‘ชาติไทยพัฒนา’ ประกาศความพร้อมเลือกตั้ง วางเป้า ส.ส.เขต 25 ที่นั่ง เสนอชื่อนายกฯ 

‘ประภัตร’ ลั่นพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมเลือกตั้งแล้ว ขอ ส.ส.เขต 25 ที่นั่ง เชื่อเก็บคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ทั่วประเทศได้ 2 ล้านคะแนน สยบข่าวลือขัดแย้ง ยัน ‘โพธสุธน-เที่ยงธรรม’ จับมือสู้ศึก จ.สุพรรณบุรี มั่นใจกวาด 5 ที่นั่งได้หมดทุกเขต

ที่บ้านทรงไทยโพธสุธน อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง ว่า เราพร้อมตลอดเวลา และมีคณะทำงานที่พร้อม เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่วนเป้าหมาย 25 ที่นั่ง ตั้งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมี 25 ที่นั่งถึงจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคได้ อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมี 400 เขตเลือกตั้ง โดยเรากำหนดไว้ว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส. 25% ของ 400 เขตเลือกตั้งคือ 100 เขตเลือกตั้ง คิดว่าจะได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต 25 คน ส่วนคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ยังไม่ได้นำมาคิด จะได้มากน้อยเท่าไรยังไม่รู้ โดยขณะนี้เรามีผู้สมัคร ส.ส.เกิน 100 เขตแล้ว

“ส่วนสาเหตุที่เราไม่ส่งทุกเขต ทุกจังหวัด เพราะเอาเฉพาะในส่วนที่คิดว่าทำได้สำเร็จแน่นอน ทั้งนี้ ภาพในส่วนภาพรวมการส่งผู้สมัคร ส.ส. ขณะนี้คืบหน้า 80% ส่วนอีก 20% คือ คนที่กำลังรอจะเปลี่ยนพรรค หรือมีปัญหาภายในพรรคเดิม อย่างวันนี้มี 4 ราย โทรศัพท์มาขอลงสมัครรับเลือกตั้งกับเรา แต่บางจังหวัดเรายังรับไม่ได้ เพราะยังไม่ได้วางฐานไว้ให้” นายประภัตร กล่าว 

เมื่อถามถึงความมั่นใจของพรรคชาติไทยพัฒนาจะได้เกิน 4 ล้านเสียง เพื่อเสนอชื่อนายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายประภัตร กล่าวว่า มีความมั่นใจ เพราะเรามีประสบการณ์ เรื่องคะแนนปาร์ตี้ลิสต์เราคิดจากผู้สมัครที่เราคัดเลือกมา มีประสบการณ์ เป็นคนในพื้นที่ เป็นอดีต ส.ส. ส.ว. สจ. คะแนนปาร์ตี้ลิสต์จะได้อัตโนมัติควบคู่กัน อย่างในจ.สุพรรณบุรี 

“เรามีความมั่นใจมาก คะแนนทั้ง 5 เขต เรามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ได้แน่ เราสามารถพูดได้เต็มปากว่าเราชนะได้ถล่มทลาย ทั้งคน ทั้งพรรค เพราะเลือดสุพรรณมาด้วยกันไปด้วยกัน ส่วนจะถึง 4 ล้านหรือไม่ตอบยาก แต่ 2 ล้านน่าจะถึง เพราะดูจากตัวเลขผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 6.5 แสนคน ไม่ต้องมาก เอาครึ่งเดียว ก็ได้ 3-4 แสนคะแนนแล้ว” นายประภัตร กล่าว 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างตระกูลโพธสุธนกับตระกูลเที่ยงธรรม การเลือกตั้งครั้งนี้สองตระกูลจะจับมือกันต่อสู้กับพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า อยากพูดเรื่องนี้ครั้งเดียวแล้วอย่าถามอีก ตอนนี้เราอยากให้มีเอกภาพในสุพรรณบุรี เรายอมรับว่าเดิมเมื่อ 3 ปี คนแทบจะไม่พูดถึงพรรคชาติไทยพัฒนา แต่ตั้งแต่ปี 64 เป็นต้นมา ผลงานของหัวหน้าพรรค มีแวว มีความสามารถจะเป็นผู้นำได้ สามารถแข่งกับนายกฯอีกหลายๆ ท่าน ตนและจองชัย เที่ยงธรรม แกนนำพรรค จึงจับมือกัน ช่วยกัน

เมื่อถามว่า หลายพื้นที่มีหลายพรรคมาเป็นคู่แข่ง และบางจังหวัดใช้อำนาจรัฐแย่งคะแนน นายประภัตร กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน การใส่ร้ายป้ายสีกันเป็นธรรมดา พอถึงเวลาปี่กลองขึ้นเลยตั้งท่าตั้งการ์ดกัน แต่ไม่เป็นไร คนตัดสินคือประชาชน เวลาสื่อทันสมัย ใครทำดีไม่ดีเขารู้ ที่จะมาเจาะฐานกันนั้น เป็นธรรมดา ประชาชนรู้ใครทำจริง ใครจริงใจ ใครช่วยเขามา

“พรรค ชทพ.ไม่มีใครรังเกียจ ไม่มีศัตรูทางการเมือง เป็นมิตรกับทุกพรรค ประชาชนต้องการคนเป็นกลาง ไม่ขัดแย้งกับใคร พรรคเรามีผู้นำเป็นคนหนุ่ม ชื่อนายวราวุธต้องร้องว้าว เพราะมีความสามารถ มีจุดเด่นทำให้พรรค ชทพ.ได้รับความสนใจมากขึ้น” นายประภัตร กล่าว

เมื่อถามว่า นโยบายว้าว ไทยแลนด์ 10 ข้อคิดว่าจะโดนใจประชาชนกลุ่มเป้าหมายของพรรค ชทพ.หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า นโยบายของแต่ละพรรคคล้ายๆ กัน เหมือนสินค้าคือ ลด แลก แจก แถม แต่ความเป็นจริงเป็นไปได้แค่ไหน ต้องมาพิสูจน์กัน ทั้งนี้ ยอมรับว่าประชาชนยังไม่เข้าใจคำว่า ว้าว ไทยแลนด์ แต่ตอนหลังเริ่มเข้าใจว่า ชทพ.ทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี อย่างจ.สุพรรณบุรีเป็นเมืองเกษตรกร มีชาวไร่ชาวมากที่สุด เราต้องคิดเรื่องการเกษตร โดยจะลดต้นทุน แจกเมล็ดพันธุ์ฟรี เราคิดว่าเราทำได้จริง