น้องชายคลั่ง คว้ามีดแทงพี่สาวดับ ก่อนจุดไฟเผาบ้านวอด

เกิดเหตุสลด หนุ่มคลั่งคว้ามีดเเทงพี่สาวดับ ก่อนจุดไฟเผาทั้งศพเเละบ้าน จนท.เผยผู้ก่อเหตุ มีประวัติเข้ารับการรักษาอาการทางจิต คาดอาจขาดยา ทำให้อาการกำเริบ

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 ก.พ. 62 พ.ต.ท.ปรีชา คำทองเขียว สารวัตรสอบสวน สภ.โพนทอง รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 119 หมู่ 11 บ้านหนองแมวโพง ต.หนองใหญ่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ อบต.หนองใหญ่ และรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน

ที่เกิดเหตุชาวบ้านกำลังมุงดูเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้สองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำดับไฟประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมไม่ให้ลุกลามไหม้บ้านเรือนใกล้เคียงได้ แต่บ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 4 แสนบาท

ตรวจสอบที่เกิดเหตุในกองขี้เถ้าขั้นล่าง พบศพผู้เสียชีวิตถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก ทราบชื่อภายหลังคือ นางขวัญใจ เพชรแก้ว อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจที่เกิดเหตุอยู่นั้นได้มี นายปานทอง เพชรแก้ว อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นน้องชายผู้เสียชีวิต ขับขี่ จยย.มาดูที่เกิดเหตุ และบอกว่าตนเองเป็นคนจุดไฟเผาบ้านเอง ส่วนศพที่เห็นเป็นพี่สาว ซึ่งตนเองเป็นคนใช้มีดทำครัวแทงเสียชีวิต ตั้งแต่เวลา 01.00 น. วันเดียวกัน จากนั้นได้ขี่ จยย.ไปส่งหลานอายุ 4 ขวบ และ 6 ขวบ  ซึ่งเป็นลูกพี่สาวคนรอง และออกไปทำงานรับจ้างดูแลสวนยางพาราในเขต อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม.

เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวไปสอบสวน โดยนายปานทองยังอยู่ในอาการเบลอ และให้การวกวนว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับพี่สาว และตนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ประสาทหลอน จึงคว้ามีดทำครัว ยาวประมาณ 8 นิ้ว จ้วงแทงพี่สาวไปหลายครั้ง จนเสียชีวิตอยู่บนบ้าน จากได้ลากศพพี่สาวลงมาซุกไว้ในตู้เสื้อผ้าชั้นล่าง ก่อนพาหลานอายุ 4 ขวบ และอายุ 6 ปี ไปส่งให้กับนางวิไลวรรณ เพชรแก้ว แล้วย้อนกลับมาจุดไฟเผาบ้าน

จากการตรวจแฟ้มประวัติ ผู้ก่อเหตุรายนี้เคยต้องโทษในคดีฆ่าโชเฟอร์รถทัวร์เสียชีวิต ในพื้นที่ สภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อปี 56 และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 2 ปี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนทอง ยังเคยไประงับเหตุชายดังกล่าวเกิดคลุ้มคลั่งเมายา อาละวาด พยายามจะจุดไฟเผาบ้านมาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะมาก่อเหตุฆ่าพี่สาว แล้วเผาบ้านในครั้งนี้

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ก่อเหตุเคยมีประวัติเข้ารับการรักษาอาการทางจิต และกินยาของโรงพยาบาลมาอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องหาอาจขาดยา ทำให้โรคประสาทกำเริบ ก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นได้ทำเอกสารส่งตัว ผู้ต้องหาไปตรวจสภาพจิตที่โรงพยาบาลประกอบการดำเนินคดีต่อไป