ความสำเร็จของ “Potato Corner” จนต่อคิวซื้อเฟรนช์ฟรายส์ และแห่เป็นลูกสะใภ้ “จิราธิวัฒน์”

#พีชพชร และ แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับการแถลงข่าวของ พีช พชร จิราธิวัฒน์ ปมความสัมพันธ์กับอดีตแฟนสาว แพทริเซีย กู๊ด กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ตลอดวันที่ 20 สิงหาคม ต่อเนื่องถึงวันรุ่งขึ้น ขนาบข้างมากับการพูดถึงการทำการตลาดแบบเรียลไทม์ของ Potato Corner – กลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาทางการตลาดที่น่าสนใจ

ที่ผ่านมาการทำการตลาดแบบเรียลไทม์ มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว กรณีของ Potato Corner ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง จากที่คนรู้จักในวงแคบ กลายเป็นแห่กันไปต่อคิวซื้อ และกลายเป็นไวรัลทั่วโลกออนไลน์

แฮชแท็ก #พีทแพท และ #พีชพชร ติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ของไทยและเมื่อพีชออกมาแถลงข่าวเพื่อยืนยันถึงการเลิกรากันของทั้งคู่ในช่วงเย็นแฮชแท็ก #พีชพชร ก็ได้พุ่งทะยานติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ของโลกเป็นอันดับสอง โดยมียอดทวีตและรีทวีตของทั้งสองแฮชแท็กข้างต้นรวมกันนับล้านครั้ง

ในประเด็นดังกล่าวผู้คนส่วนใหญ่แสดงความเห็นในเชิงบวกต่อพีช ทั้งเห็นใจ สงสารต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงร่วมกันส่งข้อความให้กำลังใจนักแสดงหนุ่ม โดยก่อนการแถลงข่าวของพีชที่จะเกิดขึ้นในตอนเย็นวานนี้ แอคเคานต์โซเชียลมีเดียของโปเตโต้คอร์เนอร์ได้โพสต์ภาพให้กำลังใจ ‘บอส’ หรือพีช-พชร

โดยในภาพมีเฟรนฟรายส์ซึ่งเป็นสินค้าหลักของทางร้านถูกไมค์ล้อมรอบเปรียบเฟรนฟรายส์เป็นพีช-พชร ที่กำลังถูกนักข่าวถามคำถามในประเด็นที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเองนอกจากนี้ในภาพยังมีข้อความว่า ‘มีเราอยู่ข้างๆเสมอนะ’ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนรีทวิตเกือบหนึ่งหมื่นเก้าพันรีทวิตและมีคนกดไลค์ในเฟซบุ้คแฟนเพจกว่า 4.3 พันไลค์ 

คอนเทนท์ กราฟิก ของ Potato Corner ที่เป็นกระพูดถึงตลอดบ่าย

การโพสต์รูปภาพและข้อความให้กำลังใจ พีช-พชร ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของโปเตโต้คอร์เนอร์นั้นเป็นการทำเรียลไทม์คอนเทนท์ (Real Time Content) ที่มีความเชื่อมโยงกับแบรนด์อย่างเห็นได้ชัดและเป็นการแสดงออกไปในทิศทางเดียวกันกับความเห็นส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ส่งผลให้ผู้คนตอบรับในทิศทางบวกและเป็นการสร้างการตระหนักรู้ (Awareness) ของแบรนด์ได้อย่างประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังเกิดเป็นกระแสการสนับสนุนโปเตโต้คอร์เนอร์เพื่อให้กำลังใจพีชอีกด้วย 

คนแห่เข้าคิวซื้อ Potato Corner สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว เย็นวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2562 หลังพีช พชร ให้สัมภาษณ์หนึ่งวัน

คนอยากร่วมสนุกในโลกออนไลน์

หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยทำให้ Potato Corner กลายเป็นไวรัลที่ประสบความสำเร็จเกิดจากการที่ชาวเน็ตไทยมีลักษณะรักสนุก อยากมีส่วนร่วม โดยส่วนหนึ่งไม่ต้องการเข้าไปอยู่ตรงกลางของความขัดแย้ง แต่ขอเกาะขอบจอ เป็นกองเชียร์ หรืออย่างน้อยก็อยากให้คนรู้ว่าเกาะกระแสและเท่าทันสิ่งที่ติดเทรนด์อยู่ ณ ตอนนั้น

ผู้คนไม่น้อยที่ตัดสินใจเข้าคิวซื้อสั่งให้ Potato Corner มาส่ง เกิดจากความต้องการในการโพสต์รูปลงในสื่อของตนเองเพื่อให้เกิดการพูดคุยกับคนรู้จัก เพื่อสะท้อนตัวตนในความทันกระแส และเล่นสนุกกับมัน

Tops Supermarket ขาประจำเรียลไทม์

นอกจากโปเตโต้คอร์เนอร์แล้วนั้นยังมีแบรนด์และธุรกิจอื่นๆ ที่ทำการตลาดแบบเรียลไทม์คอนเทนท์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจยกตัวอย่างเช่นท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต (Tops Supermarket) ที่มักจะใช้บัญชีโซเชียลมีเดียอย่างแฟนเพจเฟซบุ๊กและแอคเคานต์ทวิตเตอร์โพสเชื่อมโยงสินค้าที่มีขายที่ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตกับประเด็นต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสหรือแฮชแท็กที่กำลังติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ในขณะนั้น 

หมี่หยก MK Restaurants กระชากออแกนิคคอนเทนท์มาเป็นของตนเอง

หมี่หยก จุดเริ่มต้นจากบทสนทนาในทวิตเตอร์ สู่การตลาดออนไลน์ที่เฉลียวฉลาด

เมื่อต้นปีนี้อีกหนึ่งตัวอย่างคือกระแส #ทีมลวกหมี่หยก และ #ทีมไม่ลวกหมี่หยก ซึ่งเป็นการถกเถียงกันที่เริ่มขึ้นในทวิตเตอร์เกี่ยวกับลักษณะการรับประทานหมี่หยกของแต่ละคนว่ามีการลวกก่อนรับประทานหรือไม่จนเกิดเป็นกระแสลามไปยังเฟซบุ๊กด้วย

ถึงแม้กระแสดังกล่าว ‘MK Restaurant’ จะไม่ได้สร้างขึ้นมาเองแต่ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะทำการตลาดแบบเรียลไทม์โดยการโพสต์ข้อความว่า‘ปัญหาระดับชาติ ก็เรื่องกินมันเรื่องใหญ่! ไม่ว่าจะ #ทีมลวกหมี่หยก หรือ #ทีมไม่ลวกหมี่หยก MK ก็อร่อยได้ทั้งคู่! เพราะเส้นบะหมี่หยกของ MK ลวกมาให้แล้วสามารถทานได้เลย แต่ถ้าใครอยากทานแบบที่นิ่มขึ้นมาหน่อย ก็ให้ลวกในน้ำซุปเพิ่มได้เลย (อย่าลืมสั่งเป็ดย่าง MK มากินคู่นะครับ)’ พร้อมภาพเคลื่อนไหวของหมี่หยกทั้งในรูปแบบที่ลวกและไม่ลวก 

MK ใช้กระแสดังกล่าวออกโปรโมชันแจกฟรีบะหมี่หยก 100 จานทุกสาขาในวันที่ 8 มกราคม 2562 ถือว่าเป็นการใช้กระแสในอินเตอร์เน็ตได้อย่างคุ้มค่า

การตลาดออนไลน์เรียลไทม์ ต้องอาศัยคนเข้าใจภาษาออนไลน์

ไม่ใช่ทุกครั้งที่การทำการตลาดแบบเรียลไทม์จะประสบความสำเร็จเสมอไปบางครั้งทำแล้วได้รับการตอบรับไปในทางที่ดีและทำให้ผู้คนรู้สึกดีต่อแบรนด์รวมถึงเป็นการสร้างการรับรู้ (Awareness) เพิ่มขึ้นแต่ในทางกลับกันบางครั้งการทำการตลาดรูปแบบดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบในด้านที่ไม่ดีต่อภาพลักษณ์แบรนด์หรือที่เลวร้ายที่สุดอาจจะส่งผลต่อยอดการใช้บริการหรือยอดการซื้อสินค้า

จนสุดท้ายทางแบรนด์ต้องออกมาโพสต์ขอโทษอย่างเป็นทางการดังนั้นการทำเรียลไทม์คอนเทนต์ในแต่ละครั้งต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกันเช่นเวลาเนื้อหาข้อความและรูปภาพที่ใช้หรือแม้แต่ตำแหน่งทางการตลาด (Market Positioning) ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่และจะส่งผลต่อแบรนด์อย่างไร 

ชาวเน็ตพูดถึง Potato Corner อย่างกว้างขวาง