อ้างไม่จ่ายโดน สตง.เล่นงาน สาวกาฬสินธุ์หลอกเก็บภาษีร้านค้าที่ร้อยเอ็ด

วันที่ 5 ต.ค. เวลา 14.00 น. เจ้าของร้านกาแฟ ถาวรคอฟฟี่ ติดธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าโรงเรียนวัดสระทอง ในเมืองร้อยเอ็ด แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่เทศกิจและตำรวจให้มาตรวจสอบหญิงสาวที่สวมชุดข้าราชการ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดเก็บภาษีของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด นำใบเสร็จรับเงินมายื่นขอเก็บค่าภาษีป้าย 600 บาท

เจ้าของร้านระบุว่า ตนแปลกใจที่เก็บมากเกินปกติ เพราะปกติเคยเสียเพียง 200 บาท และเสียไปแล้วเมื่อต้นปี แต่กลับมีการมาเก็บซ้ำซ้อนอีก แถมมาเก็บเงินในวันหยุด แต่คนที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กล่าวว่า สาเหตุที่แพงเนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่าชื่อร้านเขียนเป็นภาษาอังกฤษทำให้ต้องเสียภาษีแพงขึ้น

ส่วนสาเหตุที่ต้องออกมาเก็บเงินวันหยุด เพราะสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มาถ่ายภาพทางร้านแล้วแจ้งไปยังเทศบาลว่าทำผิดระเบียบสั่งให้ดำเนินคดี จึงเร่งออกมาเก็บเงินในวันหยุดไปเคลียร์กับ สตง.ให้  และสิ่งที่ทำให้ตนสงสัย คือใบเสร็จที่เขียนมายื่นขอเก็บเงินภาษีป้าย จำนวน 600 บาท ไม่ได้มีการประทับตราของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จึงแจ้งเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เทศบาล ทั้ง ผอ.กองคลัง และฝ่ายนิติกร เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ยืนยันว่าไม่รู้จักกับหญิงคนดังกล่าว จึงควบคุมตัวส่ง พ.ต.ท.สมัย มงคลชู พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและความเป็นมาของหญิงคนดังกล่าว

หลังสอบสวน น.ส.พิทยาภรณ์ แสงดวงตา อายุ 46 ปี ยืนยันว่าตนเองเป็น เจ้าหน้าที่ของคลังของเทศบาลจริง แต่อยู่ที่เทศบาลตำบลธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มาแอบอ้างว่าได้รับมอบหมายจาก สตง.ให้มาเคลียร์ปัญหาก่อนที่ร้านค้าต่างๆ จะถูกดำเนินคดี ซึ่งมีคนหลงเชื่อจ่ายเงินให้จำนวนมาก จนกระทั่งถูกจับได้ในวันนี้

เมื่อตรวจค้นในรถพบเอกสารแผ่นพับ งานจัดเก็บพัฒนารายได้กองคลัง ของเทศบาลตำบลธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์,  ใบเสร็จที่เขียนแล้วแต่ยังไม่ได้เก็บเงิน พร้อมสมุดต้นขั้วในเสร็จรับเงินที่เก็บเงินไปแล้วจำนวน 1 เล่ม จึงยึดไปประกอบสำนวนการสอบสวน

ขณะที่นายวัชรากร ถาปาลบุตร เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ หญิงสาวคนดังกล่าวได้อ้างตัว เป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด นำใบเสร็จปลอมไปเก็บเงินภาษีตามร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด นับ 100 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวอยู่ และล่าสุดวันนี้ก็รับแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุ หลอกเก็บเงินร้านค้าในเมืองร้อยเอ็ดไปถึง 3 แห่งด้วยกัน ทั้งนี้พบมี เจ้าทุกข์ที่ถูกหลอกลวงเก็บเงิน ตั้งแต่ 800, 1,680, 2,000 และสูงสุด 2,760 บาท