Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อภิปรายงบฯ ปี 67 วันสุดท้าย ครึ่งวันเช้า ‘ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย’ ประท้วงกันไปมา ‘สุณัฐชา’ สส.ตรัง จวกรัฐบาล ‘เศรษฐา’ มีดีเอ็นเอจัดสรรงบไม่เป็นธรรม ทอดทิ้งคนใต้

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระแรก วันสุดท้าย ในวันนี้ (5 ม.ค. 67) ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้เกิดการประท้วงกันของ สส. พรรคเพื่อไทย กับ สส. พรรคประชาธิปัตย์ หลายครั้ง ระหว่างการอภิปรายของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์

น.ส.สุณัฐชา เกริ่นว่า ไม่ได้ฉกฉวยโอกาสนี้เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ถึงแม้จะมีข้อสงสัยในตัวนายเศรษฐาว่า เป็นนายกฯ ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ได้อย่างเต็มที่หรือไม่ หรือเป็นนายกฯ ที่รอรับใบสั่งจากใครบางคน และไม่แน่ใจว่าจะเป็นผู้นำการจัดสรรงบประมาณในการบริหารราชการแผ่นดิน ผ่านกฎหมายฉบับนี้ ตัวจริงหรือไม่ แต่คาดหวังว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี จะถูกนำไปใช้เพื่อการพัฒนา โดยตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ ส่งเสริมความอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากภาษีอากรของประชาชน เม็ดเงินทุกเม็ดควรถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เหมือนในอดีตที่ “คนใต้” ทั้งภาค เคยถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลเพียงว่า ไม่นิยมชมชอบพรรคแกนนำรัฐบาลในขณะนั้น

น.ส.สุณัฐชา ได้กล่าวว่า ที่มาและฉายาของนายเศรษฐา ที่ได้รับการสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า เซลล์แมนสแตนด์ “ชิน” นั้น สะท้อนให้เห็น ว่า รัฐบาลนี้มีดีเอ็นเอและรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทย ที่มีนายใหญ่สายชิน เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลในปี 2544 เป็นเจ้าของความคิดที่ว่า จังหวัดไหนไม่เลือกให้รอการพัฒนาไปก่อน เป็นรัฐบาลที่มีข้อครหาในการจัดทำงบประมาณมา ต่อมาถูกแปรสภาพเป็นพรรคพลังประชาชนที่จบลงด้วยการถูกยุบพรรค และพรรคเพื่อไทย ที่เริ่มต้นด้วยรัฐบาลสายชิน นายกฯ หญิงคนไทยของประเทศไทย ที่เมินการจัดสรรงบประมาณลงภาคใต้ โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม แต่กลับใช้งบประมาณสูงถึง 1.39 ล้านล้านบาท ไปกับนโยบายอันโด่งดัง อย่าง จำนำข้าว ที่ใช้ตัวเลขสูง แต่ผลกลับต่ำ

การอภิปรายของ น.ส.สุณัฐชา ถูก สส. ของพรรคเพื่อไทย อย่าง นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่าทำผิดข้อบังคับข้อ 69 ย้อนไปไกล ไม่อยู่ในประเด็น โดยมี นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ของพรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงผู้ประท้วงว่า ผู้อภิปรายยังอยู่ในประเด็น และไม่ได้กระทบ “ทูนหัวของบ่าว” ทำให้ นายสรวงศ์ ขอให้ถอนคำพูด อย่างไรก็ตามนายพิเชษฐ์ ได้ให้อภิปรายต่อ

น.ส.สุณัฐชา อภิปรายถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณที่อันตรธาน โครงการภาคใต้ หายไป สิ่งที่ขายฝันไว้ ยังอยู่ไกล สนามบินอันดามัน และรถไฟฟ้าภูเก็ตอยู่ที่ไหน จากนั้นได้นำภาพ ประชาชน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประสบน้ำท่วมต้องหนีไปอยู่หลังคา กับ ภาพนายเศรษฐา ร่วมงานเลี้ยงฉลองปีใหม่กับสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล ขึ้นจอกลางสภา ทำให้นายพิเชษฐ์ ถามทันทีว่า ภาพนี้ได้อนุญาตหรือยัง

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของนายพิเชษฐ์ ในการควบคุมการประชุมที่ไม่เป็นกลาง จากการสั่งเบรกการอภิปรายของน.ส.สุณัฐชา เพราะถ้าผิดพลาดควรไปดำเนินการหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น ซึ่งหลังจากนั้น นายพิเชษฐ์ ได้อนุญาตให้ใช้สไลด์ดังกล่าวต่อไปได้ น.ส.สุณัฐชา ระบุว่า รูปที่นายกฯ สวมใส่เสื้อสีแดงปาร์ตี้ที่ทำเนียบฯ ไม่มีอะไรน่าอาย เพราะการเป็นนักโทษเทวดาอยู่ชั้น 14 เป็นเรื่องน่าอายกว่าเยอะ

จากนั้น นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงตามข้อบังคับข้อ 69 ที่เอารูปมาพร้อมกัน เสียดสี ไม่ใช่ว่านายกฯ เรื่องไปปาร์ตี้ แทนที่จะไปดูแลประชาชนภาคใต้ ส่วนเรื่องนักโทษก็ไม่เกี่ยวกับการอภิปรายงบประมาณ ด้าน นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงผู้ประท้วงกล่าวเท็จในสภาฯ และมี น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ประท้วงการอภิปรายของน.ส.สุณัฐชาว่า ซ้ำซากจำเจ เสียดสี

อย่างไรก็ตาม น.ส.สุณัฐชา ได้อภิปรายต่อระบุว่า ในขณะที่ชาวบ้านทุกข์ นายกฯ ปาร์ตี้ แล้วตั้งงบประมาณแก้ปัญหาให้ประชาชนสามจังหวัดภาคใต้ไว้ในส่วนไหนของเล่มงบประมาณฉบับนี้ หรือไม่ทราบ หรือทำงานไม่ทัน เนื่องจากลาราชการถึง 4 วัน ทั้งที่เพิ่งทำงาน 4 เดือน จากตัวอย่างโครงการในภาคใต้ที่ถูกทำให้อันตรธานหายไป จากข้อมูลค่าเฉลี่ยต่อหัวที่คนใต้ได้รับ งบพัฒนาน้อยที่สุด ก็ส่อเค้าลางงบประมาณปีแรกของนายเศรษฐา ไม่ต่างจากรัฐบาลยุคนายใหญ่ เพื่อไทย เมื่อหลาย 10 ปีก่อน แม้นายกฯ จะลุกขึ้นมาแก้ตัวว่าตัวท่านกับผู้นำในอดีตเป็นคนละคนกัน แต่การจัดทำงบประมาณในลักษณะนี้ ยิ่งทำให้ตนมั่นใจว่า ถึงแม้จะเป็นคนละคนกัน แต่พฤติกรรมทอดทิ้งคนใต้ ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม มาถึงนายกฯ ที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567

น.ส.กิตติ์ธัญญา สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายของ น.ส.สุณัฐชาอีกครั้ง และมี นายพิทักษ์เดช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ลุกขึ้นประท้วงประธานว่าต้องควบคุมการประชุม ” นิดๆ หน่อยๆ ก็ดูกันบ้าง ฟังๆ กันไว้เถิด ไม่เฉียดไม่ฉิวหรอก ทูนหัวของบ่าวยังอยู่เหมือนเดิม ยังปลอดภัย”

ในที่สุด น.ส.สุณัฐชา ได้อภิปรายตอนท้ายว่า ไม่อาจรับหลักการในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ได้จนกว่าจะมีการทบทวนให้รอบคอบ จัดสรรงบประมาณให้ตอบโจทย์พื้นที่ คืนความเป็นธรรมให้คนใต้ ให้สมกับที่คนใต้เกือบ 10 ล้านคน ได้เสียให้กับประเทศนี้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า