ศศิธร สุขสวัสดิ์ และตัวตนที่บอกเล่าผ่าน “โชว์ตั้งขวด”

เวลาที่เห็น ‘โชว์ตั้งขวด’ ตามงานเทศกาลต่างๆ เชื่อว่าแวบแรกที่หลายคนรู้สึกคือ ตื่นตาตื่นใจไปกับความท้าทายของโชว์ และตามมาด้วยความตื่นเต้น หวาดเสียว ที่กลัวว่าขวดจะหล่นแตก

แต่รู้ไหมว่า สิ่งที่ท้าทายกว่าโชว์นั้น คือตัวตนของคนเบื้องหลัง…

วันนี้สำนักข่าว TODAY จะพาทุกคนไปคุยกับ ทิพย์ – ศศิธร สุขสวัสดิ์ คนทำโชว์ตั้งขวดวัย 20 ปี ที่มีชีวิตและตัวตนท้าทายไปไม่น้อยกว่าโชว์ของตัวเอง

ความท้าทายของโชว์ตั้งขวด

ก่อนจะไปพูดคุยกันถึงเรื่องราวของเธอ ทิพย์เล่าถึงความน่าสนใจของโชว์ตั้งขวดที่ได้ถือยึดถือเป็นอาชีพในตอนนี้ว่า

“โชว์ตั้งขวด คือ การโชว์วางขวดแก้ว ให้มีท่าทางหวาดเสียว เหมือนจะล้ม ด้วยรูปแบบต่างๆ ความยากอยู่ที่การหาจุดสมดุลในการวางขวดให้นิ่ง และตั้งค้างได้ มันต้องมือนิ่ง และมีสมาธิมากจริงๆ”

ตอนนี้ทิพย์ตั้งขวดได้ทั้งหมด 20 ท่า ท่าที่ยากที่สุดคือใช้ขวดต่อกันเป็นหอคอย โดยใช้ขวด 3 ขวด ประกอบกันเป็นฐาน แล้วต่ออีก 1 ขวดขึ้นเป็นหอคอย ใช้เวลาตั้งประมาณ 2 นาที ซึ่งความสนุกอยู่ที่เวลาไปนั่งตั้งขวด จะมีคนมาคอยลุ้นไปด้วย และถ้ามีคนใจดี สนใจในความสามารถ ก็จะเอาเงินใส่กล่องให้

ความท้าทายของชีวิตที่เปรียบเสมือนโชว์

เมื่อถามว่าทำไมต้องเป็นโชว์ตั้งขวด ทำไมไม่ลองหาเงินด้วยวิธีอื่น เธอตอบว่า “เพราะชีวิตไม่ได้มีทางเลือกมากนัก” ก่อนจะเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นในการฝึกฝนวิชาตั้งขวดว่า ในอดีตเป็นเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวยากจน ที่มีแค่พ่อและแม่เลี้ยง เพราะแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ต่อมาพอพ่อล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ แม่เลี้ยงก็มาทิ้งไป ทำให้เธอในวัย 8 ปี ต้องดูแลพ่อเพียงคนเดียว แต่สุดท้ายพ่อก็ตายจากไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เธอไม่เคยได้เรียนหนังสือเลย

ชีวิตหลังจากนั้นก็ดีขึ้น เมื่อย่ารับเธอไปดูแลต่อ เพราะย่าส่งเสียให้ทิพย์ในวัย 11 ปีได้เรียนหนังสือเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยเริ่มเข้าเรียนในชั้น ป.1 แต่ชีวิตที่กำลังไปได้ดีก็แสนสั้น ย่าเกิดล้มป่วยขึ้นมา ในช่วงเวลานั้นเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มฝึกฝนวิชาโชว์ตั้งขวด จากการแนะนำของเพื่อนที่โชว์ตั้งขวดหาเงินตามงานวัด เพราะเป็นหนทางเดียวที่เด็กประถมจะหาเงินได้

“ฝึกได้ไม่นาน ยังไม่เก่งเลย ก็รีบไปงานวัดแล้ว เพราะอยากรีบหาเงินมาให้ย่า จำได้ว่าครั้งแรกได้เงินมาตั้ง 1,000 บาท หนูให้ย่าหมดเลย หนูตั้งใจว่าจะเอาเงินที่หนูตั้งขวด มารักษาย่า”

เมื่อประสบความสำเร็จด้านการเรียนด้วยวุฒิป.6 ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เพราะย่าได้สิ้นใจจากไป และเธอต้องย้ายไปอยู่กับอา แต่ครั้งนี้โชคไม่ได้ดีเหมือนตอนอยู่กับย่า เพราะอาติดยาเสพติด และชอบทำร้าย ทุบตีเธออยู่บ่อยๆ ใจเธออยากคิดจะหนีออกมา แต่ก็ไม่มีที่ไป ชีวิตเลยกลับมาหมิ่นเหม่จะแตกสลายอีกครั้ง ต้องหยุดทั้งเรื่องเรียนหนังสือ และโชว์ตั้งขวดไปโดยปริยาย

แต่แล้วแสงสว่างก็มาถึง เมื่อลูกพี่ลูกน้องอย่าง “พี่นุช” ได้พาเธอออกมาจากตรงนั้น ซึ่งแม้ว่าครอบครัวของพี่นุชจะไม่ได้ร่ำรวย และเงินส่วนใหญ่ยังต้องแบ่งไปเลี้ยงดูลูกเล็ก แต่ก็ทำให้เธอได้เจอกับสิ่งที่เรียกว่าความสุขอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงยอมที่จะไม่เรียนต่อ แล้วหันมาช่วยรายได้จุนเจือครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว ด้วย “โชว์ตั้งขวด” เพื่อทดแทนบุญคุณ

“โชว์ตั้งขวดได้เงินวันละ 200 บาท แต่บางวันก็ไม่ได้เลย เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งจะเอาให้พี่นุชซื้อของใช้จำเป็นให้ลูก และอีกส่วนจะเก็บไว้เพื่อความฝันของตัวเอง ตอนนี้เก็บได้พันกว่าบาทแล้วค่ะ”

ความฝันสูงสุดคือเรียนต่อ

ในโชว์ตั้งขวดมักจะมีขวดใบหนึ่งที่ตั้งไว้เป็นจุดสูงสุด สำหรับชีวิตของทิพย์เองก็มีจุดสูงสุดแบบนั้น ที่อยากทำให้ได้เช่นเดียวกัน โดยเธอตั้งเป้าหมายว่าจะทำโชว์ตั้งขวดนี้ไปจนกว่าจะได้เรียนต่อกศน. จนจบม.3 เพื่อเอาไปสมัครงานที่ได้รายได้ดีและมั่นคงกว่านี้ รวมทั้งช่วยเหลือพี่นุชให้หาเงินเลี้ยงครอบครัวได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เข้าร่วมรายการ ปัญญาปันสุข 2023 ความฝันสูงสุดของเธอก็ได้เป็นรูปเป็นร่าง และใกล้ความจริงมากขึ้น เพราะได้รับทั้งค่าเทอมเรียนกศน. และอุปกรณ์ประกอบอาชีพขายลูกชิ้น ที่ทำให้พี่นุชไม่ต้องหยิบยืมของใครอีกต่อไป

ทั้งหมดนี้คือชีวิตและตัวตนของทิพย์ – ศศิธร สุขสวัสดิ์ คนทำโชว์ตั้งขวดที่ท้าทายการมีชีวิตรอดไม่ต่างจากขวดในโชว์ แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะความไม่ยอมแพ้ และมุ่งมั่นเพื่อความฝัน