภาพแล้วก็ตาม

จากการตรวจสอบหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุ ตำรวจพบเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อนายสรวุฒิ เดชทวี อายุ 62 ปี เป็นชาวตำบลหนองน้ำส้ม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมซองยาลดความดันโลหิต ยารักษาระบบหลอดเลือดและหัวใจ และยากรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตในเพศชาย คาดว่านายวรวุฒิน่าจะป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ขณะเดียวกันก็พบแผ่นป้ายที่ติดอยู่กับกำแพงบ้านเป็นลายมือ เขียนข้อความบทสวดเกี่ยวกับพระเจ้าเป็นตัวอักษรสีแดง

จากนั้นแพทย์จากโรงพยาบาลนครนายก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับชันสูตรศพเบื้องต้น ก่อนที่จะส่งศพไปทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ขณะที่นางพุธนันท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองนครนายก