ร.ร.สภาราชินี จ.ตรัง แจงพาเหรดกีฬาสีล้อการเมือง กลั่นกรองก่อนอนุญาตแล้ว

“สภาราชินี” ร.ร.มัธยมศึกษาประจำ จ.ตรัง แสดงออกเกี่ยวกับการเมือง ในกิจกรรมเดินพาเหรดกีฬาสีประจำปี 2562 ขณะที่ ทางโรงเรียน ระบุ ได้มีการตรวจสอบกลั่นกรองก่อนอนุญาตแล้ว

วันที่ 16 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ร.ร.สภาราชินี โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาประจำ จ.ตรัง ได้จัดกิจกรรมเดินพาเหรดกีฬาสีประจำปี 2562 โดยมีการแสดงออกเกี่ยวกับการเมืองในรูปแบบต่างๆ เช่น การทำเป็นหุ่น หรือ เขียนเป็นป้ายผ้า ด้วยรูปแบบ หรือข้อความที่อ่านแล้วน่าสนใจ อาทิ ขบวนนำมีป้ายข้อความ “CONGRATULATION Mr.Prayut” ตามด้วยป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “5 ปีที่ผ่านมา ผมว่ายังไม่พอ ผมเลยจะขอทำต่ออีก 4 ปี” และการปั้นเป็นรูปหน้าคล้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกับข้อความว่า “เรารักลุงตู๋” และมีหลักกิโลเมตรไปวางไว้ข้างๆ ด้วยข้อความว่า “กม.44” พร้อมมีกระถางธูปและก้อนอิฐวางไว้หน้ารูปปั้นหน้าคล้าย พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนป้ายข้อความว่า “ปีนี้เอาแค่หัวส่วนตัวเอาไว้ปีหน้า และหนูขอสัญญาว่า…” “หนูจะเป็นเด็กดี”

นอกจากนี้ ขบวนสีเหลืองยังมี ชูป้ายรูปหีบเลือกตั้งโดยมีข้อความบนหีบว่า “พปชร” ตามด้วยป้ายรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับถุงเงิน มีข้อความว่า “เพื่อพวกพ้อง” ส่วนป้ายที่ตามมามีข้อความว่า “เทียนไขมันถูกค่าไฟมันแพงน้ำพักน้ำแรงภาษีประชาชน” “ฉีดน้ำกันฝุ่นอบอุ่นทั่วกัน ชาวกรุงโศกศัลย์หมอกควันไม่จาง” และตามมาด้วยขบวนสีเขียวนักเรียนเดินถือป้ายงดใช้เสียงและใช้เทปกาวปิดปากตัวเอง ตามด้วยป้ายข้อความ “โตไปไม่โกง มีไว้สอนใคร” “ม.44 ครอบจักรวาล” และมีรูปปั้นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตามด้วยข้อความ “จะไม่ล้อแล้วกั๊บ!!!”

ส่วนอีกขบวนสีแดงจะมีป้ายข้อความ “สวัสดีเผด็จการประชาธิปไตย” “สอสงสอๆหรือจะสู้สอวอได้ไง” “130 ล้านเปลี่ยนคนเป็นทาส” “สุดท้ายก็ไว้เป็นที่วนรถ” ด้านบนมีรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและนกพิราบ “68 ล้าน หรือจะสู้ 250” ซึ่งนักเรียน ร.ร.สภาราชินี ได้แสดงออกเกี่ยวกับการเมืองในรูปแบบต่างๆ ในกิจกรรมเดินพาเหรดกีฬาสีประจำปีสร้างสีสันและให้ความสนใจกับประชาชนสองข้างทางเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการจัดกิจกรรมการแสดงออกเกี่ยวกับการเมืองในครั้งนี้  ประธานสภานักเรียน ได้นำรูปแบบและข้อความมาเสนอต่อฝ่ายปกครองแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนตรวจสอบกลั่นกรองแล้วเห็นว่ามีลักษณะหรือเนื้อหาที่มิได้ส่อไปถึงความรุนแรงใดๆ จึงอนุญาตให้ดำเนินการ โดยเข้าใจถึงความคิดของนักเรียนที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง แต่ทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตที่เหมาะสม ซึ่งหลังจากที่มีการนำภาพการแสดงออกทางเมืองดังกล่าวไปเสนอผ่านโลกออนไลน์ แม้อาจจะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันบ้าง แต่ทางผู้ใหญ่ก็เข้าใจ ไม่ได้ตำหนิอะไรต่อทางนักเรียน หรือโรงเรียน เนื่องจากทุกอย่างได้ดำเนินการอย่างรอบคอบหรือรอบด้านแล้ว