SHARE

คัดลอกแล้ว

ประมวลเหตุการณ์คดีตำรวจกองปราบปราม บุกจับ “แม่ปุ๊ก” แม่ค้าขายของออนไลน์ฉ้อโกงประชาชน ไม่ส่งสินค้าหลังได้รับเงิน เชื่อมโยงคดี “วางยาพิษ” เด็กหญิง-ชายที่อยู่ในอุปการะ

#ฉ้อโกงซื้อขายออนไลน์

1. วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ตำรวจกองปราบบุกจับกุมแม่ค้าขายของออนไลน์คนหนึ่ง ชื่อว่า “แม่ปุ๊ก” อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ฐานรับไว้ซึ่งเด็กเพื่อความมุ่งหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ /พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน /ทำร้ายผู้อื่นโดยเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย /ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในบ้านย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ

2. ที่มาที่ไปของคดีเริ่มจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบว่า ไม่ได้รับสินค้าเป็นหน้ากากอนามัยและที่วัดไข้จากแม่ปุ๊กหลังโอนเงินไปให้แล้ว

3. บัญชีธนาคารที่รับโอนเงินค่าสินค้าจากผู้เสียหาย ไม่ใช่บัญชีชื่อแม่ปุ๊ก แต่เป็นชื่อของนางสาวเอ (นามสมมุติ)

4. หลายปีก่อน นางสาวเอ ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมและมีปัญหาส่วนตัวหลายอย่าง ตามหาผู้อุปการะรับเลี้ยงลูกของตัวเอง

5. นางสาวเอและแม่ปุ๊กรู้จักกันผ่านโซเชียลมีเดีย โดยแม่ปุ๊กบอกประวัติส่วนตัว อ้างเรียนจบเภสัชกร ทำให้นางสาวเอตัดสินใจยกลูกตัวเองให้กับแม่ปุ๊ก เพราะน่าจะดีต่ออนาคตของลูก

6. ลูกที่นางสาวเอตัดสินใจยกให้แม่ปุ๊กคือ ‘เด็กหญิงอมยิ้ม’ โดยเป็นการยกให้เลี้ยงดูแบบไม่ได้จดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรม

7. ข้อมูลในสูติบัตรของเด็กหญิงอมยิ้ม จึงระบุว่านางสาวเอเป็นแม่มาโดยตลอด แต่ไม่มีใครรับรู้ แม้แต่ครอบครัวของแม่ปุ๊กก็อ้างว่าไม่รู้เช่นกัน

8. ต่อมาแม่ปุ๊กให้นางสาวเอส่งเอกสารส่วนตัวมาให้ บอกว่าจะนำไปใช้ทำประกันชีวิตให้กับเด็กหญิงอมยิ้ม และให้เปิดบัญชีธนาคารในชื่อของนางสาวเอมาด้วย

9. นางสาวเอได้ส่งเอกสารส่วนตัวให้แม่ปุ๊ก พร้อมเปิดบัญชีธนาคารชื่อตัวเอง 1บัญชี

10. เกือบ 2 เดือนที่แล้ว นางสาวเอได้รับหมายเรียกจากตำรวจว่าตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง เพราะมีคนโอนเงินเข้าบัญชีชื่อของนางสาวเอ แต่ไม่ได้รับสินค้าที่แม่ปุ๊ก ตามที่ตกลงซื้อขาย

11. นางสาวเอจึงเข้าแจ้งความว่า มีคนนำเอกสารส่วนตัวไปใช้เปิดบัญชีธนาคาร และได้เดินทางไปปิดบัญชีธนาคารที่เปิดให้กับแม่ปุ๊ก

12. เมื่อตำรวจเริ่มสืบสวน พบว่าบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของนางสาวเอ เกี่ยวโยงกับบัญชีที่แม่ปุ๊กเปิดรับบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงอมยิ้มและเด็กชายอิ่มบุญ ที่ป่วยด้วยโรคประหลาด

13. ตำรวจตรวจสอบพบว่า แม่ปุ๊กนำเอกสารส่วนตัวของนางสาวเอไปเปิดบัญชีธนาคารเพิ่มอีก 2 บัญชี รวมบัญชีธนาคารที่เป็นของชื่อนางสาวเอมี 3 บัญชี และมีบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อแม่ปุ๊กอีก 2บัญชี รวมเป็น 5 บัญชีที่แม่ปุ๊กใช้รับโอนเงินบริจาคและเงินจากขายสินค้าออนไลน์ โดยมียอดเงินหมุนเวียนประมาณ 15ล้านบาท

14. จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เจ้าหน้าที่พบว่า เงินที่ได้รับบริจาคกับเงินที่แม่ปุ๊กนำไปรักษาอาการป่วยของเด็กสองคน ยอดเงินไม่ตรงกัน

15. ด้านตำรวจเมื่อพบความเกี่ยวโยงของเส้นทางการเงินทั้งหมดของแม่ปุ๊ก จึงเดินทางไปพบแพทย์ที่รักษาอาการป่วยของน้องอมยิ้มและน้องอิ่มบุญ เพื่อสอบถาม

16. แพทย์ยืนยันว่าอาการป่วยของเด็กสองคนคล้ายกัน เป็นอาการที่เกิดจากกินสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ไม่ใช่อาการป่วยที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม ตามคำกล่าวอ้างของแม่ปุ๊ก

17. หลังการแถลงข่าวของตำรวจกองปราบเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม มีข่าวว่า นางสาวเอ เครียดมาก และหายหน้าไปจากบ้าน ในจ.นครสวรรค์

#วางยาลูกหลอกรับเงินบริจาค

1. ตั้งแต่ปี 2560 แม่ปุ๊กสร้างสตอรี่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ขายของออนไลน์ อาทิ เสื้อผ้า อาหารแปรรูปเลี้ยงเด็กหญิงอมยิ้มและเด็กชายอิ่มบุญเพียงลำพัง ทำให้มีคนเห็นใจแม่ปุ๊ก และเข้ามาช่วยซื้อสินค้า รวมถึงร่วมบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก

2. ปลายปี 2560 น้องอมยิ้มเริ่มป่วยด้วยอาการใบหน้าและคอบวม โดยช่วงแรกของการรักษา แม่ปุ๊กระบุว่า น้องอมยิ้มแพ้อาหารทะเล

3. น้องอมยิ้มป่วยเรื้อรัง และอาการแย่ลงต่อเนื่อง เริ่มมีภาวะเลือดไหลออกปาก ซึ่งแม่ปุ๊กก็จะคอยโพสต์ภาพ อัปเดตอาการป่วย รวมถึงการดูแลน้องอมยิ้ม ผ่านทางโซเชียลให้เห็นอย่างสม่ำเสมอ จนคนส่วนใหญ่สงสาร

4. เดือนมกราคม 2562แม่ปุ๊ก โพสต์อ้างว่าน้องอมยิ้มป่วยเป็น “เรนินโนม่าห์” โรคประหลาดที่พบได้น้อยมาก และเริ่มขอรับความช่วยเหลือ พร้อมระบุหมายเลขบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเงิน จนกระทั่งน้องอมยิ้มเสียชีวิตในเดือนสิงหาคม 2562 ขณะนั้นน้องอมยิ้มอายุได้ 3 ขวบ

5. ต้นปี 2563 แม่ปุ๊กโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง แจ้งว่าน้องอิ่มบุญป่วยด้วยอาการเดียวกับน้องอมยิ้ม ชาวเน็ตที่แม้จะสงสัย แต่ก็พากันช่วยซื้อหน้ากากอนามัยและถุงผ้าของแม่ปุ๊กจำนวนมาก

6. ชาวเน็ตสงสัยพฤติกรรมของแม่ปุ๊กอีกครั้ง หลังมีคนบ่นเรื่องสั่งสินค้าช่วงโควิด-19 ระบาด อาทิหน้ากากอนามัย อุปกรณ์วัดไข้แล้วไม่ได้ของ ประกอบกับการเปิดรับเงินบริจาคจำนวนมาก และอาการป่วยของเด็กทั้งสองคนดูผิดปกติ

7. วันที่ 24 เมษายน 2563แม่ปุ๊กได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ 2 บุคคลที่โจมตีเธอว่า “วางยาลูก”

8. แต่แล้วในวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เมื่อตำรวจได้พยานหลักฐานเพียงพอ จึงขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับแม่ปุ๊ก ตามข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับชีวิตร่างกายเด็กด้วย

9. ระหว่างการจับกุมแม่ปุ๊ก ตำรวจพบ “สารต้องสงสัย” ภายในบ้านด้วย จึงส่งให้นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าคือสารชนิดใด และส่งผลต่อร่างกายหรือไม่อย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างรอผล

10.แพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต เปิดเผยว่า ร่างกายของน้องอิ่มบุญที่ปัจจุบันอายุ 3 ขวบ ป่วยเหมือนน้องอมยิ้ม มีสารเคมีออกฤทธิ์เป็นกรด คล้ายสารเคมีที่มีส่วนผสมของน้ำยาล้างห้องน้ำหรือน้ำยาซักฟอก ล่าสุดน้องอิ่มบุญอาการปลอดภัยแล้ว

11. แม่ปุ๊กให้การภาคเสธยอมรับในคดีฉ้อโกงประชาชนว่าไม่ได้ส่งสินค้าให้คนที่สั่งซื้อจริง แต่ปฏิเสธใน 3 ข้อหาสำคัญ คือทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแต่ความตาย, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และคดีค้ามนุษย์ เธอยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายเด็กจนป่วยและเสียชีวิต ขณะนี้แม่ปุ๊กถูกควบคุมตัวไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพราะไม่มีเงิน 3 แสนบาทประกันตัว

12. แม่ปุ๊กยังยืนยันด้วยว่าน้องอิ่มบุญคือลูกแท้ๆ ของตัวเอง ที่เกิดกับผู้ชายที่เจอกันในผับ โดยฝ่ายชายทิ้งไปแล้ว แต่กลับไม่มีประวัติฝากครรภ

13. ตอนแรกแม่ปุ๊กไม่ยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ แต่ภายหลังก็ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นแม่ตัวจริงของน้องอิ่มบุ

14. ในสัปดาห์นี้จะได้ผลตรวจดีเอ็นเอน้องอิ่มบุญกับแม่ปุ๊กว่าตกลงเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่จริง พฤติกรรมค้ามนุษย์จะชัดเจนขึ้น เพราะจากข้อมูลถ้าแม่ปุ๊กยังไม่ถูกจับก็กำลังจะมีเด็กคนที่ 3 มาอยู่ในการอุปการะ

15. แม้ต้องรอการพิสูจน์หลักฐานอีกหลายอย่าง แต่พฤติกรรมที่ชัดเจนของแม่ปุ๊กคล้ายกับมิจฉาชีพทางออนไลน์ที่จับจุด “คนไทยขี้สงสาร” มาแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง

หากพบเห็นเด็กถูกกระทำความรุนแรงหรือถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวง พม. สายด่วนโทร.1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง

#UPDATE วันที่ 26 พ.ค. ผลตรวจดีเอ็นเอแม่ปุ๊กกับด.ช.อิ่มบุญตรงกัน แสดงว่าเป็นแม่ลูกกันจริง

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า