รวบ 4 ลูกจ้างเมียนมาฆ่าโหด ปาดคอเสี่ยชาวจีนหมกห้องพักร้านอาหาร

เกิดเหตุชายชาวจีนถูกฆ่าปาดคอ คาร้านอาหาร ย่านทาวน์อินทาวน์  ล่าสุด รวบผู้ก่อเหตุได้แล้ว 4 คน เป็นชาวเมียนมา อ้างแค้นที่ถูกผู้ตายต่อว่า เวลาตั้งวงกินเหล้าเสียงดัง

ล่าสุด วันนี้(30 ส.ค. 2562) เวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องก่อเหตุ 3 คน ประกอบด้วย นายอาซิง, นายอาตี้, นายเจยี่ สัญชาติเมียนมา ซึ่งถูกจับกุมได้ที่พัทยา จ.ชลบุรี และต่อมาสามารถจับกุมตัว นายอาเกอร์ ได้ที่ จ.ระยอง รวมเป็น 4 คน มาสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง ส่วนผู้หญิงชาวพม่าอีก 3 คน ยังไม่สามารถจับกุมได้

หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เพราะไม่พอใจที่ผู้ตายมาว่ากล่าว เรื่องตั้งวงดื่มสุรากันเสียงดัง ซึ่งทำงานที่ร้านอาหารเเห่งนี้มาประมาณ 8 เดือน และมักจะตั้งวงดื่มสุราเป็นประจำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากกรณี วานนี้ (29 ส.ค. 2562) เวลา 11.00 น. ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในซอยรามคำแหง 39 (หน้าทาวน์อินทาวน์) ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ติดริมถนน ชั้นล่างเปิดเป็นร้านอาหารส่วนชั้นบนเป็นห้องพักของพนักงานร้าน ภายในห้องนอนช้้นบน พบศพนายเฉิน อายุ 51 ปี ชาวจีน ถูกของมีคมฟันบริเวณลำคอเป็นแผลขนาดใหญ่ 1 แผล ที่หน้าผาก 1 แผล ศีรษะ 1 แผล กระดูกข้อเท้าขวาหัก และมือขวาถูกฟันจนเละ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดที่เริ่มแข็งตัวอยู่บนพื้นห้อง ตรวจสอบสภาพห้อง พบว่ามีข้าวของกระจัดกระจาย เศษขวดสุราแตกหลายขวด และมีคราบเลือดทั่วห้อง พบมีดปังตอเลอะคราบเลือดวางอยู่บนฟูกที่นอน และท่อนเหล็ก 1 ท่อน รวมถึงพบเงินสด 19,000 บาท จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเจ้าของร้าน นายวิโรจน์ ให้การว่า ในร้านมีพนักงาน 7 คน ชาย 4 คน หญิง 3 คน เป็นต่างด้าวทั้งหมด วันนี้ก่อนเปิดร้านมีพนักงานหญิงโทรมาบอกว่า “เมื่อคืนก่อนพนักงานคนอื่นๆ ตั้งวงกินเหล้าแล้วมีเรื่องกัน เธอต้องไปหาพี่สาวก่อน” เขารู้สึกแปลกใจจึงให้คนเข้าไปดูที่ร้านก็ไม่พบใครเลยจึงขึ้นไปดูชั้นบนก็พบว่านายเฉิน เสียชีวิตแล้ว

ด้านญาติผู้ตายกล่าวว่านายเฉิน เป็นเพื่อนกับนายวิโรจน์ (เจ้าของร้าน) โดยนายเฉิน เดินทางมาที่ร้านตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. เพื่อมาดูร้านเตรียมจะบริหารต่อจากนายวิโรจน์ ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยลูกชายให้เงินมา 300,000 บาท ระหว่างนี้นายเฉิน จึงพักอาศัยอยู่ที่ร้านกับพนักงานคนอื่นๆ โดยที่ทางญาติก็ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกันหรือไม่