Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ส่วยสติ๊กเกอร์! ‘วิโรจน์’ ลั่นตลกมาก หลัง ‘ผกก.สน.พระโขนง’ แจงติดสติ๊กเกอร์ให้จำรถง่าย ย้ำต้อง ‘ปฏิรูป’ ตำรวจ แม้นายกฯ จะไม่ชอบคำนี้ก็ตาม

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีรถบรรทุก ประสบเหตุตกบ่อ บนถนนสุขุมวิท หน้าซอยสุขุมวิท 64/1 เมื่อวานนี้ว่า เป็นประเด็นที่ตนยืนยันว่าไม่ใช่แค่การบรรทุกน้ำหนักเกิน แต่เป็นโครงการที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กำลังจะนำสายไฟฟ้าลงสู่ใต้ดิน 700 บ่อทั่วกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตนเข้าใจว่า วิศวกรของกฟน. คงไม่ได้ออกแบบแผ่นปูนรองรับรถบรรทุกน้ำหนักกว่า 30 ตัน ที่อยู่ในสภาวะสั่นสะเทือนจากการวิ่งด้วย ดังนั้นเรื่องนี้กระทบถึงผู้ที่ใช้ยานพาหนะบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก หากเราติดตามเรื่องถนนทรุดตัวในกทม. เราก็จะเห็นข่าวลักษณะนี้อยู่เป็นระยะๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการชี้แจงว่าส่วยสติ๊กเกอร์เป็นสัญลักษณ์ของบริษัทรับเหมา นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ตนได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของผู้กำกับการสน.พระโขนง บอกว่า เบื้องต้นได้สอบถามเจ้าของรถตอบกลับมาว่า เป็นสติ๊กเกอร์ที่ติดไว้ เพื่อให้คนขับรถแยกรถออกว่า จอดรถไว้ตรงไหน ซึ่งโดยปกติ ตนคิดว่าคนขับรถบรรทุกจำรถได้อยู่แล้ว หากจะออกแบบสติ๊กเกอร์เช่นนั้น ตนมองว่า ออกแบบเป็นสติ๊กเกอร์คาดและมีชื่อรถบริษัทยังมีประโยชน์มากกว่า เชื่อการติดสติกเกอร์ในลักษณะนี้ไม่ได้ทำให้คนขับมองเห็น เอาไว้ให้ใครสักคนที่เตี๊ยมเอาไว้มองเห็นมากกว่า ซึ่งต้องตั้งคำถามกับผู้กำกับการ สน.พระโขนง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลว่า คนที่เตี๊ยมเอาไว้ให้มองเห็น เป็นข้าราชการตำรวจหรือไม่ ถ้าเป็น เป็นระดับไหน คนใด มีการจ่ายส่วยด้วยหรือไม่

“ผมว่าเรื่องต้องมีการสอบถาม ถ้าอยู่ๆ มาตอบว่าเป็นการติดสติ๊กเกอร์ เพื่อให้จำรถของตัวเองได้ง่าย ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกมาก เป็นเรื่องที่ประชาชนก็รับไม่ได้หรอกนะครับ ผมว่ารู้อยู่แก่ใจรู้อยู่แก่อก ขึ้นอยู่ว่าสอบหรือไม่สอบเท่านั้น” นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่า มีการออกมาชี้แจงว่า ตัวอักษร B บนสติ๊กเกอร์รูปดาวเป็นชื่อของเจ้าของรถ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็เป็นชื่อเจ้าของอยู่แล้วมั้ง ตัว B บางคนก็บอกว่าย่อมาจาก ‘เสี่ยบิ๊ก’ แต่ที่ตำรวจต้องตั้งคำถาม คือ ‘เสี่ยบิ๊ก’ คือใคร มีการโยงใยไปถึงการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งตนมองว่า ตัดตอนคำตอบเร็วเกินไป ทำให้มองเป็นอย่างอื่นลำบาก

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ดูมีความเกรงใจผู้รับเหมามากจนเกินไป นายวิโรจน์ กล่าวว่า เข้าใจว่ามีการบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ยอมชั่งน้ำหนัก ทั้งตัวรถ และดินที่ขน ถ้าเป็นตำรวจระดับ ผู้กำกับฯ และผบก.น. 5 ไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริง รวมถึงรักษาพยานวัตถุ และของกลางสำคัญที่จะพิสูจน์ว่า บรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ ถ้ายังขาดศักยภาพที่จะทำในเรื่องดังกล่าว ตนคิดว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ควรพิจารณาว่า ต้องหาคนที่เหมาะสมกว่านี้มาทำงานแทนหรือไม่

“คุณปล่อยให้เขาขนดินแล้วเทที่ไซต์งานได้ยังไง คือผมเข้าใจอย่าบ่ายเบี่ยงประเด็น หลายคนบอกเอ้าเขาว่าต้องการกู้ตัวรถถ้าเกิดดินมันอยู่เต็มกระบะรถสิบล้อมันจะเอาขึ้นไม่ได้ ผมเข้าใจ แต่มันคือของกลาง การขนออกไปต้องเอาไว้เก็บพิทักษ์รักษาไว้เป็นหลักฐาน ไม่ใช่ขนแล้วทิ้งเทในไซต์งาน…”

ส่วนการดำเนินการจะเกี่ยวข้องกับตำรวจยศใหญ่หรือไม่นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องสอบถามก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก เพราะมีตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโยงใยมาถึงส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก เป็นเรื่องใหญ่มาก เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นว่า ตำรวจไม่เรียนรู้บทเรียนเลย ถ้ายังมีเรื่องส่วยอยู่ ก็ถือว่าไม่รักศักดิ์ศรีตำรวจจริงๆ เรื่องนี้ควรสอบให้สิ้นข้อสงสัย ยังกล่าวหาใครในตอนนี้ไม่ได้ รวมถึงต้องเอาผิดกับตำรวจที่เปิดกรวยให้นำดินไปทิ้งในไซด์งาน

เมื่อถามอีกว่า การแก้ปัญหาส่วยที่เหมือนยังไม่หมดไป จำเป็นหรือไม่ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่อง นายวิโรจน์ ตอบว่า ผลประโยชน์มันเยอะ กว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี และเป็นภัยต่อสาธารณะ เรื่องนี้เป็นวาระสำคัญ อันที่จริงไม่ใช่เพียงเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน แต่เป็นความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปตำรวจ

“แต่พอเราพูดถึงคำว่าปฏิรูปตำรวจทีไร ท่านนายกฯ ก็บอกว่า ให้แก้ไปทีละเรื่อง อย่าใช้คำว่าปฏิรูปเลย เรียกว่าแก้ทีละจุดทีเรื่องดีกว่า คำว่าสังคายนาก็พูดไม่ได้ ผมจึงต้องส่งสารไปถึงนายกฯ ด้วยความหวังดีจริงๆ ว่า การที่จะรักษาโรคอะไร จุดเริ่มต้นต้องยอมรับก่อนว่า เราเป็นโรคนั้นจริงๆ เราป่วยจริงๆ แล้วก็หาหมอให้ถูกโรค ไปหาหมอเฉพาะทางซะ”

“ณ วันนี้ มันไม่ใช่แค่รถบรรทุกน้ำหนักเกิน แต่มันเป็นปัญหาที่แวดวงตำรวจ ถูกตั้งข้อสงสัย ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจจากภาคประชาชนแล้ว และสุดท้ายการขาดความไว้เนื้อเชื่อใจนั้น มันส่งผลต่อความปลอดภัยสาธารณะ ในหลุมตรงนั้นถ้าเกิดคนขับรถมอเตอร์ไซค์ตกขึ้นไปทำไงครับ”

“และก็ต้องเรียกร้อง ทางการไฟฟ้านครหลวงด้วย อันนี้ไม่ใช่ว่าเงียบเนียนนะครับ ต้องเร่งส่งวิศวกรไปตรวจสอบว่า การวางคานที่จะพาดแผ่นคอนกรีตปิดทับหน้างาน คุณมีความแข็งแรงมั่นคงเพียงพอไหม เพราะว่ามันจะโทษแต่รถบรรทุกอย่างเดียวมันก็อาจจะไม่ได้ มันก็จะหลวมเกินไป ผมว่าท่านก็ส่งวิศวรกรไปดูทั้ง 700 กว่าจุดเถอะครับว่ามันมีความปลอดภัยมากน้อยขนาดไหน” นายวิโรจน์ กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า