SHARE

คัดลอกแล้ว

กรณีที่นายวิศิษฏ์ วงศ์สวัสดิ์ภักดี หรือ “ป๊อ ยอยาวใหญ่” เจ้าของกิจการร้านขายลูกชิ้น ถูกชายแปลกหน้าใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนมาตุลี ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เนื่องจากถูกชายคนดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นตำรวจ กล่าวหาว่าปล่อยเงินกู้จนเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกัน

นายวิศิษฏ์ ชี้ให้ดูบาดแผลระหว่างเข้าแจ้งความ เมื่อ 24 ธ.ค.

วันที่ 25 ธ.ค. เวลา 12.00 น. พ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า คู่กรณีของนายวิศิษฏ์ เป็นตำรวจจริง คือ พ.ต.ท.ปกรณ์ เส็งทอง ตำแหน่ง อาจารย์ (สบ.3) กลุ่มงานอาจรย์ภาควิชาสืบสวน ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกให้มาให้ปากคำ โดยนัดหมายกันที่เวลา 09.00 น. ของวันนี้แล้ว แต่เนื่องจากเจ้าตัวอ้างว่าได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทด้วยเช่นกัน และกำลังอยู่ในระหว่างการรักษาตัว จึงขอเลื่อนเวลา แต่ก็ไม่ระบุว่าจะมาช่วงไหนของวันนี้ หากยังไม่มาจะมีการออกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุเป็นนายตำรวจยศใหญ่ ใช้อาวุธปืนยิงประชาชนอย่างอุกอาจใจกลางเมืองนครสวรรค์ ทำให้การทำงานยากขึ้นหรือไม่ พ.ต.อ.วีรภัสส์ ระบุว่า ตำรวจก็ดำเนินการเหมือนกับคดีอื่นๆ ทุกคดี ไม่ว่าจะผู้ต้องหาจะเป็น ประชาชน ตำรวจ ข้าราชการ หรือนักการเมือง หากกระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ยืนยันว่าไม่มีการเข้าข้าง หรือให้การช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้บาดเจ็บและคู่กรณี โดยการสอบปากคำพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบด้านเสียก่อน

คู่กรณีที่ถูกระบุว่าเป็นตำรวจ

ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 06.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. นายวิศิษฏ์ พานางพนิต ซึ่งเป็นแม่วัย 73 ปี ไปกดเงินที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย เพื่อจะนำเงินไปไว้ให้ลูกค้าที่จะมาขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ช่วงที่นางพนิตกดเงิน มีชายสวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขาสั้น เข้ามาบอกว่านางพนิต ปล่อยเงินกู้นอกระบบจะแจ้งตำรวจจับ หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวขับรถจักรยานยนต์ออกไปและกลับมาใหม่ โดยระบุว่าเป็นตำรวจ ต่อมาเกิดทะเลาะวิวาทกับนายวิศิษฐ์ที่อ้างว่าชายคนดังกล่าวมาดึงแขนแม่ของตน จนเกิดการชกต่อย ซึ่งนายวิศิษฐ์ที่ตัวใหญ่กว่าชกไปหลายครั้ง จนชายคู่กรณีชักปืนมายิงใส่ถูกท้องน้อยด้านซ้าย ทำให้ทั้งแม่ละลูกต้องยกมือขอชีวิต ต่อมาชายดังกล่าวได้ขี่รถจากไป โดยตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พ.ต.ท.ปกรณ์ ซึ่งมาพิมพ์ลายนิ้วมือที่โรงพักในช่วงเช้าตรู่และขอไปพบแพทย์ ได้กลับมาพบพนักงานสอบสวน แต่ระหว่างที่สอบถามข้อมูลไปได้ประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมง  พ.ต.ท.ปกรณ์ หันมาเห็นผู้สื่อข่าวกำลังตั้งกล้องถ่ายภาพจึงรีบลุกจากโต๊ะพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าจะเข้าห้องน้ำ แล้วอาศัยจังหวะเผลอหายตัวไปจากโรงพักทันที ด้านพนักงานสอบสวน กล่าวว่า เบื้องต้น พ.ต.ท.ปกรณ์ ปฏิเสธไม่ขอให้รายละเอียดในชั้นพนักงานสอบสวน

https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/432489017629932/

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า