Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

คลังเผย มาตรการ “ชิมช้อปใช้” 3 วันแรกคึกคัก มีผู้เริ่มไปใช้สิทธิ์ 370,523 ราย โดยมียอดใช้จ่ายรวม 294 ล้านบาท ยืนยันลูกหนี้ ธ.กรุงไทย สินเชื่อทุกประเภทไม่ถูกหักเงินจาก 1 พันบาทเพื่อชำระหนี้เดิม 

วันนี้ (30 ก.ย.62) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า กรณีการแชร์ข้อมูลตามโซเชียล ระบุเงื่อนไขข้อตกลงและเงื่อนไข “ยินยอมให้ธนาคารมีสิทธิ์หักเงินจากบัญชีเงินฝากทั้งหมดทุกประเภทและทุกวงเงินผู้ขอใช้บริการที่มีอยู่ในธนาคาร เพื่อนำมาชำระหนี้ โดยธนาคารไม่ต้องแจ้งขอความยินยอมล่วงหน้าจากผู้ขอใช้บริการ” ข้อความดังกล่าว เป็นการเขียนสัญญาพื้นฐานของการทำสัญญาทุกประเภทรวมทั้งแอปพลิชัน “ชิมช้อปใช้” ซึ่งเปิดให้ประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการ แต่การร่วมโครงการดังกล่าวเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และเป็นโครงการของรัฐส่งเสริมสังคมไร้เงินสด เพื่อใช้จ่ายเงินกระจายออกไปทั่วประเทศ จึงไม่เข้าข่ายการหักเงินจากแอป “เป๋าตังค์” จากประชาชนสำหรับผู้เป็นลูกหนี้เดิม ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล ลูกหนี้กองทุน กยศ.

ส่วนบรรยากาศการออกเดินทางไปใช้จ่ายในต่างจังหวัดท้ายสัปดาห์ของผู้ลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้” ในช่วงแรกพบว่าประชาชนสนใจออกไปใช้สิทธิ์เพื่อใช้เงิน 1 พันบาทจำนวนมาก นับว่าเป็นสัญญาณดีในการกระจายเงินเข้าสู่ระบบ ซึ่งตรงตามเจตนารมย์ของทางรัฐบาล ที่ต้องการเน้นให้ประชาชนออกไปใช้จ่ายตามแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมืองรอง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน

ขณะที่ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 8 วันแรก มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ “ชิมช้อปใช้” เต็มตามโควตา 1 ล้านรายทุกวัน โดยระบบจะใช้เวลาตรวจสอบ 3 วันทำการ และเมื่อได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์และยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว จะสามารถใช้สิทธิ์ได้ในวันถัดไป ซึ่งการยืนยันตัวตนนั้นเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้อื่นใช้สิทธิ์ของท่าน หากสแกนใบหน้า 3 ครั้งแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ สามารถไปยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้การใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และ “เป๋าตัง” ขอให้เปิด location ทุกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการไปใช้สิทธิ์ในจังหวัดที่เลือกจริง

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 23 – 26 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ 3,115,449 ราย และการเริ่มใช้จ่ายวันแรกวันที่ 27 – 29 ก.ย. รวม 3 วัน มีผู้เริ่มไปใช้สิทธิ์แล้ว 370,523 ราย โดยมียอดการใช้จ่ายประมาณ 294 ล้านบาท

ทั้งนี้ พบว่า กว่าร้อยละ 50 ของการใช้จ่าย หรือประมาณ 148 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายที่ร้าน “ช้อป” ซึ่งเป็นร้านในกลุ่ม OTOP ร้านวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ รองลงมา คือร้าน “ชิม”หรือร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่มียอดใช้จ่ายประมาณ 60 ล้านบาท สำหรับร้าน “ใช้” เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ เป็นต้น มียอดใช้จ่ายประมาณ 7 ล้านบาทส่วนร้านค้าทั่วไป มียอดใช้จ่ายประมาณ 79 ล้านบาท โดยร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” g-Wallet ช่อง 1 วงเงิน 1,000 บาท จากรัฐบาล จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีของร้านค้าไม่เกินเวลา 21.00 น. ของวันทำการถัดไป ส่วน g-Wallet ช่อง 2 ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ประชาชนเติมเอง จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีของร้านค้าในวันถัดไปไม่เกินเวลา 6.30 น. ของทุกวัน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ระบบการชำระเงินระหว่าง “ถุงเงิน” และ “เป๋าตัง” สามารถใช้งานได้ปกติ โดยระบบไม่ได้ล่มตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งตามเงื่อนไขการลงทะเบียนร้านค้า “ถุงเงิน” 1 ร้านค้า จะสามารถเข้าใช้งานพร้อมกันได้ 20 จุดใน 1 จังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับชำระเงิน โดยเฉพาะร้านในกลุ่ม “ชิมช้อปใช้”เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังเศรษฐกิจฐานรากให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นร้านประเภททั่วไปที่มีหลายสาขาสามารถบริหารจัดการโดยลดจำนวนสาขาลงเพื่อให้มีจุดรับชำระเงินในแต่ละสาขาเพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้สิทธิ์

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า