ผบ.ตร. แถลงยันไม่ปิดคดี ‘น้องชมพู่’ 4 เดือนยังตั้งข้อหาใครไม่ได้ ‘ลุงพล’ เป็นผู้บริสุทธิ์

สรุป ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่

วันที่ 2 ต.ค. 2563 เวลา 14.35 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำแถลงข่าวความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี ที่หายตัวปริศนาก่อนพบว่าเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ พื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา รวมเป็นกว่า 4 เดือน

โดยมีการสรุปการสืบสวนสอบสวนว่า มีการสอบปากคำ 384 ปาก นำเข้าสำนวนคดี 120 ปาก สอบผู้เชี่ยวชาญ 13 ปาก เก็บวัตถุพยาน 113 ชิ้น เป็นวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ 16 ชิ้น ตรวจดีเอ็นเอ 154 ตัวอย่าง สำนวนคดีมีความหนา 918 หน้า โดยเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2563 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้สรุปว่าน้องชมพู่ไม่ได้สามารถเดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟได้ตัวตนเอง

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเปิดคลิปวิดีโอทั้งหมด 3 คลิป ได้แก่

– คลิปแรก เป็นเหตุผล 8 ประการที่ทำให้ตำรวจสรุปว่าน้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟเอง อาทิ ทางขึ้นที่มี 4 เส้นทาง มีความชันสูง มีการพบเส้นผม 36 เส้นที่เกิดจากการตัดหรือเฉือนด้วยมีด ซึ่งน้องชมพู่ยังไม่สามารถตัดผมตัวเองได้

– คลิปที่สอง เป็นคลิปการสืบสวนจากหลักฐานและผู้เชี่ยวชาญที่อธิบายเวลาการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งสรุปว่าน้องชมพู่เสียชีวิตในวันที่ 12 พ.ค. เวลา 14.30 น. ถึงวันที่ 13 พ.ค. เวลา 14.30 น.

– คลิปที่สาม ยืนยันว่ามีการใช้เทคโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในการตรวจหลักฐาน และมีพยานหลักฐานครบ ขอให้ครอบครัวน้องชมพู่และประชาชนมั่นใจการทำงานของตำรวจ “แม้จะมองไม่เห็นพวกเราแต่ขอให้รู้ว่าพวกเรายังไม่ไปไหน”

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจมีการตั้งข้อหา 1.พรากเด็กและกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต 2.ซ่อนเร้น เคลื่อนย้าย ทำลายและอำพรางศพ ส่วนผู้กระทำผิด ยังมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะออกหมายจับใครได้ หรือดำเนินคดีใครได้ แม้จะรวบรวมพยานหลักฐานมาเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งวันนี้ต้องทำเพิ่ม การสืบสวนยังไม่ยุติ โดยคดีนี้มีอายุความ 20 ปี แม้ตามระเบียบของตำรวจจะกำหนดว่า หากภายใน 1 ปี ยังเอาผิดใครไม่ได้ พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนให้อัยการ และงดการสอบสวน แต่การสืบสวนจะไม่เลิก จะเป็นจังหวะมีผ่อน เบา หนัก เร็ว แล้วแต่เหตุผลความจำเป็น

“เราเชื่อว่าน้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นไปเอง อาจจะถูกใครบางคนทำด้วยวิธีการใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แล้วทำให้เกิดการเสียชีวิต เพราะฉะนั้นคนนั้นต้องรับผิดชอบตามข้อหาที่เราได้ตั้ง”

(ลุงพล เดินทางมาร่วมฟังการแถลงข่าวของผบ.ตร.)

ผู้สื่อข่าวถามถึง ‘ลุงพล’ นายไชย์พล วิภา ที่มีศักดิ์เป็นลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ว่าได้ตกเป็นจำเลยของสังคม พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากเราไม่มีพยานหลักฐานพอที่จะตั้งข้อหาใคร ไม่สามารถแถลงได้เลยว่าสงสัยหรือไม่สงสัยใคร  ที่ว่าเป็นจำเลยสังคม ต้องถามว่าใครเป็นคนเอาตำแหน่งนั้นให้ ตำรวจตอบไม่ได้