รวบลูกจ้างโหด ฆ่านายจ้างผัว-เมีย จ.พิษณุโลก อ้างโมโหที่ไม่ได้ค่าแรง

จับแล้ว! ลูกจ้างโหด ฆ่านายจ้างสามี–ภรรยา ใช้ค้อนทุบหัว ก่อนนำศพไปยัดในอ่างอาบน้ำก่อนจุดไฟเผาอำพราง อ้างทนไม่ไหวที่ทวงเงินค่าจ้างแล้วถูกนายจ้างต่อว่าจึงก่อเหตุ ทั้งนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีประวัติก่อคดีเเละเป็นผู้ป่วยจิตเวช

วันที่ 19 พ.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(18 พ.ค. 62) เวลา 14.00 น. ตำรวจ สภ.พรหมพิราม ได้รับแจ้งมีคนพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนางประเสริฐ อายุ 83 ปี และ นายสำเริง อายุ 61 ปี  ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา ถูกฆ่าเผาศพยัดอยู่ในอ่างอาบน้ำ ภายในห้องน้ำ บริเวณอู่ซ่อมท่อน้ำ ในพื้นที่บ้านทุ่งสาน ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

จากการตรวจตสอบ พบค้อน มีดเปื้อนเลือด น้ำมันใช้สำหรับเผาอำพรางศพ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ต้องสงสัยคาดว่าเป็นลูกจ้างที่ขอมาอาศัยอยู่ภายในร้านกับสามีภรรยาได้ไม่นาน

ด้านชาวบ้านที่เคยเป็นลูกจ้างภายในอู่ดังกล่าว เผยว่า ปกติแล้วทั้งคู่รับซ่อมท่อสูบน้ำและอุปกรณ์ทั่วไป ก่อนหน้านี้มีคนแปลกหน้ามาขออาศัยด้วย และช่วยทำงาน ซึ่งบุคคลดังกล่าวลักษณะดูเป็นคนซื่อๆ ไม่น่าจะมาก่อเหตุดังกล่าวได้ ทางตำรวจจึงเร่งสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

จนเวลา 18.00 น.ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุคือ นายประเสริฐ มาสอบสวนที่ สภ.พรหมพิราม เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ บอกว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายจ้างสองผัวเมียจริง โดยเมื่อช่วงค่ำก่อนหน้าเกิดเหตุได้นั่งดื่มกินเบียร์กับนายจ้างแล้วมีการทวงถามเรื่องค่าจ้าง หลังจากทำงานมากว่า 1 เดือน เป็นเงิน 2,500 บาท แต่กลับถูกนายสำเริง(ผู้ตาย) ต่อว่าและด่าทอ ทั้งยังใช้ท่อแป๊ปตีเข้าที่คอของเขาอย่างแรง ด้วยความโกรธเขาจึงใช้ค้อนปอนด์ที่วางอยู่ในอู่ตีศีรษะผู้ตายจนล้ม 1 ครั้ง แล้วตีซ้ำอีก 1 ครั้ง จนร่างแน่นิ่งไป

ส่วนนางประเสริฐ(ภรรยา) เมื่อเห็นว่าสามีถูกทำร้ายก็ต่อว่าอีก เขาจึงใช้ค้อนปอนด์อันเดียวกันตีที่ศีรษะจนเสียชีวิต จากนั้นก็อุ้มร่างผู้ตายทั้ง 2 รายมาวางทับซ้อนกันในอ่างอาบน้ำหลังบ้าน พอตอนเช้าจึงออกไปหาถ่านมาทำฟืน แล้วใช้น้ำมันราด จุไฟเผาเพื่ออำพรางศพ กระทั่งมีชาวบ้านได้กลิ่นไหม้ก็พากันมาดู ด้วยความกลัวเขาจึงหลบหนีไปกลางทุ่งนาที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. โดยปีนขึ้นไปหลบซ่อนอยู่บนต้นคางสูงกว่าพื้นกว่า 3 เมตร แต่ก็ถูกจับกุมได้ในที่สุด

ด้านตำรวจ ได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ก่อเหตุ นายประเสริฐ พบว่าเคยจับกุมในคดีชิงทรัพย์ในพื้นที่ จ.เชียงราย และมีคดีลักทรัพย์ที่ จ.อุดรธานี นอกจากนี้ยังมีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวชเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งของ จ.อุดรธานี เพิ่งไปรับยามาเมื่อไม่นานนี้ 

หลังจากนี้จะมีการตรวจ สอบหาสารอื่นๆ ในร่างกายใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและอำพรางซ่อนเร้นศพเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป