จง ซานซาน ขายน้ำดื่มอย่างไร ให้รวยเทียบชั้นแจ็ค หม่า

1. นายจง ซานซาน (Zhong Shanshan) ถูกจัดอันดับโดย Bloomberg Billionaires Index ให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของจีน รวยแซงหน้ามหาเศรษฐีจากโลกเทคโนโลยีอย่างแจ็ค หม่า เจ้าพ่ออาลีบาบา (Alibaba) และโพนี หม่า แห่งเทนเซ็นต์ (Tencent) ไปแล้ว

การจัดอันดับมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กในวันที่ 25 ก.ย. ชี้ว่า นายจงร่ำรวยเป็นอันดับที่ 18 ของโลก ขณะที่นายแจ็ค หม่าอยู่ในอันดับที่ 19 และรั้งอันดับที่ 2 ของเอเชีย เป็นรองมูเกซ อัมบานี เจ้าของโครงข่ายโทรคมนาคมและธุรกิจน้ำมันในอินเดีย

2. ปัจจุบันนายจงมีทรัพย์สินอยู่ที่ราว 56,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 1.8 ล้านล้านบาท โดยมีทรัพย์สินงอกเงยขึ้นถึง 8 เท่าในช่วงเวลา 9 เดือน

3. ธุรกิจในมือของนายจงมีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่ธุรกิจก่อสร้าง บริษัทยา แต่ที่สร้างรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำที่สุด หนีไม่พ้นหนงฟู่ สปริง (Nongfu Spring Co.) น้ำดื่มฝาแดงที่มีขายทุกพื้นที่ทั่วประเทศจีน

4. ความร่ำรวยแบบก้าวกระโดดจนแซงมหาเศรษฐีจีนหลายคน ไม่ได้มาจากการขายน้ำดื่มโดยตรง แต่มาจากการนำบริษัทน้ำดื่มเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นของหนงฟู่ สปริง พุ่งสูงขึ้นถึง 85% ในวันแรกที่เข้าทำการซื้อขาย

5. นายจงเป็นมหาเศรษฐีที่ถูกตั้งสมญานามว่าเป็น “หมาป่าเดียวดาย” (Lone wolf) เนื่องจากเขาไม่ชอบปรากฎต่อสาธารณะ และไม่ยุ่งการเมือง

จากประวัติชีวิตที่มีเปิดเผยไม่มากนัก นายจง ซึ่งปัจจุบันอายุ 66 ปี เป็นอดีตนักเรียนที่ต้องเลิกเรียนกลางคันในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศจีน เขาหาเลี้ยงตัวเองด้วยการทำงานหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การไปเป็นนักข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในมณฑลเจ้อเจียง ไปจนถึงการเป็นเซลล์แมนบริษัทเครื่องดื่ม ซึ่งปูทางให้เขาเริ่มธุรกิจของตัวเองเมื่อปี 2539 และผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดขายครั้งแรกในปี 2540

6. จุดขายของน้ำดื่มหนงฟู่ สปริง คือการระบุว่า เป็นน้ำดื่มที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติในมณฑลเจ้อเจียง ก่อนจะขยายแหล่งน้ำดิบเป็น 10 แห่ง เพื่อนำมาผลิตน้ำดื่มหนงฟู่ สปริงให้เพียงพอจำหน่ายทั่วประเทศ

จุดแข็งอีกอย่างของน้ำดื่มหนงฟู่ สปริงคือสามารถซื้อหาได้ทุกที่ทั่วจีน ตั้งแต่ร้านโชห่วยในชนบท ไปจนถึงในโรงแรมหรู ซึ่งหนงฟู่ สปริง ระบุว่า สามารถครองส่วนแบ่งได้ถึง 21% ของตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดของจีน โดยปีที่แล้วปีเดียว หนงฟู่ สปริง ทำยอดขาย 24,000 ล้านหยวน หรือราว 110,000 ล้านบาท

นอกจากน้ำดื่มแล้ว หนงฟู่ สปริง ยังขยายฐานลูกค้าด้วยการผลิตน้ำอัดลม น้ำชา น้ำผลไม้และน้ำผสมวิตามินจำหน่ายด้วย

7. ส่วนอีกธุรกิจของนายจงที่ทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมากในปีนี้คือบริษัทยา Beijing Wantai Biological Pharmacy ที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เเมื่อเดือนเมษายน ในเวลาไล่เลี่ยกับการประกาศว่า บริษัทยาแห่งนี้ได้ร่วมพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ด้วย ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น 24 เท่าตัว

8. จากทั้ง 7 ข้อจะเห็นได้ว่า ความร่ำรวยของนายจงมาจากการนำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งก็ไม่ต่างจากมหาเศรษฐีจีนรายอื่นๆ ที่กำลังมีทรัพย์สินมากขึ้นจากการนำบริษัทที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองเข้าตลาดหุ้น

รายงานของเครดิต สวิส (Credit Suisse) ชี้ว่าเมื่อปีที่แล้ว จีนมีมหาเศรษฐีในประเทศมากถึง 4.4 ล้านคน โดยมีเศรษฐีป้ายแดงเพิ่มขึ้นปีเดียวถึง 158,000 คน

9. ความร่ำรวยของนายจงยังสวนกระแสมหาเศรษฐีทั่วโลกที่ในตอนนี้ มหาเศรษฐีส่วนใหญ่มักร่ำรวยมาจากธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่ไม่ใช่กับเขาที่เติบโตมาจากธุรกิจเครื่องดื่มเป็นหลัก

นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยที่ทำให้เจ้าของแบรนด์น้ำดื่มรวยเทียบชั้นเจ้าพ่อเทคโนโลยีได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ที่ทำให้เจ้าของเทคโนโลยีในจีนประสบปัญหาทำธุรกิจกับต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่กำลังเป็นคู่ขัดแย้งกับจีนในตอนนี้

10. นักวิเคราะห์มองว่า ความร่ำรวยเป็นอันดับ 1 ในจีนของนายจงอาจไม่ยืนยาวนัก และแจ็ค หม่า จะมาทวงบัลลังก์เศรษฐีในเดือนหน้า จากการที่ Ant Group บริษัทฟินเทคในเครืออาลีบาบาของแจ็ค หม่า จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งอาจระดมทุนได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.1 ล้านล้านบาท และทำให้บริษัท Ant Group ของแจ็ค หม่า มีมูลค่าพุ่งไปอยู่ที่เกือบ 8 ล้านล้านบาททีเดียว