อนาคตใหม่แถลงคลิปซื้อตัวเพิ่ม ตั้งชื่อ “แม่ศรีนวลชี้ช่องรวย”

ประเสริฐ ศรนุวัฒน์ ส.ส.อดีตสังกัดพรรคอนาคตใหม่แถลงเผยแพร่คลิป “แม่ศรีนวลชี้ช่องรวย”

วันที่ 26 ก.พ. 2563 ที่รัฐสภา ประเสริฐ ศรนุวัฒน์ ส.ส.อดีตสังกัดพรรคอนาคตใหม่ เผยแพร่คลิปอ้างเป็นเสียงศรีนวล บุญลือ ส.ส.ภูมิใจไทย พูดคุยกับตน

คลิปเสียงเริ่มจากการสอบถามสารทุกข์สุขดิบ ตอนหนึ่งของคลิปมีการเอ่ยชื่อส.ส.พรรคภูมิใจไทยชัดเจน “ผมหรอครับ แม่ศรีนวลจะมาชวนผมไปอยู่ด้วยเหรอครับ?” ก่อนฝ่ายหนึ่งตอบกลับเป็นภาษาถิ่นเหนือว่า “ค่ะ ยังรักยังเป็นห่วงอยู่ มาอยู่ด้วยกันไหม?”

ขณะที่เสียงที่อ้างว่าเป็นส.ส.ประเสริฐพงษ์ กล่าวในทำนองว่าครั้งนี้ไม่ใช่การเชิญชวนครั้งแรก “มาชวนผมไปอยู่ด้วยอีกแล้ว”

ตอนหนึ่งของบทสนทนากล่าวสอบถามถึงผลประโยชน์แลกเปลี่ยน ขณะที่เสียงฝ่ายหญิงกล่าวว่า “อันนี้พูดกันถ้าว่าโอเค จะมาอยู่ด้วย ก็จะพาไปพบผู้ใหญ่ แล้วก็ แล้วแต่ว่าจะคุยกันยังไงนะ” แต่เมื่ออีกฝ่ายสอบถามว่ามีมาตรฐานหรือไม่ เธอตอบว่า “ไม่รู้ ลองไปคุยกับผู้ใหญ่เอง”

ท้ายสนทนาเสียงฝ่ายหญิงกล่าวว่า “คือเป็นเงินเป็นอะไร เพราะเราเป็นส.ส. เราต้องไปลงพื้นที่เพื่อพัฒนาให้ประชาชน”

ส่วนหนึ่งของบทสนทนายังมีการกล่าวพาดพิงถึง “ส.ส.เม่น” ว่าเอา “มาด้วย” อย่างไรก็ดีในการแถลงข่าวครั้งนี้ “เม่น ไทยแลนด์” ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.อดีตสังกัดพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงด้วย

ด้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พฤติกรรมดูด ซื้อ ส.ส. มีตั้งแต่วันแรกของการประชุมสภาและมีมาเรื่อยๆ วันนี้ก็ยังมีอยู่ เรามีอีกหลายคลิป แต่ก็ยังลังเลอยู่ว่าจะเปิดหรือไม่เพราะเกรงเรื่องสวัสดิภาพความปลอดภัยของผู้เปิดเผย อย่างกรณี น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ล่าสุดก็เพิ่งไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพราะโดนข่มขู่คุกคามตลอดตั้งแต่มีการออกมาเปิดเผย ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมากล่าวหาว่าพฤติกรรม ส.ส.อัดคลิปมาเปิดเผยนั้นเป็นพฤติกรรมกุ๊ย จะเป็นกุ๊ยหรือไม่ตนว่าประชาชนตัดสินได้ แต่ถามว่าแบบไหนกันแน่ที่ทำให้การเมืองไทยเสียหาย ทำให้สภาผู้แทนราษฎรเเหมือนตลาดสด ซื้อขายตัวในที่ประชุมสภา ขณะที่ยังมีการประชุมกันอยุ่ ในห้องอาหาร ในห้องกาแฟ ใต้ถุนสภา แบบนี้ต่างหากที่เป็นพฤติกรรมไม่ดีสำหรับการเมืองไทย

น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ แจ้งความถูกข่มขู่

.
“เรายังมีอีกหลายคลิป คุณอนุทินจะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร แต่ตนคิดว่าท่านเองก็รู้แก่ใจ หุ้นส่วนพรรคท่านก็รู้แก่ใจว่าทำอะไร หลักฐานชัดไม่ชัดก็ว่ากันไป แต่ที่ตนอยากพูดกับ ส.ส. กับสื่อมวลชน กับประชาชนว่า หากมีการเสนอแบบนี้ ช่วยตั้งคำถามดังๆ ว่า เอาเงินมาจากไหน และถ้ายอมลงทุนขนาดนี้ นั่นหมายความว่า วันข้างหน้าจะใช้อำนาจโดยมิชอบเอาคืนใช่หรือไม่ คงไม่ลงทุนฟรีๆ แน่นนอน การอ้างว่าไปอยู่กับ ส.ส. รัฐบาล จะบริหารงานพื้นที่สะดวกนั้น ถ้าอ้างเหตุผลแบบนี้ ประเทศไทยคงไม่ต้องมีฝ่ายค้านแล้ว ไปอยู่รัฐบาลกันทั้งหมด แล้วถามว่าเอางบประมาณอะไรไปทำงาน ภาษีประชาชนหรือไม่ที่ใช้ในการทำงานเอื้อประโยชน์พื้นที่นั้น”
.
นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนยืนยันว่าตั้งแต่พรรคยังไม่ถูกยุบ เราได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว และจากนี้เพื่อน ส.ส.ที่เหลือจะได้ดำเนินการต่อไป ส.ส.จะมีที่อยู่แน่นนอน ทั้งนี้ ตนอยากเรียนว่า ถึงตอนนี้ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎรเหลืออยู่น้อยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเอาตัวรอดได้อีกกี่เดือนไม่รู้ นายอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถ้าอยากเป็นในสมัยนี้ อยากให้เริ่มต้นอย่างสง่างาม อย่าเริ่มด้วยวิธีแบบนี้ ท่านเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เริ่มต้นแบบนี้ไม่สง่างามแน่นอน

ทั้้งนี้ สำหรับเพื่อน ส.ส. ตนไม่มีประโยชน์อะไรไปแลก ทางพรรคก็ไม่มีเงินเดือน ส.ส.ให้ ตรงกันข้ามเราขอรับบริจาคจากเพื่อน ส.ส. ด้วย เพราะถ้าหากบริหารพรรคให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จ่ายเงินทั้งหมดก็สามารถทำได้ แต่ไม่ทำ เพราะไม่อยากให้ ส.ส. เป็นลูกน้องนายธนาธร ดังนั้น ข้ออ้างที่ว่าย้ายไปพรรคนั้นแล้วจะทำงานสะดวกสบายขึ้น ตนจะรอดูว่าคุณจะไม่ได้เป็น ส.ส.แต่จะเป็นลูกน้องของบริษัทของพรรคนั้นหรือไม่ และที่บอกว่าอยู่นี้ไม่มีบทบาท ก็จะรอดูว่าไปอยู่พรรคอื่นมีบทบาทหรือไม่
.
สำหรับการเริ่มต้นพรรคใหม่นั้น ตนไม่ได้ไปยุ่ง เป็นเรื่องของเพื่อน ส.ส. ที่เหลือ และเท่าที่คุยกัน เขาบอกว่ายังหวัง 50 คนขึ้นไป พยายามจับมือกันให้แน่น ร่วมต่อสู้กันทุกวัน ที่ตนมาสภาทุกวัน นอกจากให้กำลังใจแล้ว ก็มาลุ้นว่าจะมีติดต่อซื้อตัว จะมีใครเอาคลิปมาให้ดูอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องพรรคใหม่อยู่ที่ ส.ส. เพื่อนสมาชิกที่เหลือจะตัดสินใจ ปรึกษาหารือกัน ให้ ส.ส.ที่เหลือว่ากัน