Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ถ้าย้อนถามว่า ‘คาแรคเตอร์’ ให้อะไรกับแบรนด์ ทำไมแบรนด์ถึงต้องมีคาแรคเตอร์ล่ะก็คงหนีไม่พ้นคำตอบว่า ‘คาแรคเตอร์’ นั้นเป็นหนึ่งใน ‘สื่อกลาง’ ที่ดีที่สุดระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ทำหน้าที่สื่อสารให้สาธารณชนเข้าใจภาพลักษณ์แบรนด์และเข้าถึงองค์กรได้ง่ายขึ้น

จินตนาการง่ายๆ จากหลายคาแรคเตอร์ที่ประสบความสำเร็จในฐานะตัวแทนของแบรนด์อย่าง ‘บาร์บีก้อน’ จากบาร์บีคิวพลาซ่าที่ได้รับความรักอย่างล้นหลามมานับทศวรรษ หรือจะเป็นคาแรคเตอร์ดังจากญี่ปุ่นอย่าง ‘คุมะมง’ ที่ทำให้จังหวัดคุมาโมโตะกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก

นอกจาก ‘บาร์บีก้อน’ ที่โด่งดังในไทยแล้ว ยังมีอีกหลายคาแรคเตอร์จากฝีมือครีเอเตอร์ชาวไทยที่แม้จะไม่ได้ถือกำเนิดโดยผูกกับแบรนด์ แต่ก็มีชื่อเสียงโด่งดังจนสามารถสร้างมูลค่าให้กับสินค้าและสามารถขายหรือให้เช่าลิขสิทธิ์ไปคอลแลปกับแบรนด์ต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘เชลดอน’ หรือ ‘มะม่วง’ รวมถึง ‘เจย์เดอะแรบบิท’ หรือ ‘บลัดดี้บันนี่’

ส่วนคาแรคเตอร์ที่เราจะหยิบยกมาพูดถึงในวันนี้อาจจะแตกต่างกับตัวอย่างที่หยิบยกมาข้างต้นเล็กน้อย เพราะเรากำลังจะพูดถึง ‘ครูเพ็ญศรี’ จาก ‘หกฉากครับจารย์

การถือกำเนิดของ ‘ครูเพ็ญศรี’ ถือว่าค่อนข้างแตกต่างจากคาแรคเตอร์อย่างบาร์บีก้อนหรือคุมะมง ด้วย ‘ครูเพ็ญศรี’ นั้นเป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาพร้อมกับแบรนด์หรือเกิดขึ้นมาเพื่อทำแบรนด์ แต่เป็นตัวละครหลักจากซิทคอมชื่อดัง ‘หกฉากครับจารย์’ ของช่องเวิร์คพอยท์ 23

โดยถูกรังสรรค์ให้มีชีวิตจากผลงานการแสดงของ ‘ตุ๊กกี้-สุดารัตน์ บุตรพรม’ นักแสดงตลกผู้แจ้งเกิดและเติบใหญ่จากรายการ ‘ชิงร้อยชิงล้าน’ ที่อยู่คู่คนไทยมานานนับสิบปี ก่อนเข้ามารับบทบาทสำคัญที่กลายเป็นอีกหนึ่ง ‘ตัวตน’ ที่ผู้คนจดจำ

นับตั้งแต่ ‘หกฉากครับจารย์’ ต่อยอดความสำเร็จจากซิทคอม ‘ตลกหกฉาก’ และออกฉายครั้งแรกในวันที่ 6 ตุลาคม 2562 ก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมจำนวนมาก โดยใน EP.1 หกฉากครับจารย์ก็สามารถเก็บยอดรับชมบนยูทูบไปกว่า 4 ล้านครั้ง

และด้วยเสน่ห์ของความเบาสมอง ผ่อนคลาย สร้างมุกตลกมหาชนมากมาย ทำให้หกฉากครับจารย์รักษายอดผู้รับชมได้ดีจนออกอากาศมาถึงตอนล่าสุดใน EP.93 และใกล้จะออกอากาศครบร้อยตอนเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน ด้วยกองทัพนักแสดงหลากหลายรุ่น หลากหลายสไตล์ ก็ได้ช่วยขยายกลุ่มเป้าหมายของ ‘หกฉากครับจารย์’ ให้กว้างขวางกว่ารายการตลกอื่นๆ ในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงตลกรุ่นเก๋าอย่างเสนาลิง-สมเกียรติ หรือตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด จนไปถึงนักแสดงและยูทูบเบอร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่อย่างนิกกี้-ณฉัตร เจแปน-ภาณุพรรณ หรือก้อย-อรัชพร

และ ‘ครูเพ็ญศรี’ โดย ‘ตุ๊กกี้-สุดารัตน์’ ถือเป็นหนึ่งในคาแรคเตอร์สำคัญ มีความโดดเด่นเฉพาะตัวทั้งในแง่ของรูปลักษณ์คุณครูชุดผ้าไหม ตีกระบัง ใส่แว่นสายตายาว พร้อมเครื่องประดับฉูดฉาด และในแง่ของลักษณะนิสัย วิธีพูด วิธีแสดงออก และวิธีตลกที่ไม่มีใครเหมือน

ทำให้ ‘ครูเพ็ญศรี’ เป็นคาแรคเตอร์ที่ถูกจดจำและประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย

ทุกๆ คลิปของครูเพ็ญศรีบนยูทูบมียอดชมหลายล้านครั้ง และทำให้ใครหลายๆ คนเรียกขานตุ๊กกี้ในชีวิตจริงอย่างติดปากว่า ‘ครูเพ็ญศรี’ และถูกนำ ‘ร่าง’ นี้ไปแจมกับรายการชื่อดังอื่นๆ ของเวิร์คพอยท์อย่าง ‘ร้องข้ามกำแพง’ ที่ตุ๊กกี้มักจะไปร่วมรายการด้วยบ่อยๆ

จนเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง ‘บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)’ เริ่มเล็งเห็นถึงจุดแข็งของคาแรคเตอร์นี้ว่ามีโอกาสที่จะสร้าง ‘มูลค่าเพิ่ม’ ในด้านอื่นๆ นอกจากด้านความบันเทิงในอุตสาหกรรมสื่อ และตัดสินใจจับมือกับ ‘บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)’ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่ม นำคาแรคเตอร์ ‘ครูเพ็ญศรี’ มาปั้นเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘ลูกอมครูเพ็ญศรี’ เข้าสู่ตลาดลูกอมเคี้ยวหนึบที่มีมูลค่ากว่า 15% ของมูลค่าตลาดลูกอมรวม 11,000 ล้านบาท

โดยอาศัย ‘คาแรคเตอร์’ สุดจี๊ดของครูเพ็ญศรีมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ ทำหน้าที่ช่วยสื่อสารให้คนเข้าใจภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น เพราะเพียงแค่กวาดสายตาเห็นครูเพ็ญศรีก็รับรู้ได้ถึงความจี๊ดจ๊าด เปรี๊ยวปร๊าด สุดโดดเด้ง

พร้อมกำหนดรสชาติให้เข้ากับคาแรคเตอร์อย่างรส ‘เผ็ดสเปิ๊ดปร๊าด’ และ ‘เปรี้ยวสปรู๊ดปรี๊ด’ ที่แฟนคลับหกฉากครับจารย์ฟังแล้วต้องรู้สึกว่าเข้าปากครูเพ็ญศรีสุดๆ

หากย้อนกลับมาแกะ ‘การตลาดคาแรคเตอร์’ ครั้งนี้จะพบว่า แผนของเซ็ปเป้และเวิร์คพอยท์นั้นไปไกลกว่าแค่การทำธุรกิจเอาสนุกหรือแค่จับคาแรคเตอร์ที่มีมาขายของ เพราะแท้จริงแล้วฐานแฟนคลับของครูเพ็ญศรีแน่นและกว้างขวางในระดับที่เรียกได้ว่า ‘แมส’ เหมาะกับการทำตลาดสินค้าที่แมสเช่นกันอย่างตลาดลูกอม

ยิ่งไปกว่านั้นโดยชื่อเสียงของ ‘ครูเพ็ญศรี’ นอกจากในประเทศไทยแล้วยังโด่งดังในกลุ่มประเทศ CLMV หรือกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงเริ่มขยายฐานแฟนออกไปในกลุ่มประเทศจีนแล้ว โอกาสในการทำตลาดของลูกอมเคี้ยวหนึบจึงกว้างขึ้นตามด้วย

จากการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารเซ็ปเป้และเวิร์คพอยท์ระบุว่าจะลุยทำตลาดใน CLMV ก่อน และขยับสู่ประเทศจีน เจาะกลุ่ม ‘ของฝาก’ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จากประเทศแถบนี้ เมื่อผ่านการแพร่ระบาดจากโควิด-19 โดยตั้งเป้าทำยอดขายในปีแรกทะลุ 100 ล้านบาท

จากวันเปิดตัวจนมาถึงขณะนี้นับว่าเสียงตอบรับสะท้อนว่าจุดสตาร์ทของความร่วมมือระหว่างสองบริษัทนั้นค่อนข้างสดใสและได้รับความรักอย่างล้นหลามจากแฟนๆ ของครูเพ็ญศรี แต่จะสามารถทำยอดขายทะลุ 100 ล้านบาทและทำตลาดระดับภูมิภาคได้หรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับ ‘พลังครูเพ็ญศรี’ แล้ว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า