รวบหนุ่มอ้างเป็นโมเดลลิ่งหลอกถ่ายโป๊เเคปภาพขาย เหยื่อ 8 รายร้อง ปอท.

กก.3 บก.ปอท. แถลงจับกุมหนุ่มแอบอ้างเป็นโมเดลลิ่งหลอกพริตตี้สาวเปลือยกายเทสหน้ากล้อง แล้วแอบถ่ายคลิปส่งขายให้สมาชิกกลุ่มไลน์ เก็บเงินค่าสมาชิกคนละ 300 บาท

วันที่ 25 ต.ค.2562 ที่ บก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาก่อคดี SEXTORTION หลังจากวานนี้ (24 ต.ต.62) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ปอท.นำโดยพ.ต.ท.เทพรัตน์ ศุกระกาญ สว.กก.3 บก.ปอท. พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด สว.ก.ก 3 พ.ต.ต.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล กก.3 บก.ปอท. รตอ.ประมุข ภิมย์เจียว รองสว.กก.3 บก.ปอท. ด.ต.หญิงพิมพ์วณัชชา ขุนสังวาล ผบ หมู่กก.3 บก.ปอท.ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ จ 1507/2562 ลงวันที่ 2 ต.ค.2562 จับกุมได้ในพื้นที่ อ.ลำลูกกา ปทุมธานี พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งตามหมายค้นของศาลจังหวักธัญบุรี ที่ 307/2562 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

คดีนี้มีผู้เสียหายเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 16 – 25 ปี รวมตัวกัน 8 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ บก.ปอท.ว่า พบประกาศรับสมัครงานนางแบบ (Modeling) ผ่านทางเฟซบุ๊กจึงได้ติดต่อตามข้อมูลดังกล่าวโดยให้ติดต่อทางไลน์ชื่อผู้ใช้งานที่อ้างเป็นบุคคลเพศทางเลือกพูดคุยเป็นระยะเวลาหนึ่งจนหลงเชื่อชักชวนว่า มีงานถ่ายทำในลักษณะวาบหวิวจึงให้ผู้เสียหายวีดิโอคอลในลักษณะเปลือยกายโชว์สัดส่วน ก่อนจะแอบบันทึกหน้าจอเอาไว้ หลังจากนั้นคลิปวีดิโอเปลือยกายดังกล่าวก็ถูกเผยแพร่สู่สื่อสังคมออนไลน์ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงพากันมาแจ้งความกับตำรวจ

หลัง บก.ปอท. ทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำความผิดและยื่นคำร้องต่อศาลขอหมายจับ และหมายค้น ก่อนจับกุมตัวมาดำเนินคดีข้อหา ความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(4)(5)”นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆที่มีลักษณะอันลามกฯ” ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 “เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสิ่งอื่นใดอันลามก” ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท ประมวลกฎหมายอาญามาตร 287/1 วรรคแรก “ครอบครองซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น” ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาทและ 287/1วรรสอง “ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น” ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด 7 ปี ปรับ 140,000 บาท ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287/2 “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก” ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 10 ปี ปรับ 200,000 บาท

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กและไลน์ที่ใช้หลอกเหยื่อ แต่ไม่ได้เอาคลิปโป๊เปลือยไปขาย อ้างว่าทำไปเพื่อทดลองฝีมือ แสดงความสามารถที่หลอกเหยื่อพริตตี้สาวเหล่านี้ได้ ซึ่งพริตตี้เหล่านี้มีแฟนคลับติดตามในเฟซบุ๊กแต่ละคนมีจำนวนกว่า 3 แสนคนโดยใช้จิตวิทยาพูดเกลี้ยกล่อมทำตัวเป็นสาวประเภทสิง อ้างว่าเป็นโมเดลลิ่งของค่ายหนังใหญ่ของเมืองไทย ถ้าผ่านก็จะมีงานแสดงภาพยนตร์ป้อนให้ ใช่วิธีอัดหน้าจอแล้วเอาไปปล่อยให้สมาชิกในกลุ่มๆ ละ 500 คนเก็บเงินค่าสมาชิกคนละ 300 บาท แต่มีสมาชิกบางคนแอบเอาคลิปไปปล่อยขายต่อ จนคลิปหลุดออกไปภายนอก จนเป็นเหตุให้ถูกติดตามจับกุมมาดำเนินคดี

1 ใน 8 ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คนร้ายได้ทักเฟซบุ๊กมาในอินบล็อกและอ้างเป็นสาวประเภทสองอยู่บริษัทใหญ่อ้างว่าต้องการหานักแสดง ต่อมา คนร้ายได้วีดิโอคอลมาขอให้โชว์สัดส่วน ซึ่งตนไม่ได้ตั้งใจอนาจารแต่ถูกคนร้ายหลอก และฝากเตือนทุกคนอย่าโชว์อนาจารหน้ากล้องเพราะอาจทำให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายได้