รองผู้การฯ ปืนเดือด รับยิงปืนขึ้นฟ้าจริง อ้างระงับเหตุชกต่อย ล่าสุดเข้าให้ปากคำแล้ว

รองผู้การฯ ปืนเดือด ยอมรับใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าจริง อ้างแค่ต้องการระงับเหตุชกต่อย ระหว่างหนุ่มซิ่งมอเตอร์ไซด์หัวร้อน กับคนขับรถเก๋งที่กำลังวิวาทกลางสะพานไทย-ญี่ปุ่น ล่าสุด เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ แล้ว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว “นายตำรวจโชว์กร่างยิงปืนขึ้นฟ้ากลางกรุงฯว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจาก บก.น.5 ว่า วันนี้ (19 พ.ย. 62) เวลา 01.00 น. สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุและมีเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้น บริเวณสะพานไทย-ญี่ปุ่น พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจิสูจน์หลักฐาน จึงได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบ รถยนต์เก๋ง นิสสันสีดำ ทะเบียน 7กข – 5693 กทม. จอดอยู่กลางเลนฝั่งซ้ายมีร่อยรอยการเฉี่ยวชนที่ด้านหน้า มี นายณัฐยุทธ เหล่ากิจเขต อายุ 43ปี แสดงตนเป็นผู้ขับขี่

จากสอบถามเบื้องต้นได้ความว่า ผู้ขับรถยนต์นิสสัน ได้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณดังกล่าว หกล้มได้รับบาดเจ็บ และถูกชายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต่อยทำร้ายและมีปากเสียงกัน (ทราบชื่อภายหลัง นายชนะชล เปราะแดง อายุ 26ปี) และมีผู้โดยสาร เป็นหญิง ได้รับบาดเจ็บ กู้ชีพมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่ง รพ.จุฬาลงกรณ์  ระหว่างนั้นมีชายซึ่ง ขับขี่รถยนต์เบนซ์ สีดำ ทะเบียน พน – 6211 กทม. ที่จอดเสียในบริเวณที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้ (ล้อยางหน้าซ้ายแตก) เข้ามาห้าม จึงมีปากเสียงกันกับ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ขึ้นฟ้า ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะทิ้งรถหลบหนีไป โดยมีรถกระบะมิสซูบิชิ (ไทรตั้น) จำสีไม่ได้และไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดนำตัวชายที่ยิงปืนหลบหนีไป มุ่งหน้าลงสะพานไปทางแยกถนนอังรีดูนังต์ ตัดถนนพระราม 4 รอง

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีคดีอุบัติเหตุจราจรนั้น พนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถยนต์นิสสัน มาสอบปากคำเบื้องต้น พร้อมส่งตัวไปตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายและสารเสพติด หรือปริมาณแอลกอฮอลล์ในกระแสเลือดที่ รพ.ตำรวจ

ส่วนผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รถจักรยานยนต์ ที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.จุฬาฯ เพื่อทำการรักษาตัว พร้อมทั้ง พนักงานสอบสวน ได้ตรวจยึด รถยนต์นิสสัน และ รถจักรยานยนต์ คู่กรณี เก็บรักษาไว้ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์หาลักษณะร่องรอยการเฉี่ยวชน ประกอบกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบภาพ วิดีโอ ข้อมูลกล้องวงจรปิด ในที่เกิดเหตุเหตุ และ รอผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุในคดีจราจร จากกองพิสูจน์หลักฐานกลางต่อไป

ส่วนกรณีที่มีชาย ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาระงับเหตุและได้ยิงปืนขึ้นฟ้านั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยพนักงานสอบสวน ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บปลอกกระสุนปืน เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ พร้อมตรวจยึดรถยนต์เบนซ์ เพื่อทำการพิสูจน์ทราบต่อไป โดยหากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ก็จะมีรายงานเหตุเป็นยังหน่วยงานต้นสังกัด และหากได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวอ้างไปนั้น คงต้องมีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จ และดำเนินการทางวินัยและอาญา ตามระเบียบกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น กรณีพบบัตรและป้ายชื่อตำรวจที่อยู่ภายในรถเบนซ์สีดำ ที่จอดเสียอยู่บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งมีการระบุว่า เป็นของ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ เมื่อสอบถามถึงการใช้อาวุธปืนยิงบนกลางสะพาน พ.ต.อ. เกียรติศักดิ์ ระบุว่า ได้ใช้อาวุธปืนยิงจริง แต่เป็นการยิงเพื่อระงับเหตุ

เนื่องจากพบเห็นคนขับรถจักรยานยนต์ และคนขับรถเก๋งที่เกิดอุบัติเหตุ กำลังทะเลาะวิวาทกันอยู่ ดังนั้น จึงใช้อาวุธปืนที่อยู่ภายในรถยิงขึ้นฟ้า เพื่อข่มขู่ให้ยุติการกระทำ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งห้ามไม่ให้พูด เพราะถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ล่าสุด พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยขณะที่เจ้าของรถยนต์นิสัน อเมร่า จะเข้ามาให้ปากคำในช่วงบ่ายวันนี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• อ้างเป็น ตร.ชักปืนยิงขึ้นฟ้ากลางกรุง ไม่ให้กู้ภัยนำคนเจ็บส่ง รพ.-ชิงกล้องหน้ารถ