รอง ผบก.ปอท. เผยผล Smart Watch ชี้ชัดแล้ว ชีพจรลัลลาเบล หยุดเต้นเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันเกิดเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบทางเทคนิคก่อนว่าถูกต้องหรือไม่ โดยสิ่งที่ตำรวจยึดในการดำเนินคดีในครั้งนี้คือผลจากทางแพทย์ในการชันสูตรเพราะสามารถบอกทุกอย่างได้ทั้งหมด
จากกรณีการเสียชีวิตของ ลัลลาเบล อายุ 25 ปี สาวพริตตี้ พบร่างอยู่บริเวณบนโซฟาล็อบบี้ คอนโดแห่งหนึ่ง ถ.ราชพฤกษ์ เขตธนบุรี ซึ่งเป็นที่พักของ น้ำอุ่น พริตตี้บอย ที่อุ้มลันลาเบลไปวางไว้ ภายหลังจากที่ลากและอุ้มลัลลาเบลมาจากบ้านงานปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.62) ผลชันสูตรออกมาว่า ลัลลาเบลเสียชีวิตจากการดื่มสุรา ซึ่งตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่พบสารเสพติด หรือดีเอ็นเอของคนอื่นในร่างกาย และยังเหลือผลของ นาฬิกาข้อมือคือ Smart Watch ที่เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบว่าจะแสดงผลได้หรือไม่
วันที่ 24 ก.ย. 2562 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ นาฬิกาผล Smart Watch ของลันลาเบล ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า บันทึกอัตราการเต้นของหัวใจ หยุดบันทึก ในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ ผลที่ออกมายังไม่เป็นทางการ จะต้องมีการตรวจสอบจากทางแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบทางเทคนิคก่อนว่าถูกต้องหรือไม่ โดยสิ่งที่ตำรวจยึดในการดำเนินคดีในครั้งนี้คือผลจากทางแพทย์ในการชันสูตรเพราะสามารถบอกทุกอย่างได้ทั้งหมด ซึ่งในวันนี้(24 ก.ย. 2562) จะประชุมความคืบหน้าอีกครั้งคาดว่าจะมีความชัดเจน ทั้งเรื่องคดีและผู้ต้องหาที่กระทำความผิด
นอกจากนี้ทาง ทนายเกิดผล เเก้วเกิด ยังได้วิเคราะห์ถึง Smart Watch ว่า ” มีหน่วยงานราชการใด ที่จะรับรองได้ว่า นาฬิกา smart watch สามารถรับรองผล การหยุดเต้นของชีพจร หรือ หัวใจ ได้แม่นยำ 100% โดยไม่มีข้อผิดพลาดคลาดเคลื่่อน ถ้ามีเหตุ หรือ ปัจจัยอื่นแทรกแซง จะมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น smart watch เรือนนั้น กันน้ำไม่ได้ หรือ เจ้าของนาฬิกา ถอดออกจากข้อมือในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง และที่สำคัญ ในทางการแพทย์ ที่มีข้อบ่งชี้ หรือ ผลการวินิจฉัยของแพทย์ แตกต่างกับห้วงเวลา ของ smart watch ศาลจะพิจารณาจากสิ่งใด วิทยาศาสตร์ อาจโกหกไม่ได้ แต่วิทยาศาสตร์ อาจไม่ได้รู้ทุกอย่างเสมอไป เคยมีคดีขึ้นศาล ข้อหาหาพยายามฆ่า โจทก์นำคลิปวีดีโอ จากกล้องจรปิดมาเปิดเผยในศาล เพียงมุมเดียว ที่เห็นว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย ในขณะที่จำเลย มีคลิป อีกมุมหนึ่งว่า ผู้เสียหายใช้มีดแทงจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้เสียหาย เพื่อป้องกันตัว วิทยาศาสตร์ อาจเป็นแค่เครื่องมือให้คนที่ต้องการใช้ เพื่อประโยชน์ของตน แต่ไม่ใช่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมก็ได้”
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=157642038638528&set=a.106267743775958&type=3&theater