Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปกรณี จ่าสิบโท ‘9Near’ มอบตัว เปิดปากกับตำรวจ บอกข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายการ ไม่ได้แฮกและมีไม่ถึงตามที่กล่าวอ้าง แค่ซื้อมาจากดาร์กเว็บ 8 ล้านเรคคอร์ด

หลังจากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 66 ยืนยันว่า ‘9Near’ ที่ออกมาอ้างมีข้อมูลคนไทยอยู่ในมือกว่า 55 ล้านรายการ พร้อมข่มขู่เรียกค่าไถ่นั้น เป็นทหาร ยศ ‘จ่าสิบโท’ ออกหมายจับแล้ว และประสานให้ทางต้นสังกัด ส่งตัวมาตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อดำเนินคดี

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล จนแซด ยังจับ ‘9Near’ ไม่ได้ ปิดมือถือ-ติดวันหยุด?

ร้อนถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องออกมาบอกอีกครั้งว่า ได้ให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช. สอท.) ทำหนังสือไปยังต้นสังกัด พร้อมประสานนายทหารพระธรรมนูญ ให้นำตัว ‘จ่าสิบโท’ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนภายใน 7 วัน

และยังมีการออกหมายเรียก ภรรยาของจ่าสิบโทรายนี้ ซึ่งมีข้อมูลเบื้องต้นว่า เป็นพยาบาล อาจเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่หลุดออกมาจากแอปพลิเคชั่น ‘หมอพร้อม’ ที่คนไทยทั่วประเทศใช้ในช่วงสถานการณ์ของโควิด-19

ระหว่างที่ยังไม่ปรากฏตัว ‘9Near’ แต่ในวันที่ 10 เม.ย. 66 กองทัพบก ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับคดีแฮกเกอร์ ระบุชื่อ ‘จ่าสิบโทเขมรัฐ’ สถานภาพ ขาดราชการตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 66 หน่วยต้นสังกัดมีคำสั่งพักราชการ ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. 66 และให้เร่งติดตามตัวในทุกช่องทาง

[‘จ่าสิบโท’ มอบตัว – ขอโทษทำตื่นตระหนก]

ในที่สุด เช้าวันนี้ ‘จ่าสิบโทเขมรัฐ’ ซึ่งไม่ได้แต่งกายเครื่องแบบทหาร ได้เข้ามอบตัว ที่ บช.สอท. พร้อมกับนายทหารพระธรรมนูญ และไม่นานนัก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก็เดินทางมาร่วมสอบปากคำ ‘จ่าสิบโทเขมรัฐ’ ด้วย พร้อมเปิดเผยเบื้องต้นว่า เรื่องนี้เป็นเหตุผลส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างแน่นอน ส่วนเรื่อง ‘ข้อมูล 55 ล้านรายชื่อ’ เบื้องต้นทราบว่า ยังไม่ได้ถูกนำไปขาย หรือนำใช้ เพียงแค่นำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงเรื่องความเสียหาย

หลังใช้เวลาสอบปากคำนานเกือบ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน ได้คุมตัว ‘จ่าสิบโทเขมรัฐ’ ไปค้นบ้านพักเพื่อตรวจสอบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ในการกระทำความผิด ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.วรวัฒน์ ผบช.สอท. และ รมว.ชัยวุฒิ ก็ได้ออกมาแถลงข่าว โดยสรุป ดังนี้

พล.ต.ท.วรวัฒน์ ผบช.สอท. : เบื้องต้นเขาบอกว่า เขาไม่ได้แฮก แต่ซื้อข้อมูลมาแล้วเขาก็ทดลองว่า ตัวเขามีรายชื่อที่เว็บ BreachForums หรือไม่ เขาก็ลองดูและมีจริง ก็เลยติดต่อซื้อมา แล้วเขาก็เอามาโพสต์ครั้งแรกมันไม่ปัง เขาจบเทคโนโลยีสารสนเทศ เขาเลยเอา รายชื่อที่เขาซื้อมาซึ่งมี อินฟลูเอนเซอร์ที่รู้จัก ทีนี้ปังใหญ่เลย เขาก็ตกใจเหมือนกัน แต่เขารับว่าเขาเป็นคนที่ส่งข้อความไปเอง

“เขาบอกว่าเขาซื้อมา 8 ล้านเรคคอร์ด 8,000 บาท ซื้อจาก BreachForums เขาบอกว่าเขาอยากเรียนรู้ แต่เดี๋ยวเขายินยอมที่จะให้ นายทหารพระธรรมนูญก็ยินยอมไปค้นที่บ้านพัก เรากำลังจะไปค้นที่บ้านพักแล้วกลับมาอีกที เขารับและหลักฐานที่เขายืนยันกับหลักฐานที่เราออกหมายจับสอดคล้องกัน” ผบช.สอท.กล่าว

พล.ต.ท.วรวัฒน์ ตอบเกี่ยวกับถึงข้อสงสัยของภรรยาจ่าสิบโทซึ่งเป็นพยาบาลว่า ไม่มีหน้าที่ดูแลระบบ มีหน้าที่ ขึ้นวอร์ด ดูแลคนไข้ โดยทางจ่าสิบโทเขมรัฐ รับว่าทำเพียงคนเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จ่าสิบโทเขมรัฐซื้อข้อมูลดังกล่าวมาทำอะไร พล.ต.ท.วรวัฒน์ ระบุ “เขาบอกว่าเขาซื้อมาเพื่อเขาอยากดัง เขาอยากลองๆ ว่า ซื้อมาแล้วจริงไหม” เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า 55 ล้านรายชื่อไม่เป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ ตอบว่า “เขาบอกอย่างนั้นนะแต่ เราต้องตรวจสอบยืนยันกับพยานหลักฐานที่ได้อีกที” 

ด้าน รมว.ชัยวุฒิ กล่าวเสริมว่า เท่าที่ทราบข้อมูลจากผู้ต้องหา เขาก็บอกว่าข้อมูลที่ได้ไม่ใช่จากการแฮก แต่ไปซื้อข้อมูลมาจากดาร์กเว็บ เว็บของพวกแฮกเกอร์ ก็มีการซื้อขายข้อมูล มีการทำกฎหมายกันอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วเว็บ BreachForums ถูกปิดไปแล้ว แต่ก็จะมีดาร์กเว็บพวกนี้ที่แฮกเกอร์เขามาเจอกัน มาขายข้อมูลมาแลกเปลี่ยนธุรกรรมต่างๆ ซึ่งเราก็เฝ้าระวังกันอยู่ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รั่วไหลไปไหน ยังไม่ได้ไปขาย ยังไม่ได้เอาไปใช้อะไร เขาอ้างว่าทำลายไปแล้วด้วย มีโพสต์ไปแล้วบางส่วน ข้อมูลเป็นล้านๆ ชื่อที่เขาบอก เราจะไปตรวจสอบดู ซึ่งเป็นคำให้การเบื้องต้น รอทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวซักถามต่อว่า ก่อนหน้านี้จ่าสิบโทเขมรัฐ หลบหนีไปอยู่ที่ไหน พล.ต.ท.วรวัฒน์ เผย เขาบอกว่า ขาปิดมือถือแล้วไปหลายที่ ตระเวนไปทั่วเลย เพราะตำรวจซุ่มดูในเป้าหมายที่เป็นบุคคลใกล้ชิด และเขายืนยันว่าหนีคนเดียว

จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว จ่าสิบโทเขมรัฐ กลับเข้ามาที่บช.สอท. และมีโอกาสได้พูดกับสื่อมวลชนสั้นๆ โดย จ่าสิบโทเขมรัฐ ได้ยกมือไหว้ ขอโทษประชาชนคนไทยที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์นี้ ยืนยันว่า ข้อมูลทั้งหมดไม่ได้นำไปเผยแพร่ที่ไหน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอให้การกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น

[ทบ. ขออภัยกำลังพลทำผิด เร่งช่วยตำรวจหาหลักฐาน]

ขณะที่ ทาง ‘กองทัพบก’ ได้เปิดเผยล่าสุดว่า ที่ผ่านมา กองทัพบกโดยหน่วยต้นสังกัด ได้ช่วยติดตามตัวผู้ต้องหามาโดยตลอดการมอบตัวดังกล่าว หน่วยต้นสังกัดได้รับการประสานจากบุคคลใกล้ชิดของกำลังพล จึงได้มอบให้ นายทหารพระธรรมนูญ จากกรมการขนส่งทหารบก เป็นผู้นำไปมอบตัว พร้อมร่วมรับฟังการสอบสวน รวมทั้งได้ให้ความร่วมมือนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจค้นบ้านพัก เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐาน และจะยังคงอำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกด้าน เพื่อสอบสวนให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดี การนำผู้ต้องหาเข้ามอบตัวทำให้คดีเริ่มปรากฎข้อเท็จจริงมากขึ้น และกองทัพบกได้มอบให้หน่วยต้นสังกัด เร่งรัดติดตามความคืบหน้าในทางคดี เพื่อนำผลไปพิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป หลังจากได้สั่งพักราชการไปแล้ว ตั้งแต่ 7 เม.ย. 66

เหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นการกระทำความผิดส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวขอโทษต่อสังคม ถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และอยู่ในระหว่างการพิจารณาโทษจากทางราชการ

“อย่างไรก็ตาม กองทัพบกใคร่ขออภัยต่อประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบอีกครั้ง ที่มีกำลังพลไปกระทำความผิดในครั้งนี้ เชื่อว่าการนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และสืบค้นมูลเหตุของการกระทำผิดจะช่วยทำให้สังคมเกิดความสบายใจในที่สุด”

[‘โรม’ ชี้ คุมตัวแฮกเกอร์ 9near ผิดสังเกต-แนะสธ. ชี้แจงบ้าง]  

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณีนี้ว่า ต้องยอมรับ เรื่องนี้มีความแปลกประหลาด แปลกที่หนึ่ง คือทั้งที่เจ้าหน้าที่รู้อยู่แล้วว่า ใครเป็นแฮกเกอร์ ออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 66 ปัจจุบันวันที่ 12 เม.ย.66 ใช้เวลานานถึง 9 วันในการควบคุมตัว

ส่วนแปลกที่สอง คือมีความพยายามปกป้องไม่ให้มีการเข้าถึงจ่าสิบโทคนดังกล่าว เห็นได้จากตอนควบคุมตัว สัญญะที่สื่อออกมาค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้สื่อมวลชนซักถาม ราวกับจะกีดกันเพราะเกรงว่าแฮกเกอร์อาจซัดทอดไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงขอเรียกร้องให้มีการขยายผลให้เกิดความชัดเจน อย่าให้จบแค่การควบคุมตัว เพราะหากสุดท้ายจับคนเบื้องหลังไม่ได้ ได้แค่คนตัวเล็กตัวน้อย ข้อมูลของประชาชนก็อาจหลุดได้อีก

“ผมค่อนข้างเชื่อว่า เรื่องนี้มีบางคนอยู่เบื้องหลัง อาจเป็นผู้บังคับบัญชา บุคคลระดับสูงในกองทัพ เป็นเหตุผลว่าทำไมการควบคุมตัวแฮกเกอร์คนนี้ ถึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก” นายรังสิมันต์ กล่าว

ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงกระทรวงสาธารณสุข เงียบมากในเรื่องนี้ ทั้งที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าข้อมูลหลุดมาจากแอปหมอพร้อม ควรออกมาให้ความมั่นใจแก่ประชาชนหรือไม่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

ส่วนกรณีนายชัยวุฒิ รมว.ดีอีเอส ระบุว่า กรณีแฮกเกอร์ 9near เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องการเมือง แต่มีกลุ่มการเมืองบางฝ่าย นำมาดิสเครดิตนั้น รังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องพูดกันตรงๆ ว่า ถ้าหน่วยงานของรัฐทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี จับกุมแฮกเกอร์ได้ตั้งแต่วันแรก ป้องกันไม่ให้มีข้อมูลรั่วไหล คงไม่มีใครไปดิสเครดิตได้ ปัญหาก็คือความล้มเหลวของดีอี ชัยวุฒิเป็นรัฐมนตรีมาตั้งนาน ทำให้ข้อมูลของประชาชนปลอดภัยขึ้นบ้างหรือไม่ ทุกวันนี้ประชาชนเจอปัญหาทั้งข้อมูลหลุด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สูญเสียเงินจากการถูกหลอกลวง กระทรวงฯ ทำอะไรบ้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

สรุป มือแฮกเกอร์ ‘9Near’ เป็นทหาร ยังไม่ยืนยันข้อมูลคนไทยหลุดจากไหน

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า