ออกหมายจับมือยิงในบ่อนพระราม 3 – ผบ.ตร. บอกไม่ได้พูดเล่น จับไม่ได้ย้าย น.1 จริง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจคดียิงกันเสียชีวิตในบ่อนพระราม 3 รวมทั้งกระแสข่าวที่บ่อนนี้จะไปเกี่ยวกับข้องกับคนมีสี ยืนยันสั่งผบช.น.ทำอย่างตรงไปตรงมา ระบุ ไม่ได้พูดเล่น ถ้าผบช.น. จับคนร้ายไม่ได้ภายใน 3 วันจะย้ายจริง รู้ทำงานหลายด้านแต่ส่วนที่บกพร่องก็มี

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยหลังศาลอาณากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ นายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ หรือ บอย บ้านครัว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามที่พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เสนอว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายถาวร สีสด ภายในสถานที่ลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนัน ย่านพระราม 3 ว่า หมายจับมือปืนออกแล้ว ตนก็คาดโทษแล้วว่า 3 วัน ต้องจับมือปืนมาให้ได้

“ผมไม่ได้พูดเล่นนะ สื่อคิดว่าผมพูดเล่นเหรอ เรื่องขนาดนี้” ผบ.ตร. ตอบคำถามที่ว่าหากจับคนร้ายไม่ได้จะย้าย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) จริงหรือไม่

อย่างไรก็ตามในส่วนของบ่อนการพนันนั้น ผบ.ตร. บอกว่า ต้องมีการขยายผลจากกระแสข่าวที่ว่าเป็น “เฮียตี้” ซึ่งทางผบช.น. ได้รายงานอยู่ระหว่างการสืบสวน รวมทั้งกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาระบุว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องชื่อย่อ ซ. ก็จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางหน่วยงานที่สังกัด

สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบในคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส พล.ต.อ.จักรทิพย์ ย้ำว่าได้บอกกับประธานคณะกรรมการตรวจสอบไปแล้วว่า ต้องทำความจริงให้สังคมรับรู้ และถ้าขั้นตอนไหนพบตรงไหนบกพร่องต้องดำเนินการทำตามมติคณะกรรมการได้เลย โดยที่ตนไม่ได้แทรกแซง ส่วน พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่ลงนามไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธตามความเห็นของอัยการ ทางคณะกรรมการตรวจสอบจะมีการเรียกมาสอบด้วย แต่ตนตัดสินตรงนี้ไม่ได้ว่าบกพร่องหรือไม่ ต้องดูในรายละเอียด

“ก็ต้องพยายามทำไป ได้แค่ไหนก็แค่นั้น เหลืออีก 50 กว่าวันผมก็ทำ ท่านใหม่มาก็ต้องทำ ไม่ใช่พิจารณาเฉพาะช่วงนี้ ที่ผ่านมาที่ผมทำไป องค์กรทำไป ไม่มีแต้มต่อเลยเหรอ เอาเฉพาะปัจจุบันทันด่วน 2 คดีนี้องค์กรผมก็แย่แล้ว ผมก็พูดมาตลอดว่าองค์กรผมต้นทุนทางสังคมต่ำอยู่แล้ว แต่เหตุมันจะเกิดมันทำยังไงได้ ไปห้ามไม่ได้ ก็ต้องยอมรับในส่วนที่ต้นทุน องค์กรผมไม่ดี ภาพลักษณ์มันอาจจะเสีย แต่ในส่วนที่ดี ท่านก็ไม่ค่อยจะลงกัน ผมพยายามทำมากี่เรื่อง ตั้งแต่ถ้าหลวง โคราช ลพบุรี ก็ทำหมด แต่ก็ได้เท่านั้น พอมีเรื่องเดียวก็เรียบร้อย” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวทิ้่งท้ายเมื่อถูกถามว่าจะกู้ภาพลักษณ์ของตำรวจในช่วงนี้อย่างไร