SHARE

คัดลอกแล้ว

ในห้วงสุดท้ายของโควิด-19 ทั้ง ‘ดาบพิฆาตอสูร’ และ ‘อีเรียมซิ่ง’ คล้ายกับเป็นผู้ปลุกชีวิตวงการภาพยนตร์ที่อ่อนกำลังให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ปรากฎการณ์ ‘หนังท้องถิ่น’ ดึงคนคืนโรงจึงเกิดขึ้น ปลุกส่วนแบ่งตลาดหนังไทยในภาวะวิกฤตและปลุกกำลังใจคนทำหนังอย่าง ‘เอ็ม พิคเจอร์ส’ ให้เร่งเพิ่มทุนสร้างผลงาน รุกชิงส่วนแบ่งตลาดหนังฮอลลีวู้ด

‘พรชัย ว่องศรีอุดมพร’ หรือ ‘หว่อง’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ เอ็ม พิคเจอร์ส กรุ้ป เปิดเผยกับ workpointTODAY ว่า บริษัทฯ เตรียมเพิ่มเม็ดเงินลงทุนราว 100% จากปี 2563 หรือคิดเป็นเม็ดเงินรวมกว่า 400-500 ล้านบาท เพื่อผลิตภาพยนตร์ไทยออกฉายในปี 2564 เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากประมาณ 10 เรื่องต่อปีเป็น 20 เรื่องต่อปี หวังช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดหลังวิกฤตโควิด-19 ที่ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดประสบปัญหาขาดความต่อเนื่องในการออกฉาย

โดยในปี 2563 ภาพยนตร์ไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเติบโตขึ้นราว 50% ทำให้สามารถดึงส่วนแบ่งรายได้จากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดกลับเข้ามาได้ประมาณ 10-15% จึงคาดว่าเมื่อจบปี 2563 ภาพยนตร์ไทยจะสามารถขยับส่วนแบ่งรายได้ในตลาดจาก 15 : 85 ขึ้นไปที่ 25 : 75 ได้สำเร็จ ส่วนในปี 2564 เอ็ม พิคเจอร์สเชื่อว่าจะสามารถขยับสัดส่วนแบ่งทางการตลาดของภาพยนตร์ไทยขึ้นไปที่ 30 : 70 ด้วยการผลักดันภาพยนตร์ออกฉายให้มากขึ้นกว่าเดิมและต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“เราไม่สามารถพึ่งพิงฮอลลีวู้ดได้อีกต่อไป ต้องมีหนังไทยมากขึ้นในตลาดมาทดแทนส่วนที่หายไปและกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากผลกระทบของโควิด”

‘พรชัย ว่องศรีอุดมพร’ หรือ ‘หว่อง’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ เอ็ม พิคเจอร์ส กรุ้ป

100 ล้านเรื่องแรกในรอบปี ‘อีเรียมซิ่ง’ หนังท้องถิ่นดึงคนคืนโรง

ผู้บริหารเอ็ม พิคเจอร์ส อธิบายว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดอย่างหนัก ทำให้รายได้ในอุตฯ ช่วง 4-5 เดือนแรกลดลงไปกว่า 80-90% ก่อนจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยจากการเข้ามาของภาพยนตร์ต่างชาติฟอร์มยักษ์อย่างเทเน็ต (TENET) แต่รายได้ก็ยังคงลดลงจากช่วงเวลาปกติราว 50% ก่อนเริ่มขยับใกล้เคียงกับช่วงปกติเกือบ 100% ตั้งแต่ช่วงที่ภาพยนตร์อีเรียมซิ่งเข้าสู่โรง

ภาพยนตร์ ‘อีเรียมซิ่ง’ เข้าสู่โรงภาพยนตร์ในช่วงที่รัฐบาลเริ่มควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างเด็ดขาด ภาวะเศรษฐกิจเริ่มลดความตึงเครียดขึ้นจากมาตรการคนละครึ่ง รวมถึงเข้าสู่เทศกาลปิดเทอมและเข้าใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้คนไทยเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ประกอบกับอีเรียมซิ่งเป็นภาพยนตร์ไทยที่มีอรรถรสขำขันบันเทิงตรงกับความชอบของคนไทยและสามารถรับชมได้ทุกเพศทุกวัย จึงส่งให้ภาพยนตร์อีเรียมซิ่งทำรายได้แตะ 100 ล้านเรื่องแรกในรอบปี และน่าจะขยับแตะ 200 ล้านบาทในอีกไม่ช้า คาดจะเก็บรายได้ราว 220 ล้านบาทเมื่อออกจากโรง

โดย ‘พรชัย’ เชื่อว่า ความต่อเนื่องของกระแสภาพยนตร์ที่ทยอยเข้าฉายทั้งอีเรียมซิ่ง ไปจนถึงอ้ายคนหล่อลวง และดาบพิฆาตอสูร อนิเมชันเรื่องดันจากฝั่งญี่ปุ่นจะช่วยส่งกระแสให้โมเมนตัมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปีหน้าสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยคาดว่าภาพยนตร์ไทยจะสามารถออกฉายและมีผลประกอบการในระดับที่ดี แต่ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอาจจะต้องปรับแผนหลายส่วน โดยอยู่ระหว่างรอดูกระแสตอบรับของวันเดอร์วูแมนที่จะเข้าฉายในช่วงต้นปีหน้า

“การป้องภาพยนตร์ไทยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องมีผลอย่างมากต่อการรักษากระแสการรับชมภาพยนตร์เอาไว้ ไม่ว่าภาพยนตร์จะประสบสำเร็จหรือไม่ก็ตาม เอ็ม พิคเจอร์สฯ จึงเตรียมที่จะป้อนหนังไทยเข้าสู่ตลาดต่อเนื่องเดือนละ 1-2 เรื่อง”

‘ดาบพิฆาตอสูร’ ทำรายได้อันดับ 3 สูงสุดตลอดกาล ปรากฎการณ์ที่ทั่วโลกจับตา

ด้าน ‘พิชชาภา ณรงค์พันธ์’ หรือ ‘กอล์ฟ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟว์ สตาร์ เอเจนซี่ และกรรมการผู้บริหาร บริษัท เจแปน อนิเม มูฟวี่ ไทยแลนด์ จำกัด อธิบายว่า ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการปิดโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศเช่นเดียวกับในไทย ก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการในเดือน ส.ค. และมีภาพยนตร์ รวมถึงภาพยนตร์อนิเมชันเข้าฉายแล้วอย่างน้อย 2-3 เรื่องที่มีกระแสค่อนข้างดีต่อเนื่องกันมาเรื่อยๆ 

ก่อนจะ ‘ดาบพิฆาตอสูร’ หรือ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Train จะเข้าฉายในเดือน ต.ค. และกลายเป็นดาวรุ่งที่พุ่งขึ้นสู่หนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ของญี่ปุ่น รวมถึงมีโอกาสจะขึ้นสู่อันดับ 1 ตลอดกาลแซงหน้า Spirited Away ที่ครองแชมป์มาเกือบ 20 ปี หลังทำรายได้ในประเทศแล้วกว่า 8,000 ล้านบาท

จนมาถึงการเข้าฉายในประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ดาบพิฆาตอสูรทำรายได้ในรอบพิเศษระหว่างวันที่ 3-8 ธ.ค. ไปถึง 12 ล้านบาท ก่อนในวันที่ 9 ธ.ค. 2563 หรือวันออกฉายทั่วประเทศวันแรกจะทำรายได้กว่า 7.6 ล้านบาท รวม 1 สัปดาห์แรกทำรายได้ไปราว 19 ล้านบาท และขึ้นแท่นอนิเมชั่นที่มียอดเปิดตัวสูงสุด อันดับ 1 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 

“ดาบพิฆาตอสูร ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์อนิเมชันที่ได้ออกฉายทั่วประเทศไทยกว่า 400 โรง ได้รับความนิยมจากเด็กและผู้ใหญ่หลากหลายวัย ทำให้โรงในต่างจังหวัดอย่างเชียงรายหรือนครศรีธรรมราชเต็มทุกโรง โดยเชื่อว่าสาเหตุมาจากเนื้อหาที่สนุกและกินใจ ร่วมกับกระแสของมังงะและอนิเมะที่ดีมากๆ จนแซงความนิยมของวันพีชที่ติดตลาดมานานกว่าสิบปีในญี่ปุ่นและในไทย”

‘พิชชาภา’ เชื่อว่า หลังจากโควิด-19 ส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจบีบให้คนต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง การเลือกชมภาพยนตร์ก็จะต้องทำอย่างรอบคอบมากขึ้น เลือกเฉพาะเรื่องที่อยากดูจริงๆ ก่อน โดยในปีหน้าบริษัทฯ ก็เตรียมแผนเลือกภาพยนตร์อนิเมชันที่สอดคล้องกับตลาดที่ยังมีกำลังซื้อ เน้นกลุ่มวัยมัธยม วัยมหาวิทยาลัย วัยทำงานมากขึ้น เนื่องจากภาพยนตร์ในกลุ่มเด็กเล็กอย่างชินจังหรือมาสไรเดอร์ยังคงเปราะบางกับการเข้าโรงภาพยนตร์

‘พิชชาภา ณรงค์พันธ์’ หรือ ‘กอล์ฟ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟว์ สตาร์ เอเจนซี่ และกรรมการผู้บริหาร บริษัท เจแปน อนิเม มูฟวี่ ไทยแลนด์ จำกัด (คนที่ 3 จากซ้าย)

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า