Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุก 6 เดือนคดีฉีกบัตรประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 ลดโทษ 1 ใน 3 ให้จำคุก 4 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี ปิยบุตร ให้กำลังใจชี้เป็นอารยะขัดขืน
วันที่ 21 ก.ค. 2563 ศาลจังหวัดพระโขนง นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีฉีกบัตรออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ ปี 2560 คดีหมายเลขดำ 5952/2559 ที่พนักงานอัยการพระโขนงเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จ.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่,นายจิรวัฒน์ เอกอัครนุวัฒน์ และนายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ข้อหาทำลายเอกสารผู้อื่น ในประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188, 358 และข้อหาทำลายบัตรออกเสียงตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 59 รวมทั้งต่อมาได้แจ้งเพิ่มเติมในข้อหาก่อความวุ่นวายในหน่วยลงคะแนน ตามมาตรา 60 (9) ของ พ.ร.บ.ประชามติฯ
จำเลยทั้งสามเดินทางมาศาล พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมฟังคำพิพากษา นอกจากนี้ยังมีประชาชนผู้รักประชาธิปไตยมาร่วมให้กำลังใจด้วย
โดยเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2559 นายปิยรัฐเดินทางไปยังคูหาลงคะแนนเสียงที่เขตบางนาและฉีกบัตรลงคะแนน พร้อมกับตะโกนถ้อยคำของ ครูครอง จันดาวงศ์ ว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” เพื่อแสดงออกว่าไม่ยอมรับการลงประชามติที่ปราศจากความชอบธรรม ภายใต้การใช้อำนาจควบคุมการแสดงออกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะที่นายทรงธรรมกับนายจิรวัฒน์เป็นผู้ถ่ายคลิปวิดีโอการฉีกบัตรดังกล่าว
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 พิพากษาลงโทษนายปิยรัฐ จำเลยที่ 1 ฐานทำลายบัตรออกเสียงและทำให้เสียทรัพย์ โดยเป็นการกระทำเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ จำคุก 4 เดือน ปรับ 4,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง และยกฟ้องจำเลยที่ 2 และ 3 ทุกข้อกล่าวหา

แฟ้มภาพ

ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2561 พิพากษาแก้เป็นนายปิยรัฐ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานทำลายบัตรออกเสียง และก่อความวุ่นวายในที่ออกเสียง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานก่อความวุ่นวาย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนัก
ส่วนนายจิรวัฒน์ จำเลยที่ 2 และนายทรงธรรม จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานก่อความวุ่นวาย ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 6,000 บาท จำเลยทั้งสามให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 4 เดือน ปรับคนละ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี
จำเลยทั้งสามยื่นฎีกาต่อศาลฎีกา และในวันนี้ ศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า เดินทางมาให้กำลังใจทั้งสามคนซึ่งเป็นนักกิจกรรม ผู้รักประชาธิปไตย ที่เห็นถึงความไม่ชอบธรรมของการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 60 และแสดงออกอย่างสันติ เป็นอารยะขัดขืน หรือที่เรียกว่าการดื้อแพ่งพลเมือง เพื่อประท้วงต่อกระบวนการและกฎหมายที่เป็นอยู่ พร้อมทั้งยอมถูกดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนการชุมนุมของนักศึกษาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายปิยบุตร กล่าวว่า เสรีภาพในการแสดงออกเป็นหัวใจสำคัญของสังคมประชาธิปไตย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ปราศจากเสรีภาพตรงนี้แล้ว ประชาธิปไตยจะกลายเป็นแค่การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง หลังจากนั้นพลเมืองจะไม่มีสิทธิวิจารณ์ประท้วงรัฐบาลอีกเลย ถ้าบ้านเมืองอยู่ในสภาวะปกติ รัฐบาลตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชนได้ คงไม่มีใครอยากมาชุมนุมหรอก แต่การชุมนุมเกิดขึ้นเพราะผู้ชุมนุมและประชาชนรู้สึกว่าสถาบันทางการเมืองและรัฐบาลไม่สามารถตอบสนองต่อข้อเรียกร้องและแก้ไขปัญหาของเขาได้เลย
“ไม่ว่าเขาจะแสดงออกอย่างไรก็ตาม แต่เขาคืออนาคตของประเทศไทย เป็นอนาคตของชาติ ถ้าเราจงใจมองไม่เห็นว่าอนาคตของประเทศกำลังแสดงออกอะไรออกมา หรือถ้าจัดการไม่ให้อนาคตของประเทศแสดงออก ทั้งสองวิธีนี้ไม่ใช่ทางออกแน่นอน อยากจะให้ฟังเสียงของอนาคตของประเทศ สังคมใดก็ตามที่ฆ่าอนาคตของประเทศ สังคมนั้นไม่มีวันเจริญเติบโตก้าวหน้าได้”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า