Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพร้อมเก็บหลักฐาน หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกทุบเบ้าเก็บศพ ก่อนจะเจาะกะโหลกศพเด็ก 6 ขวบ หลบหนีไป คาดเป็นฝีมือจอมขมังเวทย์นำไปทำคุณไสย

วันที่ 3 มิ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางอุไรรัตน์ ชาวอุดรธานี เข้าแจ้งความว่า ศพเด็กชาย อายุ 6 ปี 9 เดือน หลานชาย ที่เสียชีวิตจากจมน้ำ เมื่อเดือนมกราคม 2562 ก่อนจะนำศพไปบรรจุไว้ในเบ้าปูนข้างเมรุวัดส่งเสริมธรรม ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อรอให้ครบ 1 ปี ตามประเพณีอีสาน และรอแม่ที่อยู่ในเรือนจำพ้นโทษออกมาในเดือนสิงหาคมนี้ จะทำพิธีฌาปนกิจ แต่มาถูกคนร้ายทุบเบ้าเจาะกะโหลกหน้าผาก เชื่อเป็นแก๊งคุณไสยมนต์ดำ เอาไปทำปั้นเหน่ง


วานนี้ (2 มิ.ย. 62) เวลา 14.00 น.  พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี สภ.ห้วยหลวง สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ บริเวณเบ้าปูนเก็บศพของหลานชายนางอุไรรัตน์พร้อมกับสอบปากคำพยานบุคคล พยานแวดล้อม และวัตถุพยาน

และเข้าค้นภายในกุฏิพระลูกวัดของวัดป่าส่งเสริมธรรม เนื่องจากุฎิห่างจากเมรุและจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยกุฎิมีลักษณะยกพื้นสูงซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบค้อนปอนด์ เลื่อย ชะแลง สว่านไฟฟ้า ค้อนตอกตะปู ซึ่งทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ก่อสร้าง ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บภาพถ่ายไว้เป็นหลักฐาน และจะทำการตรวจสอบดีเอ็นเออีกครั้ง

นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นกุฎิปูนชั้นเดียวของพระลูกวัดของวัดป่าส่งเสริมธรรม พบว่าภายในกถุฏิ มีพระเครื่องจำนวนมาก ลูกประคำ กระปุกพลาสติกบรรจุของเหลวคล้ายไขมันสีขุ่นข้น วางอยู่ในห้อง 2 กระปุก ซึ่งพระรูปวัดอ้างว่าเป็นยานวดคลายกล้ามเนื้อและแก้ปวด มีเพื่อนให้มานานแล้ว แต่ไม่พบเศษกะโหลกหน้าผากของหลานชายนางอุไรรัตน์แต่อย่างใด

 

ทั้งนี้พระลูกวัดรูปนี้ มีการสักลายบริเวณแขน ขา และลำตัว สวมลูกประคำที่คอและข้อมือ เล่าว่า ก่อนบวชได้มาอาศัยอยู่วัดนี้ และไปบวชที่ จ.ชัยภูมิ ก่อนจะกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าส่งเสริมธรรมได้ 3 พรรษา โดยจำวัดอยู่ที่กุฎิปูนชั้นเดียว แต่ต่อมาได้ชวนชาวบ้านที่มีฝีมือช่างมาปรับปรุงกุฎิเก่าใกล้กัน ยกพื้นสูง แต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย จึงได้มาจำวัดอยู่บนกุฎินี้แทน ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ มีพิธีจัดงานเผาศพที่วัดแห่งนี้ 2 งาน ติดต่อกัน ตอนนั้นมีคนจำนวนมากที่เดินทางมาร่วมงานเผาศพ น่าจะเป็นช่วงนั้นหรือไม่ โดยอาตมาบริสุทธิ์ใจ ให้ความร่วมมือทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ

พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้มาพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ชุดสืบสวน สภ.ห้วยหลวง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ ได้บางส่วน ทั้งเก็บดีเอ็นเอที่จุดเกิดเหตุ และวัตถุต้องสงสัย โดยทาง ผวจ.อุดรธานี และ ผบช.ภ.4 กำชับให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายในเร็ว ๆ นี้

การเจาะกะโหลกไปทำปั้นเหน่ง คนร้ายที่เอาไป น่าจะเหมือนเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ที่มีเหตุลักศพ และเจาะกะโหลกศพ 2 ราย ที่จับกุมคนร้ายได้ ในพื้นที่ อ.กุมภวาปี ผู้ต้องหา 4 ราย , อ.ประจักษ์ศิลปาคม ผู้ต้องหา 4 ราย และ อ.น้ำโสม ผู้ต้องหา 3 ราย ตอนนี้กำลังเช็กว่าพ้นโทษออกจากเรือนจำหรือยัง แต่คาดว่าน่าจะออกมาแล้ว เพราะคำพิพากษาศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน จึงสั่งการให้ตรวจสอบกลุ่มบุคคลเหล่านี้อีกครั้ง

พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ฯ ยังกล่าวอีกว่า การตรวจค้นกุฏิพระลูกวัดในวัดป่าส่งเสริมธรรม วัดที่เกิดเหตุว่า เป็นเรื่องของงานสืบสวนที่ต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน และวัตถุพยานที่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุดก่อน อีกทั้งพระรูปนี้ มีการรื้อและก่อสร้างกุฏิใหม่ มีเครื่องมือช่างต่าง ๆ ที่จะเก็บเป็นวัตถุพยานได้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งบางอย่างที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บไปจากจุดเกิดเหตุ เช่น กระเป๋าที่ทางญาติของศพบอกว่าใส่ไปในเบ้าเก็บศพด้วย แต่ว่าหลังเกิดเหตุกระเป๋าออกมาอยู่นอกเบ้าเก็บศพ จึงต้องนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ หลังจากนั้นจะทราบว่ามีดีเอ็นเอของใครบ้างที่กระเป๋าใบนี้

ส่วนการจะเปิดเบ้าเก็บศพเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง เรื่องนี้ถ้ามีวัตถุพยานที่สามารถยืนยันคนร้ายได้แล้ว ก็คงไม่ทำ เพราะหากเปิดอีกจะทำให้ญาติสะเทือนจิตใจเพิ่มขึ้น แต่ว่าหากจำเป็นต้องเปิด คงต้องขอกับทางญาติของศพให้มาทำการเปิดอีกครั้ง โดยเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกสถานีในพื้น ตรวจสอบวัด สุสาน ป่าช้าทุกแห่ง ว่ามีกลุ่มคนร้ายไปก่อเหตุเช่นนี้หรือไม่ เพราะเกรงจะเกิดเหตุเหมือนกับปี 2558 อีกครั้ง ที่มีหลายกลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุ


โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา เวลา
19.30 . ...เอกชัย อักษร รอง สว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปทำการทุบทำลายเบ้าเก็บศพ บริเวณข้างเมรุเผาศพในวัดส่งเสริมธรรม ที่สุสานป่าช้ามูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี บ้านปากดง .นิคมสงเคราะห์ .เมือง .อุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน

ในที่เกิดเหตุเป็นเบ้าปูนสำหรับเก็บศพชั่วคราว รูปทรงกลมยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งเป็นที่เก็บศพเด็กชาย อายุ 6 ปี 9 เดือน ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ โดยมี ..อุไรรัตน์ ยายของเด็กชายที่เสียชีวิต พาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจุดที่บริเวณฝาเบ้าที่โดนทุบ ซึ่งได้มีการซ่อมแซมฉาบปูนใหม่ปิดเอาไว้เรียบร้อย แต่ทาง ..อุไรรัตน์ฯ ได้ถ่ายรูปที่เกิดเหตุเก็บไว้ ตอนสภาพที่ฝาเบ้าโดนทุบ และพบว่ากะโหลกศีรษะศพของหลานชาย โดนเจาะลักษณะเป็นวงกลมขนาดเท่าเหรียญสิบบาท,แผ่นหน้าผาก หรือปั่นเหน่งไป  โดยเชื่อว่าเคนร้ายที่ทำเป็นพวกแก๊งจอมขมังเวทย์ หรือ พวกกลุ่มเล่นไสยศาสตร์ ที่ต้องการนำไปทำเครื่องรางหรือของขลัง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า