Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สภาฯ เดือด ถกร่างพ.ร.บ.แก้ไข พ.ร.ก.ประมงฯ ครม. ขอรับไปพิจาณาก่อนส่งกลับสภาฯ 22 ก.พ. นี้ ขณะที่วันพรุ่งนี้ (8 ก.พ. 67) เว็บไซต์ทำเนียบฯ ขึ้นวาระงาน นายกฯ ‘เศรษฐา’ จะเข้าร่วมประชุมสภาฯ

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 7 ก.พ. 67 ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ.2558 พ.ศ. … ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกับคณะเป็นผู้เสนอ และร่างพ.ร.บ. ในทำนองเดียวกันอีก รวมเป็น 7 ฉบับ

นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย นำเสนอร่างฯ ว่า ปัญหาของชาวประมงได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน และยังไม่ได้รับการแก้ไขทั้ง ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (อียู) มาแปะป้ายไว้ที่หน้าผากของพี่น้องประมงไทยว่า มีการทําการประมงแบบผิดกฎหมายขาดการดูแลไร้การควบคุม ถ้าประเทศไทยไม่แก้ไข ก็จะแบนการนําเข้าสินค้าสัตว์น้ำของประเทศไทย ทำให้รัฐบาลต้องวิ่งออกกฎหมายนับร้อยฉบับในระยะเวลาอันสั้น ออกมาบังคับใช้กับพี่น้องชาวประมง ประเด็น คือออกมาแบบหลับหูหลับตาออก ไม่ได้ดู ไม่ได้ถาม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้ฟังคนที่ทําอาชีพประมงแม้แต่น้อย ออกกันเอง สุดท้ายปัญหาก็ตกไปสู่พี่น้องชาวประมง นําความหายนะมาสู่อุตสาหกรรมประมงไทย บางคนต้องล้มละลาย สูญเสียธุรกิจ มีหนี้สินเกิดขึ้น บางคนแก้ปัญหาไม่ได้ก็ตัดสินใจที่จะต้องปิดชีวิตตัวเองลง ต้องพูดตรงๆ ว่าประมงมีปัญหา แต่สิ่งที่พวกเราต้องทําก็คือเราต้องเข้าไปแก้ปัญหา จุดนั้น ไม่ใช่ไปลบทั้งระบบทิ้ง

สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า ถ้าวันนี้มีแมลงสาบอยู่ในบ้านหนึ่งตัว คุณต้องไปไล่หรือว่าจัดการกับแมลงสาบตัวนั้น ไม่ใช่ไปเผาบ้านทิ้ง เพื่อจัดการกับแมลงสาบตัวเดียว ต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่ลงไปในพื้นที่ ไปเจอพี่น้องชาวประมง ซึ่งตนเป็นลูกชาวประมง ลูกน้ำเค็ม ทุกครั้งเวลาไปเจอพี่น้องชาวประมง เขาถามเรื่องปัญหา ซึ่งรู้สึกละอายใจ ว่าทําไมเราถึงไม่สามารถที่จะแก้ปัญหานี้ให้กับพี่น้องได้สักที แต่หลังจากนี้ จะเป็นการวัดใจผู้ที่มีอํานาจ วัดใจหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง หากท่านมีความจริงใจในการที่จะแก้กฎหมายฉบับนี้เพื่อพี่น้องชาวประมงมากขนาดไหน ส่วนบทลงโทษประมงไทย น่าจะเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษในการปรับที่แพงที่สุดในโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่แพงที่สุดในโลก เช่น วันนี้ถ้าจดทะเบียนเครื่องมือประมง บอกว่าจดเป็นเครื่องมือเอ แล้วออกไปทําการประมงแล้วใช้เครื่องมือบีทําการประมง โดนปรับเป็น 10 ล้าน จริงๆ ถ้าวันนี้ออกไปทําประมง จะนําสัตว์น้ำเข้ามา ต้องแจ้งศูนย์ว่าจะถึงท่ากี่โมง จะมีสัตว์น้ำมาปริมาณเท่าไหร่ ถ้าแจ้งเวลาผิดแจ้งเที่ยง เข้ามาถึง 9 โมง โดนปรับหลายแสนแจ้งปริมาณสัตว์น้ำผิดเกิน10-15% โดนปรับหลายแสน ถามว่ามันใช่เรื่องที่จะต้องเอาผิดกันถึงขนาดนั้นเลยหรือไม่

“น่าน้อยใจเปรียบเทียบกับโรงงานถ้ามีแรงงานผิดกฎหมายอยู่ในโรงงาน ยกตัวอย่างเช่น โรงงานไม้ โรงงานถุงมือ โรงงานเหล็ก ผิดเหมือนกันไหม ผิดเหมือนกัน ลักษณะเดียวกันแต่ทําไมในโรงงานถึงโดนปรับแค่ไม่กี่หมื่นบาท มาตรฐานมันอยู่ตรงไหน นี่คือสิ่งที่เราจะต้องเข้าไปแก้ ผมเชื่อว่า สส.ทุกท่านจะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นในฐานะหนึ่งในผู้ยื่น พ.ร.บ. ขอเรียกร้องให้สมาชิกทุกท่านได้สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ แล้วเราจะได้กลับไปบอกพี่น้องชาวประมงที่บ้านของพวกเราว่า เราแก้ปัญหาให้ท่านสําเร็จแล้ว” นายวรศิษฎ์ กล่าว

ด้าน นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ปี 2558 รัฐบาลขณะนั้นได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยจากอียู จึงได้ตรา พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 โดยมีความมุ่งหมายให้กิจการประมงไทยไม่ตกอยู่ในภาวะของผู้กระทำความผิดในการประกอบกิจการประมง ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐบาลขณะนั้น ได้ทำลงไปเพราะเกรงต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย แต่กลับเกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการประมง ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้ทันตามเงื่อนไขแห่ง พ.ร.ก. ประมง พ.ศ. 2558 ผู้ประกอบกิจการประมงต้องเลิกกิจการ ด้วยการกำหนดลักษณะเรือกำหนด ลักษณะลูกเรือ และขนาดของเครื่องจักรจากน้ำ สิ่งที่ผู้ประกอบการประมงได้ร้องขอต่อรัฐบาลขณะนั้นให้มีมาตรการผ่อนปรน และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ แต่รัฐบาลมีข้อจำกัดจึงไม่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงได้ผลกระทบในขณะนั้นสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจธุรกิจประมงมากกว่าแสนล้านบาทต่อปี

“วันนี้ผมและคณะได้พิจารณารวมกันแล้วว่า หากประเทศไทยยังคงยึดหลักการของพ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 คงเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นฟูธุรกิจประมงให้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับประเทศผมและคณะจึงได้เสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ โดยสาระสำคัญแห่งแนวทางแก้ไขเพิ่มเติม จะมุ่งเน้นความสำคัญประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ ขอบเขตการใช้อำนาจรัฐไทยในเขตน่านน้ำ และนอกเขตน่านน้ำและจะเกิดผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติในอนาคต” นายคอซีย์ กล่าว

จากนั้นเวลา 17.19 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวว่า ครม.ขอรับร่างพ.ร.บ.ไปพิจารณาตามข้อบังคับก่อน 60 วัน ซึ่งงทำให้ สส.ฝ่ายค้าน ไม่เห็นด้วย โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงว่า กฎหมายประมงฉบับนี้ สภาฯ ชุดที่แล้วมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญ มีรายงานออกมาชัดเจนแล้ว สมัยนี้ก็มีการตั้ง กมธ.วิสามัญอีก 7 ร่างที่เสนอผ่านพรรคการเมืองทุกพรรค มีความปรารถนาดีต่อพี่น้องชาวประมง มีหลักการสำคัญตรงกัน ดังนั้นต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น รัฐมนตรีไม่ได้ชี้แจงเลย

“ที่สำคัญที่สุด มีชาวประมงกี่คนที่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ครอบครัวชาวประมงอีกกี่แสนกี่ล้านชีวิตที่เขารอกฎหมายฉบับนี้ เพราะความเกียจคร้านของรัฐบาลหรือ ที่เขาต้องรออีก 60 วัน ท่านจะตอบแทนชีวิตของชางประมงที่ล่วงลับไปแล้วและชีวิตของชาวประมงที่รอกฎหมายฉบับนี้อย่างไร ขอคัดค้านไม่ให้รัฐบาลอุ้มร่างนี้ ถ้ารัฐบาลจะอุ้ม ต้องตอบชาวประมงให้ได้” วิโรจน์กล่าว
.
ทำให้ นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในนามคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล ขอกลับไปพิจารณาก่อน และเห็นตรงกันต้องรีบทำออกมาเพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวประมง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งในที่ ประชุม ครม. ให้เร่งแก้ดำเนินการ ให้เหมาะสมกับยุค กับเหตุการณ์ปัจจุบัน ไม่ได้ประวิงเวลาแต่อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงาน นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ชี้แจงว่าการให้ ครม. นำกฎหมายไปพิจารณา 60 วัน เพื่อให้รอบคอบ โดยยกตัวอย่างร่างพ.ร.บ.ชนเผ่า ที่ฝ่ายค้านเสนอ มีหน่วยงานมาชี้แจงว่า ไทยมีเผ่าเดียวคือเผ่าไทย จนทำให้เกิดการประท้วง นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เห็นว่าการพูดว่า เผ่าไทย เป็นการเสียดสีกลุ่มชาติพันธุ์ โดยสถานการณ์เริ่มจะบานปลาย ทำให้นายพิเชษฐ์ ประธานในที่ประชุม สั่งพักการประชุม

จากนั้น เวลา18.10น. การประชุมเปิดขึ้นอีกครั้ง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้นายอนุทิน เป็นผู้เสนอ ซึ่ง 60 วัน ตนก็ไม่เห็นด้วย แต่ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า มีข้อกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเวลา 15 วัน ก็ไม่นานเกินรอ ทำให้นายณัฐวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เห็นว่า ครม. ควรส่งกลับมายังสภาฯในวันที่ 21 หรือ 22 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณา ก็เชื่อว่าสภาฯ จะให้ความเห็นชอบ แล้วตั้งคณะกรรมาธิการฯ เพื่อทำการพิจารณาในวาระต่อไป ท้ายที่สุดวิป 2 ฝ่ายได้อภิปรายเห็นด้วย ที่ประชุมสภาฯ เห็นด้วยให้ ครม. นำร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประมง ส่งกลับมาให้สภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 22 ก.พ. นี้

ซึ่งนายพิเชษฐ์ ได้กล่าวสรุปว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติ ให้ครม. เอาไปพิจารณาแล้วนำเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ แต่ปรากฏว่ามี สส.บางคนประท้วงไม่ยอม จึงทำให้นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า อย่าใช้อารมณ์ในการพูดและชิงปิดการประชุมวันนี้ทันทีในเวลา 18.18 น.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เว็บไซต์ ทำเนียบรัฐบาล ได้แจ้งวาระงานในวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ. 67) ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุว่า เวลา 9.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปกติในการประชุมทุกวันพฤหัสบดี จะมีกระทู้ถามสด

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า