Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ความคืบหน้ากรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “รับน้องสร้างสรรค์ระดับโคตรมหากาฬ” นำข้อมูลจากผู้ปกครองนักศึกษามหาวิทยาลัย ในจังหวัดเชียงใหม่ออกมาเปิดเผยว่าลูกที่เพิ่งเข้าเรียนชั้นปีที่ 1 ถูกรุ่นพี่รับน้องด้วยการใช้ความรุนแรงทำให้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งถูกฟาดหลังจนเป็นรอยฟกช้ำ ได้ความกระทบกระเทือนจิตใจ

หลังจากนั้นมีผู้ปกครองรายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยดังกล่าวคือ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งลูกชายอายุ18ปี เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ถูกรับน้องรุนแรงป่าเถื่อนเช่นกัน โดยลูกชายสอบได้เข้าเรียนคณะประเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ถูกรุ่นพี่คณะรับน้องคณะทั้งที่หมดช่วงรับน้องของมหาวิทยาลัยไปแล้ว ได้รับบาดเจ็บหลายครั้งจากการถูกทำร้าย จนครั้งล่าสุดวันที่ 4 ต.ค. ถูกทำร้ายระหว่างการรับน้องจนทนไม่ไหวและแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ จึงนำตัวเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ ในวันที่ 5 ต.ค.62 พร้อมยื่นใบลาออกจากมหาวิทยาลัย

วันที่ 4 พ.ย. ความคืบหน้าเรื่องคดีพ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เรือนแก้ว รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.แม่โจ้ เปิดเผยว่า รองอธิการบดี ม.แม่โจ้ ได้เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ระบุว่าขณะนี้ทราบตัวกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุแล้ว มีประมาณ 20 คน แต่เนื่องจากช่วงนี้ปิดเทอม ทางมหาวิทยาลัยขอเวลา 3 วัน จะนำตัวรุ่นพี่ทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนปากคำ และ หากพบว่ารุ่นพี่คนไหนมีความผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนทางมหาวิทยาลัยก็จะมีบทลงโทษวินัยนักศึกษาด้วยเช่นกัน เนื่องจากถือเป็นการจัดกิจกรรมที่ฝ่าฝืนนโยบายของมหาวิทยาลัย

ส่วนกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ล่าสุดผู้เสียหายยืนยันตัวบุคคลชัดเจนแล้ว 2 คน คือ นายโจ้ ปี 2 และ นายยุทธ ปี 3 โดยทางตำรวจจะสอบสวนทั้งหมด หากพบว่ารุ่นพี่คนไหนลงมือทำร้ายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตำรวจจะต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์มายืนยัน เพื่อดูว่าจะแจ้งข้อหาหนักเบาอย่างไร แต่หากผลตรวจระบุบาดเจ็บไม่สาหัส จะถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ

ขณะที่วันนี้รุ่นน้องผู้เสียหาย เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนเล่าว่า ในกิจกรรมรับน้อง รุ่นพี่ให้ก้มหน้าและชกต่อยเข้าที่แผ่นกลังหลายครั้ง โดยให้เหตุผลของการทำร้ายร่างกายว่าฝึกความอดทน เหตุที่เกิดขึ้นยืนยันจะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันจะเข้าเรียนละเมิดสิทธิด้วยการทำร้ายร่างกาย และยืนยันว่าได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ภาพเมื่อวันที่ 3 พ.ย. นำตำรวจชี้จุดรับน้อง

อีกด้านหนึ่งแหล่งข่าวที่เป็นผู้ปกครองของหนึ่งในนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ถูกรุ่นพี่รับน้องด้วยความรุนแรงเช่นกัน เปิดเผยว่า ขอยืนยันว่าเป็นความจริง โดยนอกจากน้องนักศึกษาชายที่แจ้งความแล้ว ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นกันอีกคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายโดยอ้างว่าเป็นกิจกรรมรับน้อง ทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่กระดูกสันหลังจนเดินไม่ได้และต้องนั่งรถเข็นในการไปเรียนระหว่างการรักษาตัว เท่าที่ทราบรุ่นพี่ที่ก่อเหตุถูกทางมหาวิทยาลัยลงโทษแล้ว แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าลงโทษอย่างไร เพราะเหมือนทางมหาวิทยาลัยพยายามปิดเงียบเรื่องนี้

ส่วนกรณีที่ระบุว่ามีนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 1 ถูกรับน้องจนขาหักจากการถูกรุ่นพี่ใช้ไม้ตีนั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วกรณีนี้น้องถูกสุนัขกัดที่ขาทำให้แทบจะเดินไม่ได้ แต่ทางรุ่นพี่คณะยังคงบังคับให้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องเหมือนคนปกติ ทั้งๆ ที่ควรจะได้รับการยกเว้นให้พักรักษาตัวก่อน ซึ่งจากการที่บาดเจ็บร้ายแรงและยังถูกบังคับให้ต้องมาร่วมรับน้องอย่างรุนแรงอีก ทำให้อาจจะเกิดความเข้าใจว่าเป็นผลมาจากการถูกรับน้องจนขาหัก ต้องให้ความเป็นธรรมรุ่นพี่ในเรื่องนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามถือว่ารุ่นพี่ทำไม่ถูกต้องและสมควรต้องถูกลงโทษ เชื่อว่ายังมีอีกหลายกรณีที่ยังไม่ได้รับเปิดเผย ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวไม่ทราบว่ามหาวิทยาลัยมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ แต่มองว่าควรจะต้องมีการป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากมหาวิทยาลัยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรจะต้องนำผู้ที่ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ และทำทุกอย่างให้โปร่งใส

รุ่นพี่ยืนยันไม่ได้ทำร้าย

ต่อมาช่วงบ่าย นายยุทธ รุ่นพี่ปี 3 เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่โจ้ โดยให้การภาคเสธ ยอมรับว่าอยู่ในกลุ่มรุ่นพี่ในกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายรุ่นน้อง ขณะที่ชุดสืบสวนได้เชิญตัวนายโจ้ รุ่นพี่ปี 2 ที่ทราบว่าเพิ่งไปบวชอยู่ที่วัดโมงค์ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ มาสอบสวนด้วยเช่นกัน

หนึ่งในรุ่นพี่ อ้างว่า ไม่ได้ลงมือทำร้ายน้อง คืนเกิดเหตุเป็นการรับน้องรวมทุกคณะ มีรุ่น รุ่นพี่พารุ่นน้องของตัวเองไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในมหาวิทยาลัยในตอนช่วงกลางคืน ซึ่งมีการเดินเรียกแถวกันไป โดยมีรุ่นพี่หลายร้อยคนเดินตามไปด้วย อาจเป็นไปได้ว่ารุ่นพี่คณะอื่นเป็นคนทำร้าย เพราะน้องผู้เสียหายหน้าตาดีแถมยังเป็นเดือนคณะ อาจมีรุ่นพี่นอกคณะหมั่นไส้ ลงมือทำร้ายได้ โดยยืนยันว่าพวกรุ่นพี่รักรุ่นน้องทุกคน

ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้

ขณะเดียวกัน ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนและพูดคุยกับผู้เสียหาย พร้อมให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อมวลชน ว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้เรียกกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลหมดทั้งห้องเรียนที่เกิดปัญหา ประมาณ 50 คน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและหาตัวผู้ที่ก่อเหตุ เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่าการรับน้องเกิดขึ้นในหรือนอกมหาวิทยาลัย แต่ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยมีกฏระเบียบของการรับน้องที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยการรับน้องต้องเป็นการรับน้องสร้างสรรค์และต้องมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่วินัยร่วมสังเกตการณ์ทุกครั้ง แต่ยอมรับว่าอาจมีบางครั้งที่มีรุ่นพี่ฝ่าฝืนจัดรับน้องที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของมหาวิทยาลัย

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยืนยันว่า หากพบการกระทำความผิดจริง ก็พร้อมให้ความยุติธรรมและให้ทางตำรวจดำเนินเนินคดีไปตามกฎหมาย ส่วนบทลงโทษภายในมหาวิทยาลัย หากมีความผิดก็จะมีบทลงโทษตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน พักการเรียน ให้ออก ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นยังสรุปไม่ได้ในตอนนี้ ต้องรอข้อเท็จจริงและทางมหาวิทยาลัยจะเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในวันพุธที่ 6 พ.ย. นี้

ล่าสุด พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เรือนแก้ว รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.แม่โจ้ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า แม้รุ่นพี่ที่เข้ามาให้ปากคำจะปฏิเสธ แต่ทางตำรวจจะเรียกนักศึกษาทั้งหมดที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง 23 คน มาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาคนลงมือให้ได้ ซึ่งคดีนี้ผลตรวจแพทย์ออกมาแล้ว พบว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บไม่ถึงสาหัส ใช้เวลารักษาตัวถึง 7 วัน คดีนี้หากพบผู้กระทำความผิด พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบปรับที่โรงพักได้ มาตรา 391 “ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ “

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในวันนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัด เดินทางเข้าร่วมฟังการเจรจาระหว่างผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้กับผู้เสียหาย พร้อมระบุว่าหากผู้เสียหายไม่ยินยอมและมีคดีสู่ศาล ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องขอเงินเยียวยาตาม พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ได้ ซึ่งยุติธรรมจังหวัดจะเข้าช่วยเหลือให้ทันที

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า