อ็อกซ์ฟอร์ดเผยผลทดสอบวัคซีน สร้างแอนติบอดีได้ถึง 90% ภายในเข็มแรกที่ฉีด

วัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกลายเป็นวัคซีนตัวล่าสุดที่ประสบความสำเร็จในการทดลองกับมนุษย์ แต่ยังคงต้องรอดูผลในระยะยาวและทดสอบในวงกว้างต่อไป

สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานผลการทดสอบวัคซีนชนิด ChAdOx1 ที่ได้รับการพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ จากผู้เข้ารับการทดลอง 1,077 คน มีถึง 90% ที่ตรวจพบ neutralising antibodies หรือสารภูมิคุ้มกันชนิดที่ไปหยุดการทำงานของโคโรนาไวรัส ภายหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มแรก และมีกลุ่มเล็กอีก 10 คนที่ถูกฉีดกระตุ้นเพิ่มไปอีกเข็ม ซึ่งให้ผลลัพธ์ออกมาว่ามี neutralising antibodies เช่นกัน

เท่าที่ผ่านมายังไม่มีรายงานผลข้างเคียงร้ายแรงที่เกิดจากวัคซีนตัวนี้ มีเพียงอาการปวดหัวหรือมีไข้ ซึ่งสามารถระงับได้ด้วยยาพาราเซตามอล โดยรวมแล้วยังไม่มีอะไรที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะยืนยันว่าวัคซีน ChAdOx1 ของอ็อกซ์ฟอร์ดจะสามารถใช้ได้ผลในระยะยาว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีบางรายงานระบุว่า ผู้ที่มีแอนติบอดีจากการติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการจำนวนเกือบครึ่ง ที่ตรวจไม่พบแอนติบอดีแล้วหลังจากระยะเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน

ฉะนั้นตอนนี้จึงต้องรอดูผลในระยะยาวไปก่อน รวมถึงการทดสอบให้กว้างขึ้นโดยในเฟสที่ 3 จะเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นหลักหมื่นคน ซึ่งจำเป็นต้องมีการขยายการทดสอบไปยังต่างประเทศที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากเช่นสหรัฐฯ และบราซิล เพื่อให้ได้ผลการทดสอบที่ชัดเจนขึ้นว่าวัคซีนที่ฉีดไปนั้นได้ผลหรือไม่

วัคซีนที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดพัฒนาร่วมกับบริษัทแอสตร้า เซนเนก้า ถูกคาดหมายว่าจะทดสอบเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้หากไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น แต่จะยังไม่ถูกส่งให้กับสาธารณะเนื่องจากจำเป็นต้องฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้สูงวัยที่มีความเสี่ยงสูงเสียก่อน

ปัจจุบันนอกจากอ็อกซ์ฟอร์ดแล้วยังมีวัคซีนของบริษัท Moderna จากสหรัฐฯ และ Sinovac จากจีน ที่มีผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจและกำลังอยู่ในเฟส 3 ของการทดสอบ