ศาลฎีกาสั่งจำคุกทักษิณ 5 ปี คดีแก้กฎหมายเอื้อบริษัทตัวเอง รวมคดีเก่าคุก 10 ปี

ศาลฎีกาแผนกคดีนักการเมืองตัดสินคดีเก่า ทักษิณ คดีแปลงสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเอื้อชินคอร์ป จำคุก 5 ปี เผยเคยจำหน่ายคดีชั่วคราวเพราะหลบหนีคดี แต่ภายหลังมีกฎหมายใหม่ให้ตัดสินได้แม้ไม่ได้ตัวจำเลยมา

วันที่ 30 ก.ค. 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยให้บุคคลอื่นมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทน ในกรณีของการถือหุ้น บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองและผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต

จากกรณีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพาสามิต ด้วยการตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพาสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจ บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้ค่าสัมปทานที่ต้องชำระให้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ลดลงด้วยการ สั่งการให้ออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2546 พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 พ.ศ.2546 ประกาศกระทรวงการคลังเรื่องลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 68 ) ลงวันที่ 28 ม.ค.2546 และมติ ครม. วันที่ 11 ก.พ.2546 ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท

ศาลพิพากษาให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำคุก 2 ปี

ส่วนกรณีที่จำเลย ออกประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งมีผลให้ลดอัตราภาษีของกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากร้อยละ 50 เหลือร้อยละ 10 และต่อมามีมติคณะรัฐมนตรีให้คู่สัญญาเอกชนนำภาษีสรรพสามิตหักออกจากส่วนแบ่งรายได้ค่าสัมปทานที่คู่สัญญาภาคเอกชนจะต้องนำส่งให้คู่สัญญาภาครัฐได้ ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และทำให้ภาครัฐเสียหาย สั่งจำคุกฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการเข้ามีส่วนได้เสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุก 3 ปี รวมเป็นจำคุก 5 ปี

ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ถูกตัดสินจำคุก คดีเอ็กซิมแบงก์ 3 ปี, คดีหวยบนดิน 2 ปี และคดีล่าสุดอีก 5 ปี รวมโทษจำคุก 10 ปี

สำหรับคดีนี้เคยถูกจำหน่ายออกจากสารบบชั่วคราว เนื่องจากนายทักษิณหลบหนี แต่ภายหลังมีการใช้ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งสามารถพิจารณาคดีได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย จึงมีการนำเข้าสู่การพิจารณาใหม่ เมื่อปี 2561