‘อนุทิน’ ยันออกประกาศคุมช่อดอก เพราะ กม.กัญชาฯ ถูกขวาง ย้ำไม่คิดให้กลับไปเป็นยาเสพติด

‘อนุทิน’ ย้ำไม่มีแนวคิดให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด ตราบใดที่ยังเป็นรัฐมนตรี เพราะมีกฎหมายควบคุมการใช้ ให้ไปจัดการคนทำผิด อย่าเหมาลงโทษคนทำถูก กระทบประโยชน์ประชาชน เผยเหตุออกประกาศฯ คุมช่อดอกแก้ทาง ร่าง กม.ถูกขวาง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงเรื่องความพยายามจากฝ่ายการเมืองในการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า มีเสียงเรียกร้องมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่การนำออกจากบัญชียาเสพติด เป็นมติของคณะกรรมการ ป.ป.ส.(ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) ต้องเข้าใจปริบท เรากำลังนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ กฎหมายมันออกมาแบบนี้ มันต้องเปลี่ยนความคิด อย่าเพิ่งไปประทับตรา มันจะก้าวข้ามไปไม่ได้ ความพยายามใช้ประโยชน์จากกัญชามีมานานแล้ว แล้วเริ่มกันก่อนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเสียอีก มีการนำมาศึกษาวิจัย มีเอกสารข้อมูลมากมาย ต่อมาข้อมูลตรงนั้น ใช้เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ส.พิจารณาปลดล็อก และการออกประกาศกระทรวงฯ เพื่อดูแลการใช้ 

เมื่อถามว่า การให้ปลูกกัญชาในครัวเรือน จะมีปัญหาในเรื่องของการควบคุมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เวลามีเหล้า มีบุหรี่ในบ้าน เด็กเปิดขวดดื่ม เปิดซองแล้วใช้ได้เลย แต่พืชกัญชากว่าจะมาใช้ มันต้องผ่านกระบวนการ ขั้นตอนมันยุ่งยาก ถ้าเทียบกับเหล้า บุหรี่ มันอยู่ที่ว่าถ้าเราเป็นผู้ปกครอง เราก็ต้องดูแลบุตรหลาน อันนั้นเป็นการดูแลในระดับครอบครัว แต่ในภาพรวมกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศมาแล้ว ว่าผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จะใช้กัญชาไม่ได้ แต่ถ้าละเมิด เท่ากับผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องไปดำเนินคดีแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การทำความเข้าใจ เราอยู่ในบ้าน มีลูก มีหลาน ต้องให้ความรู้กันว่าอะไรคือประโยชน์ อะไรคือโทษ แต่ถ้าใครทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องจัดการ 

ส่วนสาเหตุที่ต้องออกประกาศ สธ. กำหนดให้ช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม นายอนุทิน กล่าวว่า แต่เดิมหวังว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา จะได้รับการพิจารณาโดยเร็ว เพราะตอนเสนอไปตอนวาระแรก รับหลักการอย่างท่วมท้น จากนั้น ก็ตั้ง กมธ. ขึ้นมา มีทุกฝ่ายร่วม ร่าง พ.ร.บ. แรก ที่มีเพียง 45 มาตรา กมธ. ได้เพิ่มเป็น 95 มาตรา ที่เพิ่มมา เพราะการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อครอบคลุมทุกความห่วงใยของทุกฝ่ายไว้ ซึ่งตอนนี้มีพรรคที่เคยรับหลักการ ก็ออกมาบอกว่าจะคว่ำ มันขัดกับเจตนารมณ์ เพราะกม.ฉบับนี้ เกิดขึ้นมาเพื่อควบคุมการใช้อย่างผิดประเภท ลดความกังวลต่อสาธารณะ ทุกอย่างมีขั้นตอน ถ้าตอนนี้ ดูแล้วว่าหลายฝ่ายมีความพยายามล้มกฎหมายฉบับนี้อยู่ ทางกระทรวงฯ ก็ต้องลดความกังวลของประชาชน แต่ต้องไม่ทำให้ผู้ที่ตัดสินใจลงทุนเรื่องกัญชาและทำอย่างถูกกฎหมายต้องเสียหาย การรักษาคนไข้ต้องไม่ขาดตอน เราเลยออกประกาศขึ้นมาเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ที่กังวลกันเรื่องช่อดอก เราจะมาควบคุมเรื่องช่อดอก ถ้าจะใช้ต้องขออนุญาต มีวิธีการชัดเจน 

นายอนุทิน กล่าวว่า จำเป็นที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ทางสุขภาพและเศรษฐกิจของประชาชนควบคู่ไปกับการมีกฎหมายควบคุมความเสี่ยงที่เป็นข้อกังวล ก่อนปิดท้ายว่า ตราบที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีนโยบายขอให้ คกก. ป.ป.ส. พิจารณาให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เรามีมาตรการป้องกัน เราเริ่มแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องเดินหน้า นโยบายของรัฐบาลนี้มีอะไร ข้อที่ 4 เขียนชัด สนับสนุนให้ประชาชนใช้พืชกัญชา กัญชง เพื่อการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ ส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้เกิดการสร้างรายได้ การที่จะเอาไปผสมเพื่อการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ต้องทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย อะไรที่ผิดกฎหมาย ต้องไปจัดการตรงนั้น

“ผมเป็นรัฐมนตรีที่รับฟังผู้บริหารในกระทรวง ถ้าทำอะไรแล้วมันแย่ ต้องมีผู้บริหารในกระทรวงอื่นมาบอกแล้ว แต่ถามว่าทำไมวันนี้ทั่วประเทศในโรงพยาบาลมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ลองไปทำโพล คนที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย คนที่เป็นโรคพาร์กินสัน คนที่นอนไม่หลับ คนที่เป็นผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน  เขาได้ประโยชน์จากการใช้ มันอยู่ที่ว่าจะมองจากมุมไหน แต่ที่สุดแล้ว ต้องมองเรื่องความปลอดภัย มองเรื่องสังคม เราผ่านวันที่ 9 มิ.ย.มาครึ่งปีแล้ว ยังไม่มีปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคขวากหนาม ยกเว้นว่าเราสร้างเรื่องกันขึ้นมาเอง” นายอนุทิน กล่าว