จับกุมสมาชิกยากูซ่า ลอบวางเพลิงบ้านคู่อริ ก่อนหนีกบดานในไทย

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงข่าวการจับกุมสมาชิกยากูซ่า ก่อคดีอย่างโชกโชน มีหมายจับ 12 คดี หนีเข้ามากบดานในเมืองไทย 

วันที่ 9 ก.ค. 62 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์  สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม. ฯลฯ ได้แถลงข่าวการจับกุมคดีสำคัญ ซึ่งได้รับการประสานงานจาก สอท. ญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ขอให้ สตม. สืบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้กระทำความผิดแล้วหลบหนีคดีมาพำนักในประเทศไทย

โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 62 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.วัชรพล กาญจนกันทร ผกก.1 บก.สส.สตม. และ พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ ฯลฯ พร้อมกำลัง ได้จับกุม นายคาซึฮิโกะ ยามาซากิ อายุ 62 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของทางการญี่ปุ่น มีหมายจับออกโดยศาลจังหวัดอากิตะ ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ในคดีวางเพลิงเผาทรัพย์

พฤติการณ์คือ นายคาซึฮิโกะ ยามาซากิ เป็นสมาชิกยากูซ่า แก๊งอินากาว่า เป็นสมาชิกระดับกลางขึ้นไป มีคดีติดตัวในประเทศญี่ปุ่น 12 คดี เช่น ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน และคดีที่ถูกออกหมายจับคือ คดีวางเพลิงบ้านของญาติคู่อริ ก่อนที่จะหลบหนีมาไทย ซึ่งแก๊งอินากาว่า เป็นแก๊งที่ไม่ใหญ่มาก แต่เป็นแก๊งที่มีความโหดเหี้ยมระดับต้นๆ ของยากูซ่าในประเทศญี่ปุ่น

ในระหว่างที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้มีปัญหากับคนญี่ปุ่น และได้มีการขู่ฆ่า เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตาม และจับกุมนายคาซึฮิโกะ  ตามวันเวลาดังกล่าว

นายคาซึฮิโกะ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้เดินทางเข้ามาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 62 ประเภทวีซ่า ผ.30 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ถึงวันที่ 18 ก.ค. 62 การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด ผบก.สส.สตม. จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และควบคุมตัวไว้ที่ กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อรอการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป

ที่มา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง